|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยน๊อคซ์ ชี้แจงนักวิเคราะห์หลังราคาหุ้นทรุดต่ำจอง เดินหน้าโครงการเหล็กรีดร้อน 1.4 หมื่นล้าน หากผู้ถือหุ้นอนุมัติ 25 เม.ย.นี้ ยันไม่เพิ่มทุน มีกระแสเงินสดในมือ 4 พันล้านบาท แบงก์พร้อมปล่อยกู้ ด้าน ก.ล.ต.เผยเรื่องขยายลงทุนบจ. ตัดสินใจได้ตามปกติ ก.ล.ต.ดูแลในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเท่านั้น ส่วนนักวิเคราะห์กลับมาแนะซื้อหลังราคาหุ้นต่ำจอง ชี้ปมไม่ชัดเจน เพิ่มทุนเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้น
นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือ TNX เปิดเผยว่า ที่บริษัทฯ ได้มีการเสนอข้อมูลต่อนักวิเคราะห์วานนี้ (9 มี.ค.) เพื่อทำความเข้าใจกับนักวิเคราะห์ในเรื่องผลประกอบการของบริษัทและโครงการต่างๆ หลังจากที่ผ่านมาราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งเชื่อว่าจากการชี้แจงในครั้งนี้จะทำให้นักวิเคราะห์มีมุมมองต่อหุ้นของบริษัทดีขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนโครงการผลิตเหล็กรีดร้อน (Hot Rolled Coil) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็กไร้สนิม (Stainless Steel) ภายในวงเงินลงทุนไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาทนั้น จะดำเนินการต่อหรือไม่ต้องรอที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 เม.ย.และหากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติก็สามารถดำเนินการได้ภายใน 60 วัน ซึ่งอันดับแรกที่จะต้องทำคือ การหาซื้อที่ดินที่มีความ เหมาะสมจากที่ดินจากที่อื่น หรือจะเป็นที่ดินของบริษัทในเครือ TNX ก็ได้ แต่จะต้องมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งจะให้ฝ่ายบริหารการเงินเป็นผู้ดำเนินงาน
ส่วนเงินลงทุนนี้บริษัทสามารถที่จะจัดหาได้โดยที่ไม่ต้องมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพราะขณะนี้บริษัทมีกระแสเงินสดจำนวน 4 พันล้านบาท ซึ่งเงินส่วนที่เหลือก็จะมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงิน จากปัจจุบันที่บริษัทไม่มีหนี้ ทำให้สามารถกู้เงินได้จำนวนมาก และสถาบันการเงินต่างๆ ก็พร้อมที่จะให้กู้ เพราะบริษัทมีสินทรัพย์จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท และมีทุนจดทะเบียน 8 พันล้านบาท และบริษัทอาจจะมีการซื้อเครื่องจักรในลักษณะการผ่อนส่ง รวมถึงการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน ซึ่งขณะนี้ก็มีผู้ให้ความสนใจร่วมลงทุน แต่หากผู้ถือหุ้นมองว่า บริษัทฯ มีศักยภาพก็สามารถที่จะดำเนินการเองได้
"หากผู้ถือหุ้นอนุมัติลงทุนโครงการเหล็กรีดร้อน บริษัทก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยจะใช้เวลาก่อสร้างเสร็จได้ในปี 2550 บริษัทย้ำว่าบริษัทจะไม่มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อนำเงินมาลงทุนโครงการเหล็กรีดร้อน เพราะบริษัทมีศักยภาพที่จะหาเงินมาลงทุน เพราะขณะนี้บริษัทมีกระแสเงินสด 4,000 ล้านบาท เป็นบริษัทไม่มีหนี้มีศักยภาพที่จะกู้เงินได้จำนวนมาก ซึ่งหากโครงการเหล็กรีดร้อนสำเร็จก็จะทำให้รายได้ ของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะความต้องการใช้สเตนเลสปีละ 22 ล้านตัน และจะเพิ่มขึ้น 6% ทุกปี ก็จะส่งผลดีทำให้บริษัทมีรายได้ที่เติบโตเพิ่มขึ้น"
บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2548 จะเพิ่มขึ้น 10% ตามอุตสาหกรรมสเตนเลสที่มีการเติบโต ซึ่งจาก 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ที่น่าพอใจ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่า หากมองที่ปัจจัยพื้นฐานแล้ว หุ้น TNX ลงทุนได้ เนื่องเพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงพอสมควร แต่เนื่องจากยังมีปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นของ TNX คือ เรื่องการเพิ่มทุนจดทะเบียนที่จะมีผลต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งหากวันที่มีการประชุมผู้ถือหุ้นแล้วมีความชัดเจนว่าไม่มีการเพิ่มทุนก็จะมีการแนะซื้อหุ้น
ทั้งนี้ TNX มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตสเตนเลส จาก 200,000 ตันต่อปี เป็น 300,000 ตันต่อปี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ต้องการวัตถุดิบมากขึ้น ก็จะทำให้บริษัทต้องมีการดำเนินโครงการเหล็กรีดร้อน ซึ่งคาดว่าผลประกอบการของ TNX จะมีอัตราการเติบโตที่ไม่หวือหวามากนัก
ด้านนางณัฐญา นิยมานุสร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ก.ล.ต.) กล่าวว่า ในเรื่องการตัดสินใจทางธุรกิจซึ่งไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงระหว่างการนั้น เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจซึ่งขึ้นอยู่กับข้อบังคับของแต่ละบริษัทว่ามูลค่าโครงการขนาดใด คณะกรรมการสามารถอนุมัติได้ หรือมูลค่าโครงการขนาดใดที่จะต้องผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น
ส่วนในเรื่องประเด็นการเปิดเผยข้อมูลในหนังสือชี้ชวนนั้น ก.ล.ต.จะต้องมีการพิจารณาข้อเท็จจริงว่า ณ วันที่มีการเสนอขายหุ้นได้มีการ เปิดเผยข้อมูลครบถ้วนอย่างไร
หากมีการตรวจสอบพบว่าโครงการนั้นๆ เป็นโครงการที่มีการคิดที่จะดำเนินการหลังการเสนอขายหุ้น บริษัทจดทะเบียนก็จะไม่มีความผิด แต่ถ้าหากตรวจสอบพบว่าโครงการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนมีการคิดที่จะดำเนินการในขณะที่มีการเสนอขายหุ้น บริษัทจดทะเบียน ดังกล่าวก็จะมีความผิดในเรื่องของการไม่เปิดเผยข้อมูลให้มีความครบถ้วน ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับประเด็นการขยายธุรกิจ
|
|
|
|
|