แบงก์พาณิชย์แห่ออกหุ้นกู้ระดมทุน หวังเพิ่มเงินกองทุนและรองรับการปล่อยสินเชื่อ "กรุงไทย" เล็งออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิรวม 4 หมื่นล้าน ล็อตแรกขาย 1.5 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หวังเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2 เสริมความแข็งแกร่งและรองรับการขยายธุรกิจ พร้อมเล็งชงบอร์ดขอจ่ายปันผลสัปดาห์นี้ หลังวางเป้าตั้งสำรองเพิ่มเติมเฉลี่ยเดือนละ 300 ล้านบาท ยันสินเชื่อไม่สะดุดหลังแบงก์ชาติสั่งฟ้องผู้บริหาร โชว์ยอด 2 เดือนอนุมัติกว่า 2 หมื่นล้าน เผยแก้ไข หนี้กลุ่มแบงก์ชาติสั่งสำรองเข้มสำเร็จกว่า 3 รายวงเงิน 2 พันล้านบาท ด้านหุ้นกู้ "บัตรกรุงไทย" มูลค่า 3.5 พันล้าน นัก ลงทุนจองล้นกว่า 3 เท่า
ในช่วงต้นปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งต่างทยอยระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องการเงินมาใช้ในการเพิ่มสัดส่วนเงินกองทุน และรองรับการขยายสินเชื่อ นำโดยธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ที่เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิถึง 8,000 ล้านบาท จากแผนเดิมจะเสนอขายเพียง 6,000 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวยังมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ผ่านสาขาธนาคารที่หมู่เกาะเคย์แมนอีก 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ผ่านมาได้อนุมัติให้มีการแก้ไขให้ธนาคารสามารถหาเงินทุนเพื่อนำมาใช้ในกิจการของธนาคาร โดยให้ธนาคารหรือสาขาอื่นใดของธนาคารสามารถออกและเสนอขายหุ้นกู้ได้ทุกประเภทและรูปแบบ ภายในวงเงินรวมไม่เกิน 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ล่าสุด นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมที่จะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญในเดือนเมษายนนี้ เพื่อขอออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ภายในปีนี้วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเสนอขายได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2548 เนื่องจากเป็นช่วงที่เหมาะสม รวมทั้งยังสามารถบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
การขอออกหุ้นกู้ดังกล่าว ธนาคารขอวงเงินเผื่อไว้ก่อน เพื่อที่จะสะดวกต่อการบริหารความเสี่ยง โดยในเบื้องต้นเตรียมที่จะออกงวดแรกประมาณ 15,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี และ 10 ปี คาดว่าจะเป็นการออกสกุลเงินบาท ซึ่งจะต้องรอดูสถานการณ์ระยะหนึ่ง ว่ามีต้นทุนเป็นอย่างไร เพราะธนาคารจะขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้ ทั้งเงินสกุลบาทและเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งธนาคารจะเลือกต้นทุนที่ต่ำที่สุด
การออกหุ้นกู้นี้ เพื่อต้องการที่จะเข้าไปเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2 เสริมความแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐานบีไอเอสประมาณ 10% แบ่งเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ประมาณ 8% และเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2 ประมาณ 2% ดังนั้นหากมีการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ 15,000 ล้านบาท จะส่งผลให้เงินกองทุนขั้นที่ 2 ของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 4% และทำให้มีเงินกองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 12% นับว่าอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ
"การออกหุ้นกู้ดังกล่าวไม่ใช่ว่าแบงก์ขาดเงินกองทุนแต่ต้องการจะขยายธุรกรรมมากขึ้นเสริมรายได้ จึงต้องขยายเงินกองทุนขั้นที่ 2 เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าต้นทุนของแบงก์จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็สามารถบริหารความเสี่ยงได้แน่นอน" กรรมการผู้จัดการกล่าว
ยันปล่อยสินเชื่อตามเป้า
ส่วนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารนั้น ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท คิดเป็นลูกหนี้กว่า 2,000 ราย โดยจะกระจายไปในทุกๆ กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธนาคารยังปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตที่ดี ไม่ถดถอยหรือล่าช้า โดยเฉลี่ยของการอนุมัติสินเชื่อต่อเดือนประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งปีเชื่อว่ายอดการอนุมัติของธนาคารน่าจะอยู่ที่ระดับกว่า 100,000 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อสุทธิตามเป้าหมายประมาณ 70,000 ล้านบาทแน่นอน
"จากการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้รายได้และผลกำไรน่าจะเติบโตดี ธนาคารจึงได้ตั้งเป้าหมายที่จะกันสำรองเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 300 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจากการตั้งสำรองดังกล่าว ธนาคารคาดว่าจะมีกำไรเหลือเพียงพอต่อการจ่ายเงินปันผล โดยในสัปดาห์นี้จะเตรียมเสนอคณะกรรมการธนาคาร เพื่อขอจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น"
สำหรับประเด็นของลูกหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้สั่งให้ธนาคารสำรองเข้มงวดประมาณ 46,000 ล้านบาท และนำไปปรับปรุง กรณีดังกล่าวมีความคืบหน้ามากแล้ว โดยธนาคารได้เร่งแก้ไข หนี้ไปบ้างส่วนและมีการรายงานให้กับธปท.ได้รับทราบทุกๆ ไตรมาส โดยล่าสุดสามารถปรับเข้ามาเป็นลูกหนี้ที่ดีแล้วประมาณ 2-3 ราย คิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยแก้ไขหนี้และเป็นลูกหนี้ปกติได้ในเร็วๆนี้
นักลงทุนจองหุ้นกู้บัตรกรุงไทยล้น
ด้านนายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 3,500 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2551 อัตราดอกเบี้ย 4.4% ที่กำหนดขายในวันที่ 16 มีนาคมนี้ว่า นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมียอดแสดงความต้องการหุ้นกู้ในครั้งนี้มากกว่าจำนวนที่เสนอขายกว่า 3 เท่า
"ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เราเชื่อว่ามีผลมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งในด้านการเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิต ที่มีฐานสมาชิก บัตรเครดิตกว่าล้านใบ มีปริมาณการใช้บัตรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผลประกอบการดี และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมเทียบเท่ามาตรฐานสากล"
สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันและรอง รับธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคด้านอื่น โดยจะมีการนำเสนอทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และโปรแกรมส่งเสริมการตลาดที่แปลกใหม่เพื่อคืนกำไรแก่ผู้บริโภคตลอดทั้งปี
|