ทีทีแอนด์ที มั่นใจไม่ขาดทุนแล้วเหตุถึงจุดคุ้มทุนประเมินปี 48 รายได้ 7,800 ล้านบาท พร้อมตั้งงบลงทุน 2,100 ล้านบาท ขยายธุรกิจ เล็งรุกโทรศัพท์พื้นฐานในกทม.รอ กทช.ออกไลเซนส์
นายประสิทธิชัย กฤษณยรรยง ผู้อำนวยการสายงานการเงิน บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T เปิดเผยว่า ในปี 48 บริษัทจะไม่ขาดทุนจากปี 47 ที่มีผลขาดทุน 233 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทถึงจุดคุ้มทุนจากการลงทุนต่างๆ ในปีนี้ โดยบริษัทคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ 7,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปี 47 ที่มีรายได้ 6,763 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีรายได้จากการซื้อมาขายไปของอุปกรณ์โทรคมนาคมและการให้บริการระบบวงจรเช่าและบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ ฯลฯ
บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีหนี้ลดลงเหลือ 2,100 ล้านบาท จากเดิมที่มี 24,000 ล้านบาท เพราะบริษัทฯ ถึงกำหนดที่จะชำระหนี้ปีนี้ 1,600 ล้านบาท และนำเงินจากที่คาดว่าการแปลงวอร์แรนต์ 1,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถลดหนี้ได้จำนวน 2,600 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมีขาดทุนสะสมอยู่ 15,000 ล้านบาท
สำหรับงบลงทุนปีนี้ 2,100 ล้านบาท ในด้านบรอดแบนด์ 300 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทเพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 50,000 ราย จากขณะนี้ที่มีลูกค้า 20,000 ราย การดูแลโครงข่ายของบริษัท 900 ล้านบาท เพลย์โฟน 300 ล้านบาท ระบบการจัดเก็บเงิน (บิลลิ่ง) 400 ล้านบาท และที่เหลือลงทุนในระบบนิวเน็ตเวิร์กเจเนอเรชั่น ซึ่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากผลการดำเนินงานของบริษัท
ขณะนี้บริษัทเตรียมขยายการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในกรุงเทพฯจากเดิมที่บริษัทเน้นขยาย ในต่างจังหวัดซึ่งรอคณะกรรมการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ประกาศออกไลเซนส์ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งบริษัทก็พร้อมที่จะเข้าไปขอไลเซนส์ทันที
"บริษัทเชื่อว่าการขยายเครื่อข่ายในกทม.ของ TT&T นั้นจะสามารถดำเนินงานได้สะดวกกว่าการขยายเครือข่ายของบริษัท ทรู คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ซึ่งสามารถใช้ชุมสายเชื่อมต่อโทรศัพท์ที่ใกล้เพียง 30 กิโลเมตร แต่ต่างจังหวัดมีระยะทางที่มากกว่าในกทม."
|