โออิชิ คาดปี 48 มาร์เกตแชร์ 50% จากมูลค่าตลาดชาเขียวเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 18 สาขา - ออก 2 รสใหม่ รุกส่งออกอาหารแช่แข็ง-Chilled Food เป็น 200 สาขา ดันรายได้ปีนี้พุ่ง 5,000 ล้านบาท จากปี 47 ที่มี 3,271.9 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 1 บาท พร้อมสร้างความมั่นใจผู้บริโภคสั่งเครื่องตรวจสอบชาเขียว เผยอีก 3 เดือน เริ่มผลิตน้ำลำไย เตรียมหาแบรนด์ใหม่เล็งขายขวดละ 15-18 บาท
นายตัน ภาสกรนที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โออิชิกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มชาเชียวปี 2548 จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท จากปี 2547 ที่มีมูลค่า 6,500 ล้านบาท เนื่องจากประชาชนหันมาบริโภคชาเขียวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) เพิ่มเป็น 50% จากปี 2547 ที่มี 46%
ทั้งนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนในปีนี้จำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินลงทุนในการเปิดสาขาใหม่ 18 สาขา ใช้เงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งสาขาแรกที่ปิ่นเกล้าในวันนี้(1 มี.ค.) และสั่งเครื่องจักรตรวจสอบคุณภาพชาเชียว จากประเทศเยอรมนี จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค ซึ่งจะมีการติดตั้งเสร็จได้ภายใน 3-6 เดือน
สำหรับแผนการดำเนินงานปีนี้บริษัทจะมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นในส่วนของโรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานบันเทิง ซึ่งจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร บริษัทจะมีการขยายสินค้าประเภทอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทานหรือ Chilled Food ร่วมกับ7 Eleven เพิ่มเป็น 200 สาขา ภายใน 2-3 เดือน จากปัจจุบันที่มี 56 สาขา และมีแผนที่จะเพิ่มเป็น 400 สาขาต่อไป เพราะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งในส่วนนี้บริษัทแทบจะไม่ต้องลงทุนเพิ่มเพียงเพิ่มอุปกรณ์ และจำนวนบุคลากร
นอกจากนี้ในเดือน เม.ย.นี้บริษัทจะส่งชาเขียวไปร่วมงาน EXPO จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงบริษัทจะเริ่มมีการเจาะกลุ่มลูกค้าในญี่ปุ่นโดยผ่านแฟมิลี่มาร์ท รวมถึงเตรียมที่จะส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น แต่สัดส่วนจะไม่สูงมากนัก เพราะบริษัทต้องการที่จะทำตลาดในประเทศไทยให้ก่อน โดยจะเริ่มส่งออกอย่างจริงจังในปี 2549
นายตัน กล่าวต่อว่า บริษัทจะมีการออกสินค้ารสชาติใหม่อีก 2 รสในปีนี้ คาดว่าจะออกได้ 1 รส ในช่วงเดือนเม.ย.นี้ รวมถึงบริษัทได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตก็จะส่งผลให้ปี 2548 บริษัทมีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียว 3,500 ล้าบาทคิดเป็น 70% ของรายได้รวม และธุรกิจอาหาร 1,500 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้รวม 3,271.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากเครื่องดื่มชาเชียว 1,969.3 ล้านบาท ธุรกิจอาหาร 1,302.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 487.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,370.8% จากปีก่อนซึ่งมีกำไร 19.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 1 บาท จากผลประกอบการปี 2547 ที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 2,370% จากปี 2546 โดยจะสามารถจ่ายได้ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิของผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล ในวันที่ 1 เม.ย.
บริษัทคาดว่าจะเริ่มผลิตน้ำลำไย ได้อีกประมาณ 60-90 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคิดสูตร และการคิดชื่อยี่ห้อ ซึ่งจะใช้แบรนด์โอทอป โดยจะเสนอต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาต่อซึ่งบริษัทจะ ซึ่งจะไม่ใช้โออิชิในการผลิต เพราะแบรนด์โออิชิจะใช้ผลิตเฉพาะสินค้าญี่ปุ่น เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะมีราคาขายขวดละ 15-18 บาท ในขนาด 500 CC ทั้งนี้การดำเนินการผลิตน้ำลำไยนี้บริษัทไม่ได้คาดหวังในเรื่องผลตอบแทนแต่ต้องการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรมากกว่า ซึ่งหากได้รับผลตอบรับที่ดีบริษัทก็จะมีการดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่อง
|