|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"โตโยต้า" ประสบปัญหาหนัก ไม่สามารถผลิตรถยนต์ในโครงการ IMV ปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ และเอสยูวีรุ่นฟอร์จูนเนอร์ เพียงพอกับความต้องการจากทั่วโลก จนมีข่าวลือสะพัดทั้งในและต่างประเทศ โตโยต้าเล็งทุ่มอีกเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ตั้งโรงงานใหม่เป็นแห่งที่ 3 ในไทย หลังกวาดซื้อที่ดินและโกดังร้างกว่า 20-30 ไร่ บริเวณใกล้โรงงานสำโรงไปแล้ว สิ้นปีเริ่มก่อสร้าง
หลังจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประกาศลงทุนโครงการ IMV (Innovative International multi-purpose vehicle) ในไทย เป็นจำนวนเงินสูงถึงกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ไทยเป็นฐานในการจัดหาชิ้นส่วนและผลิตปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ และ รถอเนกประสงค์ฟอร์จูนเนอร์ สำหรับทำตลาดในไทยและส่งออก 140 ประเทศทั่วโลก โดยได้ทยอยเปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้า ทั้งตลาดในไทยและต่างประเทศอย่างดี จนปัจจุบันมีปัญหาไม่สามารถผลิตรถได้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหากำลังการผลิตไม่เพียงพอดังกล่าว มีรายงานว่าขณะนี้โตโยต้ากำลังเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต ด้วยการตั้งไลน์การผลิตใหม่ หรือตั้งโรงงานแห่งใหม่ ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานสำโรง จ.สมุทรปราการ และจะเป็นโรงงานแห่งที่สามของโตโยต้า จากปัจจุบันแห่งแรกอยู่ที่สำโรง ผลิตปิกอัพและรถอเนกประสงค์ประเภทเอสยูวีในโครงการ IMV และแห่งที่สองอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา สำหรับผลิตรถยนต์นั่งหรือเก๋ง
"โตโยต้าได้มีการเตรียมพร้อมในการแก้ปัญหาไว้แล้ว โดยอาจจะขยายไลน์การผลิตเพิ่มในบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานปัจจุบันที่สำโรง ซึ่งโตโยต้าได้ทยอยซื้อที่ดินและเป็นโกดังร้าง ตั้งแต่บริเวณด้านข้างโรงงานโตโยต้าสำโรงไปจนถึงถนนปู่เจ้าสำโรง เป็นจำนวนกว่า 20-30 ไร่ เพื่อเพิ่มไลน์การผลิตรถยนต์ในโครงการ IMV ที่กำลังมีปัญหาผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า" แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์กล่าว
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานข่าวโดยอ้างโฆษกบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รถยนต์ปิกอัพและอเนกประสงค์ในโครงการ IMV ที่ผลิตในประเทศไทย ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า จนผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งกำลังดูว่าจะทำอย่างไรให้สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการดังกล่าว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการตั้งโรงงานใหม่หรือไม่
"เรากำลังจะเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานสำโรง งานจาก 250,000 คัน เป็น 300,000 คัน ภายในปีนี้ แต่เรายังไม่ตัดสินใจเรื่องการจะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างไรในอนาคต" โฆษกโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นกล่าว
พร้อมกันนี้ยังอ้างรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ นิฮง เคไซ ชิมบุง ว่าโตโยต้ามีแผนที่จะลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 5 หมื่นล้านเยน หรือ 485 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณกว่า 1.89 หมื่นล้านบาท จากอัตราแลกเปลี่ยน 39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ในการตั้งโรงงานแห่งที่สามในประเทศไทย สำหรับรองรับการผลิตรถยนต์โครงการ IMV เพื่อทำตลาดทั่วโลก โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เคยแจ้งว่า ภายในปี 2549 จะเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ในโครงการ IMV ในไทยเป็นจำนวนกว่า 500,000 คันต่อปี แต่หนังสือพิมพ์นิฮง เคไซ ชิมบุง ได้ประเมินความต้องการของลูกค้าแล้ว คาดว่าโตโยต้าอาจจะต้องเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้สูงถึง 700,000 คันต่อปีเลยทีเดียว
เรื่องดังกล่าว นายโยชิโอะ ชิราอิ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในภูมิภาคอาเซียน ในงาน The Toyota Great Multipurpose Vehicle Adventure เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2548 ที่ประเทศออสเตรเลียว่า ขณะนี้โตโยต้ากำลังประสบปัญหาไม่สามารถผลิตรถยนต์ในโครงการ IMV ให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดได้ แม้จะทำการผลิตครบทั้ง 2 กะ พร้อมกับทำงานนอกเวลา และเร่งเวลาการผลิตต่อคันจาก 1.7 นาที เป็น 1.1 นาทีต่อคัน แล้วก็ตาม
"แม้ขณะนี้โตโยต้ากำลังประสบปัญหา ไม่สามารถผลิตรถได้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า แต่เราก็กำลังหาวิธีแก้ปัญหานี้อยู่ แต่จะเป็นการตั้งโรงงานแห่งใหม่หรือไม่ ขณะนี้เรายังตอบไม่ได้ เช่นเดียวกับที่จำนวนเงินลงทุนโรงงานแห่งใหม่กว่า 1.89 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการคาดการณ์ของหนังสือพิมพ์นิฮง เคไซ ชิมบุง ซึ่งเราบอกได้แต่เพียงว่าโตโยต้ากำลังหาทางแก้ปัญหานี้อยู่"
|
|
|
|
|