Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2543
Future Wealth             
 





Future Wealth เป็นผลงานเขียนร่วมของสแตน เดวิส และคริสโตเฟอร์

มีเยอร์ ซึ่งโด่งดังมาแล้วจากหนังสือเบสท์เซลเลอร์เล่มก่อน คือ Blur

ใน Blur นักเขียนทั้งสองอธิบายว่า โลกที่เชื่อมโยงทุกคนและสิ่งต่างๆ

เข้าด้วยกันทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เปลี่ยนโลกธุรกิจไปอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในเรื่องการผลิตสินค้าและบริการ

คราวนี้ใน Future Wealth ทั้งสองอธิบายต่อว่า ระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงถึงกันหมดจะปฏิวัติทั้งการสะสมความมั่งคั่งและการกระจายความมั่งคั่งได้อย่างไร พวกเขาเชื่อว่า

1. ความเสี่ยงจะไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องหวาดวิตกอีก แต่ต้องมองให้เป็นโอกาส ดังนั้น องค์กรจึงควรพัฒนา "หน่วยความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์" เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ขององค์กร

2. ตลาดที่มีประสิทธิภาพกำลังพัฒนาขึ้นมา รวมทั้งส่วนของทรัพยากรมนุษย์ด้วย และในท้ายที่สุดแล้ว ตลาดจะพัฒนาไปถึงขั้นของการค้าเครื่องมือทางการเงินที่ผูกโยงกับปัจเจกบุคคล รวมถึงกลุ่มบุคคลด้วย

3. เครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมใหม่ จะตัองเกิดขึ้นเพื่อให้สังคมรับมือกับความเสี่ยงทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นได้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี

การล้มละลาย และการประกันสังคมจะต้องปรับให้เอื้อต่อการพัฒนาตลาดใหม่ๆ

นอกจากนั้น หนังสือยังเสนอแนวคิดเรื่อง "ทุน" ในทุนมนุษย์ โดยยกกรณีตัวอย่างเดวิด โบวี่ นักดนตรีร็อกชาวอังกฤษผู้โด่งดัง ที่แสดงให้เห็นศักยภาพ

ของตลาดทุนมนุษย์ เมื่อเขาออกพันธบัตร "โบวี่ บอนด์" ระยะ 15 ปี เป็นวงเงิน

55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พันธบัตรดังกล่าวค้ำประกันโดยค่ารอยัลตี้ของผลงานเพลง

อีก 300 เพลงที่โบวี่จะแต่งและบันทึกเสียงต่อไป ปรากฏว่านักลงทุนสนใจกันมากและมูดี้ส์จัดอันดับให้อยู่ในระดับ "Single A"

ผู้เขียนยืนยันว่าคนอื่นๆ ก็สามารถทำแบบเดียวกับโบวี่ได้เช่นกัน ขอเพียงเป็นใครก็ตามที่มีความสามารถและศักยภาพที่จะมีความมั่งคั่งในอนาคต ซึ่งนักลงทุนเตรียมพร้อมที่จะเสี่ยงด้วย และหากคุณยังไม่มีขีดความสามารถขนาดโบวี่

ก็อาจลองเริ่มจากการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มของที่ปรึกษาด้านการบริหารที่มีรายได้สูงๆ สมาชิกทีมบาสเกตบอล "All American" หรือกลุ่มนักศึกษาฮาร์วาร์ด บิสซิเนส สกูล ปี 2010 อาจจะรวมเอาเงินได้ในอนาคตมารวมกันสร้างเป็นเครื่องมือทางการเงิน เพื่อค้าในตลาด ซึ่งในท้ายที่สุด เราก็จะได้ตลาดทุนมนุษย์ทั้งระบบขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้น นักชีววิทยาโมเลกุลอาจมีราคาดีกว่านักเศรษฐศาสตร์ก็ได้

ผู้เขียนยังคาดการณ์ว่า ในโลกที่เชื่อมโยงกันหมดนี้ คนที่จะรวยได้คือกลุ่มชนชั้นกลาง แต่ผลกระทบที่จะมีต่อสังคม องค์กรธุรกิจ และปัจเจกบุคคลจะเป็นเช่นไร ต้องหาอ่านต่อกันในหนังสือ Future Wealth

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us