"ภูเก็ตแฟนตาซี-ซาฟารีเวิลด์" เฮลั่น แบงก์ชาติอนุมัติแล้ววานนี้ 100 ล้าน ทำให้ได้เงินกู้เต็มจำนวน 120 ล้าน แบงก์ชาติอ้างความล่าช้าเกิดจากแบงก์พาณิชย์เพิ่งยื่นเรื่องวินาทีสุดท้าย บิ๊กไทยพาณิชย์ย้ำ "ผิน" เป็นลูกค้าเก่าแก่ ไม่มีปัญหากับแบงก์ ด้านคนภูเก็ตประสานเสียงหนุนรัฐ-แบงก์อุ้มภูเก็ต แฟนตาซี ชี้หากปิดกิจการจะกระทบท่องเที่ยวและทำให้ภูเก็ตขาดสีสัน ขณะที่ชาวเกาะพีพีที่ได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นสึนามิบุกทำเนียบร้องนายกฯ-วุฒิฯให้ค้านอพท.จัดผังเมืองใหม่บนเกาะ

กรณีที่นายผิน คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารและเจ้าของกิจการบริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี และบริษัท ซาฟารีเวิลด์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ได้ยื่นเรื่องขอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่านธนาคารพาณิชย์ 3 ครั้ง แต่ไม่ได้รับการอนุมัตินั้น วานนี้ (7 มี.ค.) นายยุทธพล สิงหะอำไพ ผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารสัมพันธ์ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อจำนวน 100 ล้านบาทให้แก่ บริษัท ภูเก็ต แฟนตาซี และบริษัทซาฟารีเวิลด์ ตามที่ยื่นคำขอแล้ว โดยแบ่งเป็นเงินของ ธปท. 80 ล้านบาท และธนาคารพาณิชย์อีก 20 ล้านบาท รวมเป็น 100 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูกิจการ

"ก่อนหน้านี้ได้อนุมัติไปแล้วจำนวน 20 ล้าน ครั้งนี้อีก 100 ล้าน ก็จะเท่ากับ 120 ล้าน เป็นไปตามสัดส่วน คือแบงก์ชาติ 100 แบงก์พาณิชย์ 20% โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อผ่านแบงก์พาณิชย์ 2 แห่ง"

นายยุทธพลอธิบายว่า ธปท.ไม่ต้องการให้คิดว่า เมื่อลูกค้าโวยจนเป็นข่าวแล้วธปท.ก็มาอนุมัติให้ เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอน แต่ที่ล่าช้าไปบ้างเนื่องจากธนาคารพาณิชย์ที่นายผินยื่นคำขอ ส่งเรื่องมายังธปท.ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันปิดรับพอดี และจะต้องพิจารณาตามคิว ซึ่ง ธปท.อาจทำงานล่าช้าไปบ้างเนื่องจากเป็นช่วงที่ใกล้ครบกำหนด จึงมีผู้ยื่นเรื่องเข้ามามาก

"สิ่งที่คุณผินขอมา แบงก์ชาติให้ทุกบาททุกสตางค์ตามที่ขอมา รวมทั้งผู้ประกอบการรายอื่นที่แบงก์พาณิชย์ยื่นเรื่องมาเราก็ให้หมด เพราะแบงก์เขา ต้องกลั่นกรองและพิจารณาความสามารถในการผ่อน ชำระก่อนที่จะเสนอมายังแบงก์ชาติอยู่แล้ว เนื่องจากแบงก์เขาเป็นผู้รับความเสี่ยงเอง ซึ่งเราไม่ได้มีหน้าที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง ดังนั้นเมื่อแบงก์ขอมาเราก็ให้หมด" นายยุทธพลกล่าว

ทั้งนี้ โครงการให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบเหตุสึนามิ ธปท.ได้คิดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารพาณิชย์เพียง 0.01% เพื่อให้นำไปปล่อยก็ให้แก่ผู้ประกอบการต่อ โดยกำหนดให้คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ต่อผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากภัยสึนามิ

ล่าสุด ณ วันที่ 4 มีนาคม ธปท.ได้อนุมัติสินเชื่อตามโครงการให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประกอบการที่ประสบภัยฯกับธนาคารพาณิชย์ไปแล้วทั้งสิ้น 45,143.3 ล้านบาท และถูกเบิกใช้ไปจำนวน 13,242.8 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเชื่อว่าคงไปจำเป็นต้องขยายวงเงินเพิ่ม

สำหรับประเภทธุรกิจที่ขอสินเชื่อเข้ามาแบ่งเป็นภาคบริการ เช่นการโรงแรมและการท่องเที่ยวคิดเป็น 88.2% ของวงเงินที่อนุมัติทั้งหมด ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขอเข้ามามากที่สุด รองลงมาคือธุรกิจค้าปลีก 6.8% ภาคการผลิต 3.6% และธุรกิจค้าส่ง 1.4%
บิ๊กไทยพาณิชย์หนุน

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารฯมีคณะกรรมการสินเชื่อที่มีหน้าที่อนุมัติ โดยใช้กระแสเงินสดของลูกค้าเป็นหลักในการพิจารณา ดังนั้น ถ้าการขอกู้เป็นไปตามขั้นตอนและเงื่อนไขครบถ้วน ธนาคารจะไม่ปฏิเสธลูกค้าอย่างแน่นอน

"กรณีของนายผินก็ไม่มีปัญหา คงเป็นเรื่องขั้นตอนของแบงก์ชาติ ส่วนทางเราจะเน้นหลักการบริหารความเสี่ยง หากบริษัทภูเก็ตแฟนตาซีและซาฟารีเวิลด์ มีคุณสมบัติครบถ้วนก็ไม่มีปัญหา เพราะแบงก์ไม่มีเรื่องส่วนตัวกับคุณผิน และคุณผินก็เป็นลูกค้าเก่า ทั้งสองบริษัทยังมีบัญชีอยู่ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเรามากกว่า" นายวิชิตกล่าว

หุ้น "SAFARI" ดิ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ซาฟารีเวิลด์ หรือ SAFARI วานนี้ ปิดที่ 3.36 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 2.89% มูลค่าการซื้อขาย 456,000 บาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการไม่ได้รับสินเชื่อ เนื่องจากธปท.ออกมาให้ข่าวว่าอนุมัติแล้วในช่วงบ่าย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ แนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นดังกล่าว เนื่องจากหุ้น SAFARI เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ นักลงทุนไม่ควรเข้าไปลงทุนหรือเก็งกำไร ประกอบกับธุรกิจของ SAFARI ถือเป็นธุรกิจที่ไม่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มอื่น

ทั้งนี้ SAFARI ต้องรับภาระขาดทุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงตั้งแต่เหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนนายผินออกมากล่าวว่า หลังจากที่เกิดสึนามิรายได้ของภูเก็ตแฟนตาซีหายไปประมาณ 320 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวที่ลดลงประมาณ 250 ล้านบาท และความเสียหายด้านอาคารประมาณ 70 ล้านบาท และปกติภูเก็ตแฟนตาซีจะมียอดผู้เข้าชมประมาณวันละ 1,000 คนต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 300 คนต่อวัน

คนภูเก็ตวอนรัฐ-แบงก์อุ้ม "ผิน"

นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) กล่าวว่า หากภูเก็ตแฟนตาซี ปิดตัวลงจริง คงจะกระทบกับการท่องเที่ยวของภูเก็ต และอันดามันพอสมควร เพราะภูเก็ตแฟนตาซีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของภูเก็ตและอันดามัน เนื่องจากในฝั่งทะเลอันดามันไม่มี แหล่งท่องเที่ยวในยามค่ำคืนขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับคนได้หลายพันคน และภูเก็ตแฟนตาซียังสามารถที่จะดึงคนให้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตจำนวนมาก

"ปัจจุบันภูเก็ตแฟนตาซีเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดไปแล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาภูเก็ต กระบี่ และพังงา เกือบจะทุกคนจะต้องเข้าชมภูเก็ตแฟนตาซีทั้งนักท่องเที่ยวคนไทย ชาวต่างชาติและโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียนิยมที่จะเข้าไปท่องเที่ยวที่ภูเก็ตแฟนตาซี และเป็นการเพิ่มวันพักเพิ่มอีก 1 คืน"

นายสัจจพล ทองสม ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา กล่าวว่า ในฐานะปลัดองค์การบริหาร ส่วนตำบลกมลา เจ้าของพื้นที่ที่ภูเก็ตแฟนตาซีตั้งอยู่ เห็นว่าหากปิดตัวลงจริงจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่กมลาจะได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่อื่นๆ เพราะภูเก็ตแฟนตาซีถือ เป็นเส้นใหญ่ทางเศรษฐกิจของหาดกมลาในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงเป็น จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่กมลา

นายพัฒนพงษ์ เอกวานิช นายกสมาคมธุรกิจ การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หากภูเก็ตแฟนตาซีปิดกิจการลงจริงๆ จะทำให้ภูเก็ตขาดแหล่ง ท่องเที่ยวที่สำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวไปใช้บริการ ในตลอดทั้งปี ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวมีน้อยมากอยู่แล้วในภูเก็ตในขณะนี้ ทุกวันนี้ภูเก็ตขายธรรมชาติทั้งชายหาด น้ำทะเล และภูเก็ตแฟนตาซียังสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่สำหรับใช้ในการประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ได้อีกด้วย

นายพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของภูเก็ตนั้นเท่าที่ทราบในขณะนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่และรายขนาดกลางได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินเกือบทั้งหมดแล้ว จะเหลือก็เฉพาะรายย่อยที่ขายสินค้าแบบแผงลอยที่ยังไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ เนื่องจากติดปัญหาทั้งในเรื่องของสถานที่ประกอบการ และไม่ได้เป็นลูกค้าธนาคารมาก่อน

ททท.ดื้อครม.จัดต่อภูเก็ตคลัสเตอร์

นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ยังคงเดินหน้าจัดโครงการเพื่อกระตุ้นคนไทยให้เที่ยวอันดามัน แม้ว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขอให้ระงับโครงการ Phuket's Cluster : Happiness Recharge ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยว ระดับไฮเอนด์ เดินทางไปท่องเที่ยวใน 6 จังหวัดภาคใต้ พร้อมกับร่วมลุ้นชิงรางวัลใหญ่ โดยททท. จะปรับรูปแบบของงานให้อยู่ภายใต้โครงการของแคมเปญ วันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา โดยรูปแบบยังคงให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกชิงโชครางวัล จากการ เดินทางไปท่องเที่ยวและใช้บริการสินค้าด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดอันดามัน แต่มูลค่าของรางวัลอาจลดน้อยลง ซึ่งตรงนี้ ททท.จะต้องขอเวลาศึกษารูปแบบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนจากนี้ไป สำหรับในเบื้องต้น ส่วนของรางวัล คงต้องจัดหาเอกชนมาร่วมสนับสนุนเช่นเคย ซึ่งรางวัลก็จะมีตั้งแต่ รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ แพกเกจทัวร์ และตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น

"การแจกรางวัลเหมือนการสร้างสีสันช่วงระยะสั้นให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ได้เป็นการสร้างนิสัยว่าการเที่ยวในประเทศไทยต้องมีรางวัลหลอกล่อเสมอไป ตรงนี้เชื่อว่านักท่องเที่ยวทุกคนเข้าใจดี ส่วนของรางวัลเมื่อปรับมาอยู่ในโครงการวันธรรมดา มูลค่าก็จะลดลง จากรถปอร์เช่ ก็เปลี่ยน มาเป็นรถยนต์ทั่วไป ไม่ต้องหรูหรา"

ทั้งนี้ สาเหตุที่ ครม.ระงับโครงการดังกล่าว เป็นเพราะต้องการประหยัดงบประมาณ และใช้เงินเท่าที่จำเป็น ซึ่งหากจัดโครงการนี้ขึ้นมา จะต้องตั้งเรื่อง ขอวงเงินเพิ่มเติมถึง 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงิน ที่มาก ขณะที่ถ้าปรับมาเป็นแคมเปญ ที่อยู่ในโครงการ วันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ก็จะใช้งบปกติที่มีอยู่ แล้ว หาผู้สนับสนุนของรางวัลเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนกลุ่มเป้าหมาย จากเดิมที่ตั้งไว้ที่นักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ก็เปลี่ยนมาจับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ททท.ยังได้ปรับแผนการทำงานใหม่ภายใต้กรอบงบประมาณพิเศษ ในการทำตลาดท่องเที่ยวภายหลังการเกิดสึนามิ ในวงเงิน 700 ล้านบาท ซึ่งในที่นี้ส่วนหนึ่งจะเป็นเงินที่ใช้สำหรับการปรับปรุงหาดป่าตอง 200 ล้านบาท และหาดกมลา 100 ล้านบาท และที่เหลืออีก 400 ล้านบาท จะแบ่งเป็น ใช้สำหรับตลาดในประเทศ 50 ล้านบาท ได้แก่ งบประชาสัมพันธ์ 10 ล้านบาท จัดแฟรมทริปสำหรับสื่อและบริษัททัวร์ในประเทศ 10 ล้านบาท สนับสนุนกิจกรรมประชุมและสัมมนา 20 ล้านบาท และเงินจัดสรรช่วยเหลือภาคเอกชนอีก 10 ล้านบาท

อีกส่วนหนึ่งคือตลาดต่างประเทศ ในวงเงิน 350 ล้านบาท แบ่งเป็น ปรับปรุงและลงทุนในระบบสื่อออนไลน์ 150 ล้านบาท ออกงานโรดโชว์ประเทศเป้าหมาย 80 ล้านบาท จัดคอนซูเมอร์แฟร์ในต่างประเทศ 70 ล้านบาท และจัดเมกะแฟรมทริปอีก 50 ล้านบาท

ชาวเกาะพีพีค้านผังเมืองใหม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน และผู้ประกอบการจาก เกาะพีพี จ.กระบี่ ประมาณ 30 คน นำโดย นายณัฐวุฒิ แก่นทอง ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สั่งการยกเลิกการออกผังเมืองใหม่บริเวณ อ่าวต้นไทร และอ่าวโล๊ะดาลัม ชายฝั่งเกาะพีพี จ.กระบี่ ที่ดำเนินการโดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหรือ อพท.ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นประธาน และ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นผู้ผลักดัน

"วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยอมรับผังเมืองของ อพท. แน่นอน นายกรัฐมนตรีต้องสั่งยกเลิกทันที เราพร้อมจะสละที่ให้รัฐเพื่อวางแผนการป้องกันภัยธรรมชาติ แต่ไม่ใช่บังคับให้เราต้องเสียสละทั้งหมดแล้วอพยพไปอยู่บนเขา คุณปลอดประสพ เคยทำ ร้ายเกาะพีพีไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่อนุญาตให้ถ่ายหนังที่เกาะมาหยา กว่าจะฟื้นตัวต้องใช้เวลาถึง 5 ปี วันนี้ ยังเข้ามาทำร้ายชาวบ้านอีกด้วยผังเมืองนี้อีก การ ดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของ ชาวบ้าน ด้วยการสมคบกันระหว่าง ข้าราชการ นักการเมือง และนายทุนใหญ่ อ้างความปลอดภัยแล้ว ฮุบที่ดินทั้งหมดของชาวบ้านไปเป็นเจ้าของ ทำให้สภาพของชาวบ้านบนเกาะพีพี ขณะนี้เหมือนถูกสึนามิ ลูกที่สองถล่ม ทางที่ดีรัฐบาลต้องให้ นายปลอดประสพออกไปจากพื้นที่โดยด่วน ถ้าไม่ดำเนินการอะไร เราจะขับไล่นายปลอดประสพเอง เพราะสร้างแต่ความเดือดร้อนให้ประชาชน" แกนนำชาวบ้านกล่าว

นายณัฐวุฒิยังได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายจอน อึ๊งภากรณ์ ส.ว.กทม.และนางเตือนใจ ดีเทศน์ ส.ว.เชียงรายในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ให้ดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย