Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 มีนาคม 2548
TOCตั้งเป้ารายได้ปีนี้3.3หมื่นล.ถือวีนิไทย20%หนุนกำไรเพิ่มขึ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยโอเลฟินส์
โฮมเพจ วีนิไทย, บมจ.

   
search resources

วีนิไทย, บมจ.
ไทยโอเลฟินส์, บมจ.
Chemicals and Plastics




"อดิเทพ" บิ๊กไทยโอเลฟินส์ฟันธงเอทิลีนขาขึ้นไปถึงปีหน้า โดยมีสเปดระหว่างราคา ผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐ และกำลังการผลิตปีนี้เพิ่มอีก 3 แสนตัน ทำให้รายได้ทั้งปีแตะ 3.3 หมื่นล้านบาท และกำไรจะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน เพราะรับรู้กำไรจากการถือหุ้นวีนิไทยในงวดปี 48 เผยปีนี้ใช้เงินลงทุนสูงถึง 7 พันล้านบาท ในการซื้อหุ้นวีนิไทยและลงทุนอุตฯต่อเนื่อง

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) (TOC) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547 ที่มีรายได้ 2.3 หมื่นล้านบาท เนื่องมาจากมีเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 3 แสนตันต่อปี ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 9.25 แสนตันต่อปี โดยราคาเอทิลีนในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 900 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนกำไรสุทธิ ในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน เพราะบริษัทจะบันทึกกำไรของบมจ.วีนิไทย (VNT) ตามสัดส่วนการถือหุ้น 20% ในไตรมาส 4/2548 และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และต้นทุนวัตถุดิบ (สเปด) ของปีนี้จะอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ใกล้เคียงกับปีก่อน

"แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์นั้นไม่สำคัญเท่ากับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และต้นทุนวัตถุดิบ(สเปด) ซึ่งคาดว่าในปีนี้และปี 2549 จะทรงตัวในระดับสูงเฉลี่ย 400 เหรียญ/ตัน เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการผลิตในตลาดเอเชียไม่เพิ่ม ประกอบกับปีนี้โรงงานบางแห่งต้องปิดปรับปรุงเครื่องจักร แต่ในปี 2551 ราคาโอเลฟินส์น่าจะอ่อนตัวลงมา ทำให้บริษัทฯต้องลงทุนดาวน์สตรีม เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาเอทิลีน"

นายอดิเทพ กล่าวถึงแผนการลงทุนในปีนี้ว่า บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการเข้าไปลงทุนในวีนิไทย ประมาณ 2.73 พันล้านบาท เงินปรับปรุงเครื่องจักรประจำปี 1 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้ในโครงการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ โครงการอีโอ/อีจี, โครงการอีทอกซีเลท โครงการผลิตสารคลอรีน คลอไรด์ และโครงการ อีทาโนลามีน เป็นต้น ซึ่งโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2549-2550 โดยแหล่งเงินทุนมาจากเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทที่มีอยู่ประมาณ 7.5 พันล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทฯมีหนี้หุ้นกู้ประมาณ 9 พันล้านบาท ดอกเบี้ยจ่าย 3% ซึ่งทยอยชำระคืน ทั้งนี้บริษัทฯมีนโยบายบริษัทจะรักษาหนี้สินต่อทุนไว้ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.5 เท่า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นเมื่อเร็วๆนี้ บริษัทฯได้กู้เงินอีก 75 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรักษาระดับอัตราหนี้สินต่อทุนไว้ไม่ให้ต่ำเกินไป

ส่วนการเข้าลงทุนในวีนิไทย สัดส่วน 20% นายอดิเทพ กล่าวว่า ในปี 2551 วัฏจักรราคาปิโตรเคมีขั้นต้นจะต่ำลง ทำให้บริษัทต้องหันไปลงทุนในดาวน์สตรีม ซึ่งธุรกิจพีวีซีถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตมากที่สุดและมีวัฏจักรราคาที่ต่างจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯได้ลงทุน ดังนั้น บริษัทฯจึงตัดสินจะเข้าไปถือหุ้นในวีนิไทย 20% ของทุนจดทะเบียน โดยเงินซื้อหุ้นดังกล่าว วีนิไทยจะนำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตวีซีเอ็มอีก 2 แสนตันและคลอรีนอีก 1.2 แสนตัน เชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของวีนิไทยลดลง 30 เหรียญต่อตัน

ทั้งนี้ วีนิไทยจะออกวอร์แรนต์ ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 237.04 ล้านหน่วย มีราคาการใช้สิทธิ 11.50 บาท และมีระยะเวลาการใช้สิทธิเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2548 ขณะเดียวกันวีนิไทยจะต้องขายหุ้น TOC ที่ถืออยู่ในสัดส่วน 2.73% ออกเพื่อให้เป็นไปตามกฎของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทฯได้หารือกับวีนิไทยโดยเสนอขายเป็นล็อตใหญ่แก่นักลงทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาหุ้น TOC ในกระดาน

นางสาวพันธ์ทิพ อึ้งผาสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์และการเงิน บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดีลการซื้อหุ้นวีนิไทยสำเร็จด้วยดี เพราะบริษัทฯได้เสนอที่จะขายเอทิลีนให้วีนิไทยเพิ่มอีก 9 หมื่นตันต่อปี เพื่อขยายกำลังการผลิตวีซีเอ็มและคลอรีนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 4 แสนตัน และ 2.4 แสนตันตามลำดับ ซึ่งแนวโน้มราคาพีวีซีจะปรับตัวขึ้นสูงในปี 2551- 2552 จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีสำหรับวีนิไทยที่จะขยายกำลังการผลิตวีซีเอ็ม โดยกำลังการผลิตวีซีเอ็มนี้จะขายให้กับผู้ผลิตพีวีซีในประเทศ ขณะเดียวกัน โรงงานโอเลฟินส์ของ TOC จะมีเสถียรภาพในการเดินเครื่องผลิตดีขึ้น โดยจะมี Captive Demand ของเอทิลีนจาก 58% เป็น 71% ภายหลังจากวีนิไทยได้ขยายกำลังการผลิต

ผลการดำเนินงานงวดปี 2547 ไทยโอเลฟินส์มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ 2.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% และมีกำไรสุทธิ 6.48 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 361% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก และภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯจึงมีมติจ่ายเงิน ปันผลในอัตราหุ้นละ 3 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us