Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2541








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2541
SIEMENS ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง             
 


   
search resources

ซีเมนส์ (ประเทศไทย), บจก.




ปี 2540 เป็นปีที่ บริษัท ซีเมนส์ เอจี จำกัด ยักษ์ใหญ่วงการอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีจากเยอรมนีได้ฉลองการก่อตั้งครบรอบ 150 ปี ถือว่าเป็นบริษัทข้ามชาติบริษัทหนึ่งที่มีธุรกิจอยู่เกือบทุกมุมของโลก มีพนักงานทั่วโลก 386,000 คน และปีนี้ถือว่าเป็นปีแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมามียอดขายทะลุ 100 พันล้านมาร์ก

Dr. Heinrich V. Pierer ประธานกรรมการและหัวหน้าฝ่ายบริหารอาวุโสของ ซีเมนส์ เอจี. เบอร์ลินและมิวนิค กล่าวในงานแถลงข่าวประจำปีว่า ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ซีเมนส์สามารถเพิ่มยอดสั่งซื้อได้อีก 12% เป็น 113.1 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 2,699 พันล้านบาท) และมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 14% เป็น 106.9 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 2,551 พันล้านบาท) ทำให้มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เป็น 2.61 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 62.23 พันล้านบาท)

"ผลประกอบการเราทำได้มากกว่าเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้ และเป็นการทำลายสถิติผลประกอบการของธุรกิจโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 9% เป็นยอดมากกว่า 3.5 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 83.51 พันล้านบาท)"

เขาอธิบายต่อไปว่าธุรกิจที่ทำรายได้ให้บริษัทมากที่สุดมาจากธุรกิจงานสื่อสาร และกลุ่มธุรกิจเครือข่ายสาธารณะซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตของธุรกิจนานาชาติสูง ซึ่งมีผลรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัว เป็น 800 ล้านมาร์ก (ประมาณ 19.09 พันล้านบาท) และผลประกอบการด้านอุตสาหกรรมเติบโตประมาณ 350 ล้านมาร์ก นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าบริษัทจะลงทุนสูงในการสร้างโรงงานใหม่ๆ แต่ก็ยังมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 ล้านมาร์ก (ประมาณ 2,386 ล้านบาท)

ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จมากมายหลายด้าน แต่ซีเมนส์ก็ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องปฏิบัติต่อไป เช่น งานของ 3 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งตัวเลขผลประกอบการยังอยู่ในเขตสีแดง คือ กลุ่มธุรกิจวิศวกรรมการแพทย์ ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากมูลค่าของการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง เพราะทุกแห่งทั่วโลกพยายามตัดค่าใช้จ่ายงานดูแลด้านสุขภาพลง และราคาที่ลดลงทำให้กลุ่มธุรกิจนี้ประสบกับความกดดันที่สูง ถ้ามีการปรับปรุงทางโครงสร้างด้านนี้ตัวเลขผลประกอบการก็จะอยู่ในเขตส่วนบวกในปี 2541

ในกลุ่มธุรกิจระบบการขนส่ง ที่ผ่านมาโครงการต่างๆ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ค่าการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง และค่าใช้จ่ายเสริมที่เกิดขึ้นในโครงการใหญ่ๆ ซึ่งสภาพและสถานการณ์คล้ายคลึงกันนี้ก็เกิดขึ้นกับคู่แข่งทั้งหลายของซีเมนส์เช่นเดียวกัน ดังนั้นกลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะต้องปรับตัวตามสภาพราคาที่แข่งขันกัน ดังนั้นผลประกอบการจากกลุ่มธุรกิจนี้จะลดลงบ้างในปีนี้แต่จะสูงขึ้นในปี 2542

ด้านกลุ่มธุรกิจส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันประสบปัญหาการตลาดที่ไม่ลงตัว การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และประสิทธิภาพที่มีเกินความต้องการในส่วนงานอุตสาหกรรม ดังนั้นปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นในโครงการด้านพลังงานต่างๆ ของบริษัท ซึ่งจะส่งผลสะท้อนมายังผลประกอบการในปีนี้

ส่วนการคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2541 Dr. Pierer มั่นใจว่าจะมียอดรายได้สุทธิสูงกว่า 3 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 71.58 พันล้านบาท) ส่วนยอดสั่งซื้อจะอยู่ระหว่าง 115-120 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 2,744-2,863 พันล้านบาท) และจะมียอดขายเพิ่มสูงถึง 110-115 พันล้านมาร์ก (ประมาณ 2,625-2,744 พันล้านบาท)

เมื่อมองออกไปถึงธุรกิจในต่างประเทศ โฮโม ครุช ประธานกรรมการและหัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัท ซีเมนส์ ประเทศไทย จำกัด เล่าว่าในช่วงที่ผ่านมายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขายและยอดสั่งซื้อใหม่ได้เพิ่มขึ้นกว่า 20% โดยมียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 77.5 พันล้านมาร์ก และมียอดขายเพิ่มขึ้น 70.6 พันล้านมาร์ก

โดยมีรายได้มาจากธุรกิจในอเมริกาเหนือและใต้ประมาณ 20% เอเชีย-แปซิฟิกมากกว่า 10% ยุโรปประมาณ 30% และในเยอรมนีประมาณ 35% อย่างไรก็ตามในอีก 2-3 ปีข้างหน้าในภาคพื้นทวีปอเมริกาเหนือและใต้จะทำยอดขายได้ประมาณ 25% ของยอดขายรวมทั้งหมด เอเชีย-แปซิฟิกประมาณ 20% ที่เหลือจะมาจากยุโรปและในเยอรมนี

แต่ความน่าเป็นห่วงในปัจจุบันนี้ คือ ความผันผวนทางเศรษฐกิจในเอเชีย จึงมีคำถามว่าสถานการณ์เช่นนี้มีผลกระทบต่อซีเมนส์หรือไม่ เรื่องนี้ครุช เล่าว่า ธุรกิจบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับการพัฒนาในปีงบประมาณที่แล้ว ตัวเลขของธุรกิจในท้องถิ่นเมื่อเปรียบเทียบกลับไปเป็นมูลค่าเงินมาร์ก ส่วนความอ่อนตัวลงของค่าเงินในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีผลเล็กน้อยต่ออัตราการเติบโตตามยอดขายที่ลดลง รวมทั้งผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปี 2540 แต่การสูญเสียด้านมูลค่าเงินนั้นไม่มีเพราะบริษัทต่างๆ ได้มีมาตรการป้องกันไว้อยู่แล้ว

"อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิกได้ชะลอตัวลง แต่เราเชื่อว่าตลาดด้านไฟฟ้าจะยังคงเป็นต่อ และก้าวหน้ากว่าตลาดในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ และผลดีเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ได้แก่ มูลค่าเพิ่มของต้นทุนในท้องถิ่นลดลงทำให้เรามีประสิทธิภาพด้านการแข่งขันสูงขึ้น" ครุช อธิบาย

เมื่อมองเข้ามาในประเทศไทย ปรากฏว่าการเติบโตของซีเมนส์ ถือว่าไม่ด้อยไปกว่าประเทศอื่นๆ เห็นได้ชัด คือ ยอดสั่งซื้อใหม่ปี 2540 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วสูงถึง 175% คิดเป็นมูลค่า 32.87 พันล้านบาท โดยได้จากธุรกิจการขนส่งมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 13.68 พันล้านบาท ตามด้วยธุรกิจสื่อสารคมนาคม มูลค่า 6.57 พันล้านบาท และธุรกิจอุตสาหกรรม มูลค่า 1.77 พันล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 60% จากปีที่แล้วคิดเป็นมูลค่า 12.57 พันล้านบาท โดย 3 ธุรกิจที่ทำยอดขายสูงสุดนั้นมาจากธุรกิจสื่อสารฯ 6.29 พันล้านบาท ธุรกิจพลังงาน 2.46 พันล้านบาท และธุรกิจอุตสาหกรรม 1.27 พันล้านบาท

จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ซีเมนส์มีรายได้ส่วนใหญ่จากโครงการที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน จึงคาดกันว่านับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป โอกาสที่จะเห็นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เช่นเดิมคงจะไม่ค่อยมีอีกแล้ว เนื่องจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน นั่นหมายความว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของซีเมนส์มากพอสมควร

"คงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของโครงการว่าโครงการไหนที่จำเป็นต้องเร่งทำ ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าตอนนี้เรามีโครงการอะไรในมือบ้าง แต่โครงการที่ได้ทำแล้วก็มีโรงงานประกอบรถยนต์โอเปิลของค่ายจีเอ็ม หรือโครงการขยายเครือข่ายระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กับ AIS ส่วนโครงการของภาครัฐเรากำลังรอลุ้นองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย"

สำหรับธุรกิจในไทยของซีเมนส์แบ่งออกเป็นกลุ่มธุรกิจสื่อสารคมนาคม, พลังงาน, อุตสาหกรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศ, การขนส่ง, ผลิตภัณฑ์ด้านไฟฟ้า และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยที่ผ่านมาธุรกิจสื่อสารฯ เป็นกลุ่มที่ทำรายได้ให้มากที่สุด แต่จากนี้ไปธุรกิจกลุ่มการขนส่งจะขึ้นมาแทนที่ รองลงไปเป็นกลุ่มสื่อสารฯ พลังงาน อุตสาหกรรม ส่วนอัตราการเติบโตของรายได้คาดว่าในช่วงตั้งแต่ปี 2539-2543 จะสูงขึ้นประมาณ 18% และจะมีกำไรสุทธิประมาณ 25,000 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us