เปิดใจ "กฤษณัน" โบกมือลาเอไอเอส หวังสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ มั่นใจเอไอเอสแข็งแรง ทีมผู้บริหารสานงานต่อได้ หลังทำงานหนักกว่า 30 ปี ถึงเวลาขอพักบ้าง อยู่เอไอเอส 3 ปีจากฐานลูกค้า 10 ล้านรายจนปัจจุบัน 15.5 ล้านราย หุ้นราคา 20 กว่าบาทถึงตอนนี้กว่า 120 บาทแล้ว ขณะที่ "ยิ่งลักษณ์" ยืนยันจากกันด้วยดี

นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นผู้บริหารของเอไอเอสตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยจะมีผลในสิ้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้โดยให้เหตุผลของการลาออกว่าอยากมีเวลาสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์

"ผมทำงานมากกว่า 30 ปี อยู่สายเทเลคอมมากกว่า 14 ปี ทำงานมาตลอด อยากพักบ้าง และที่สำคัญอยากให้เวลากับการสร้างครอบครัว อยากมีลูก เพราะปัจจุบันก็อายุมากแล้ว ตามจริงจะออกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่บังเอิญมีโครงการที่ต้องสานต่ออีกหลายอย่าง อย่าง SOHO โซลูชันก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งปัจจุบันทุกอย่างก็เดินไปด้วยดี จึงขอพักบ้าง"

ผู้บริหารเอไอเอส กล่าวว่า เข้ามาอยู่เอไอเอส 3 ปีที่แล้ว ในช่วงที่เอไอเอสมีลูกค้าในระบบประมาณ 10 ล้าน จนปัจจุบันมียอดลูกค้าประมาณ 15.5 ล้าน ตั้งแต่หุ้น 20 กว่าบาท จนปัจจุบันเกือบ 120 บาท มาด้วยความต้องการที่จะสร้างโครงสร้างทุกส่วนให้ดี ซึ่งปัจจุบันทุกอย่างก็ลงตัวหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างผู้บริหารที่สามารถทำงานทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง อย่างคุณฐิติพงศ์ เขียวไพศาล รับผิดชอบระบบพรีเพด วัน-ทู-คอล คุณอาทร เตชะตันติวงศ์ รับผิดชอบโพสต์ เพดจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ คุณอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล รับผิดชอบด้าน CRM และมองว่าทุกส่วนงานสามารถเดินต่อไปได้ท่ามกลางการแข่งขันในปัจจุบัน โดยในช่วงแรกนี้คงยังไม่มีใครนั่งในตำแหน่งนี้แทน เพราะมองว่าทุกอย่างเดินได้ด้วยผู้บริหารแต่ละส่วนที่มีอยู่

นายกฤษณัน กล่าวว่า ในชีวิตการทำงานที่ผ่านมา ผ่านการเป็นผู้บริหารระดับสูงของโนเกียในตำแหน่งประธาน เคยเป็นบอร์ดใหญ่ดูแล โนเกียใน 14 ประเทศมาแล้ว งานด้านการตลาดในประเทศไทยจึงเป็นเรื่องไม่หนักใจ ส่วนหลังจากออกจากเอไอเอสแล้ว ก็คงขอเวลาสักพักเพื่อทำตามสิ่งที่ต้องการ

"ในส่วนการแข่งขันของวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ มองว่าการแข่งขันเรื่องราคาก็คงมีต่อไป แต่เอไอเอสก็คงหันไปมองหาธุรกิจใหม่ที่จะสร้างรายได้ให้มากยิ่งขึ้นมากกว่าการลงมาเล่นเรื่องราคาอย่างเดียว" เป็นแนวคิดที่กฤษณันทิ้งไว้

ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการผู้อำนวยการจะเข้ามารักษาการในตำแหน่งดังกล่าวในช่วงแรก การลาออกของกฤษณันเกิดในช่วงการแข่งขันรุนแรงในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ โดยที่เบอร์ 2 และเบอร์ 3 ในตลาดอย่างดีแทค และออเร้นจ์ ใช้สงครามราคาที่เล่นกันหนักจนลงไปถีงนาทีละ 50 สตางค์ถึงแม้จะซ่อนประเด็นนาทีแรกไว้ก็ตาม ในขณะที่เอไอเอสจำเป็นต้องปรับแพกเกจใหม่ในรูปฟรีด้อม ดับเบิล เติมเท่าไหร่เพิ่มให้เท่าตัวซึ่งก็มีเงื่อนไขเช่นกัน รวมทั้งต้องปรับแนวทางไปหารายได้จากบริการนอนวอยซ์ แอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเป็นฐานรายได้ในอนาคต และการใช้กลยุทธ์ CRM ทุกรูปแบบเพื่อรักษา ฐานลูกค้าไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเซเรเนดที่มีการใช้งานจำนวนมากและเอไอเอส การ์ดสำหรับให้สิทธิประโยชน์ลูกค้าระบบโพสต์เพดทั่วไป

ด้านนางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า การลาออกของคุณกฤษณัน ไม่ได้เป็นเพราะแรงกดดันทั้งจากในองค์กร หรือจากการแข่งขันทางด้านราคาของตลาดแต่อย่างไร แต่เป็นไปตามความต้องการของคุณกฤษณันเองที่ต้องการสร้างครอบครัว ซึ่งก็เป็นไปตามความต้องการตั้งแต่เข้ามาร่วมงานกับเอไอเอส โดยในช่วงแรกต้องการมาเอไอเอสเพราะอยากร่วมงานกับบริษัทคนไทย แต่ก็มีเป้าหมายใหญ่ในเรื่องครอบครัว ซึ่งบอกไว้ตั้งแต่แรก

"มองในฐานะของคนที่มีครอบครัวแล้วก็เข้าใจ เราจากกันด้วยดีไม่มีอะไร"

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การลาออกของคุณกฤษณันนับเป็นการลาออกด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยหลังจากนี้ตนจะรักษาตำแหน่งนี้ไปก่อน แต่ก็ไม่มีระยะเวลาที่แน่นอนว่าจะแต่งตั้งผู้บริหารใหม่แทนเมื่อไร โดยจะเปิดโอกาสให้ทั้งคนในองค์กรที่เลื่อนขึ้นมา หรือคนนอกที่มีประสบการณ์ โดยมองว่าการลาออกของคุณกฤษณันในช่วงการแข่งขันของตลาดรุนแรงจะไม่ส่งผลกระทบกับการทำตลาดของเอไอเอส ทั้งนี้เพราะวางแผนงานทุกอย่างกันไว้พร้อมแล้ว ซึ่งเป็นแผนในระยะยาวที่ผู้บริหาร ทุกส่วนสามารถดำเนินงานต่อกันไปได้ ด้วยการทำงานเป็นทีม