|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2548
|
|
กระแสรายการเรียลลิตี้โชว์ในตอนนี้นับว่าแรงมากทั้งในบ้านเราและในอเมริกา เรียกได้ว่าจากคนที่ไม่เคยดูรายการเหล่านี้กลับกลายเป็นว่าทุกวันตั้งแต่เวลาหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม จะไม่เป็นอันทำกิจกรรมอื่น นอกจากตั้งตารอดูรายการเรียลลิตี้โชว์ นับตั้งแต่รายการ Survivor ของ Mark Burnett ที่ดังไปทั่วโลก ขณะนี้ก็เริ่มออกอากาศตอนใหม่แล้วทุกวันพฤหัสบดี เวลาทุ่มตรง (Central Time) โดยตอนนี้ผู้แข่งขันทั้ง 20 คนต้องผจญภัยอยู่บนเกาะ "Palau" ซึ่งติดอันดับเป็นอันดับที่ 8 ของ The Natural Wonder of the World ในเขตแปซิฟิกตอนใต้
จากนั้นทุกวันพุธก็จะเป็นรายการ Fear Factor ที่คนไทยได้ชมกันแล้ว แม้ว่าจะไม่ค่อยชอบรายการนี้เท่าไร โดยเฉพาะในช่วงของการกินอันแสนจะพิสดาร แต่ก็จำใจดู เพราะจะได้คุยกับคนที่บ้านได้ ซึ่งคนที่เมืองไทยก็มีความเห็นอย่างเดียวกันคือ Fear Factor เป็นรายการที่น่าขยะแขยง แต่ก็ยังทนดูอยู่ได้ เหมือนเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง อะไรทำนอง นี้ อาจเป็นเพราะว่าสภาพจิตของคนเราที่เหนื่อยล้าจาก การทำงาน อยากหาสิ่งปลดปล่อยสมอง แบบที่อเมริกัน เรียกว่า "turn your brain off" รายการแบบนี้จึงดึงดูด คนดูได้ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อคนได้ดูรายการนี้ และเริ่ม คาดเดาเหตุการณ์ต่อไปได้ คนก็จะเริ่มเบื่อและหันไปดูรายการอื่นที่จรรโลงปัญญามากกว่านี้ อย่างเช่น รายการ Queer Eye for the Straight Guy หรือตรงๆ คือ ไอเดียเกย์สำหรับชายแท้ เป็นรายการที่คลายสมอง เห็นสิ่งสวยๆ งามๆ ได้ไอเดียเก๋ๆ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
แม้ว่ารายการจะเป็นเรื่องของชายๆ แต่หญิงทั้งหลายก็สามารถนำไปปรับใช้ได้สำหรับตัวเองและชายหนุ่มข้างตัว รายการนี้เรียกว่าเป็นรายการ Hip ของยุคเรียลลิตี้ฟีเวอร์ยุคนี้จริงๆ เชื่อหรือไม่ว่า มีชายหนุ่ม บ้างแก่บ้างหลายคนที่คุณนึกไม่ถึง ที่ต้องการปรับตัวให้สมกับยุคสมัย ตามทันโลกของแฟชั่นการแต่งตัว ทรงผม ความเป็นอยู่อาศัย อาหารการกิน และการเข้าสังคมเพื่อเอาชนะใจหญิง หรือประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งเขาจะได้รับความช่วยเหลือจาก 5 หนุ่มเกย์ Ted Allen ผู้ชำนาญการด้านอาหารและไวน์ Kyan Douglas ปรมาจารย์ด้านทรงผม Thom Filicia ผู้นำด้าน การตกแต่ง Carson Kressley หน่วยบริการด้านแฟชั่น และ Jay Rodriguez หนุ่มสังคม แปลงให้กลายเป็นคน อีกคนหนึ่ง ซึ่งบางคนก็เปลี่ยนได้แค่วันเดียว บางคนก็เปลี่ยนได้ตลอด แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ลองในสิ่งที่ไม่เคยมาก่อน
นอกจากนี้ยังมีเรียลลิตี้โชว์สนุกมีทั้งสาระและบันเทิงอย่าง Project Runway ของ Miramax Television ร่วมกับสถานี Bravo ออกอากาศทุกวันอังคารเป็นรายการ ที่ค้นหาผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการออกแบบแฟชั่นระดับแนวหน้า จำนวน 12 คน โดยคัดเหลือผู้ชนะเพียง คนเดียว โดยในแต่ละสัปดาห์ ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับโจทย์ ในการออกแบบ ซึ่งผู้ชนะในสัปดาห์สุดท้าย ซึ่งเป็นการออกแบบคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วงที่งาน New York's Fall Fashion Week จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ของตนเอง นอกจากนี้ยังได้ Banana Republic เป็นที่ปรึกษาในการเริ่มต้นธุรกิจ และยิ่งกว่านั้นคอลเลก ชั่นของผู้ชนะเลิศจะได้รับการตีพิมพ์อยู่บนปกของนิตยสาร Elle อีกด้วย
อีกรายการหนึ่งที่ดูแล้วได้สาระเทคนิคในการดำเนินธุรกิจและสรรหาทรัพยากรบุคคลเข้าร่วมทำงาน ในธุรกิจพันล้านของ Mr.Donald Trump เจ้าพ่ออสังหาฯ แห่งมหานครนิวยอร์ก คือรายการ The Apprentice ซึ่งมี Mark Burnett เจ้าเก่าจาก Survivor เป็นครีเอทีฟ ผู้ผลิตรายการให้ โดยใช้เวลาในการแข่งขันทั้งสิ้น 15 สัปดาห์ ในสัปดาห์แรกเริ่มจากผู้เข้าแข่งขันจำนวน 16 คน (ชาย 8 คน หญิง 8 คน) โดยครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่ม "book smarts" คือ ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาแต่ ด้อยประสบการณ์ในการทำธุรกิจ และอีกครึ่งเป็นกลุ่ม "street smarts" คือ จบแค่มัธยมแต่ประสบการณ์รอบตัวเพียบ ต้องมาอาศัยอยู่รวมกันในห้องสวีตของตึก Trump Tower ใน Manhattan และแบ่งเป็น 2 ทีม คละชายหญิง และแต่ละสัปดาห์จะมีงานมอบหมายให้แต่ละกลุ่มไปทำ และมาประเมินผล ทุกสัปดาห์จะมีคน ถูกไล่ออก 1 คน และคนที่เหลือเป็นคนสุดท้ายจะได้รับตำแหน่งเป็นประธานบริษัทในเครือของ Trump เป็นเวลา 1 ปี และได้รับการจ้างงานตลอดชีพ โดยมีเงินเดือน (เหรียญสหรัฐ) เป็นเลขหกหลักต่อปี
รายการเรียลลิตี้แบบ Project Runway และ The Apprentice นี้นับเป็นความปราดเปรื่องของผู้ผลิต รายการที่ฉกฉวยเอาสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำมาถ่ายทอดเป็นรายการทีวีให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการเชียร์ และรู้ถึงกระบวนการคัดเลือกและสรรหาบุคคล ที่เหมาะสมกับโครงการนั้นๆ ซึ่งน่าจะให้สาระมากกว่า เพียงแค่ความบันเทิง ผู้เขียนจำได้ว่าสมัยเรียนหนังสือ อยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกๆ ปีทางบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์จะมารับสมัครนักศึกษาฝึกงาน โดยจะมาสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัย และนักศึกษาที่ได้รับ คัดเลือก จะได้ไปเข้าค่ายและฝึกงานร่วมกับทางบริษัทเป็นเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ผู้เขียนจำรายละเอียดได้ไม่ชัดเจน แต่เข้าใจว่านานเป็นเดือน โดยในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์มีกิจกรรมให้ทำมากมาย และในที่สุดเมื่อจบการศึกษา นักศึกษาเหล่านี้ที่ได้ฝึกงานกับบริษัทจะมีโอกาสได้เข้าทำงานในบริษัทนี้ได้สูง
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เป็นเทคนิคในการทำธุรกิจที่สร้างโอกาสให้หนุ่มสาวรุ่นใหม่ อันน่าจะเป็นประโยชน์ในการมีรายการเรียลลิตี้โชว์แบบ นี้ในบ้านเรา ถ้าหนีกระแสกันไม่ได้จริงๆ ผู้ผลิตรายการ ในประเทศไทยน่าจะลองสำรวจหาบริษัทที่มีกิจกรรมทำนองนี้ หรือบริษัทที่ยอมเปิดเผยกระบวนการสรรหาบุคลากร มาร่วมกันผลิตรายการที่มีคุณค่ามีประโยชน์ต่อสังคมไทย... แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มของผู้ชมด้วยว่าจะจับกลุ่มไหน และถ้ารายการดีจริงและ จับคนชมได้ถูกกลุ่มก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเรตติ้ง... อุ๊ย! Project Runway มาแล้วค่ะ ต้องขอตัวไปชมก่อนสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้วด้วย และคนที่ไม่น่าจะมาถึงรอบนี้ก็ปรากฏว่าหลุดมาถึงรอบสามคนสุดท้าย ไม่น่าเชื่อ สงสัยจะเส้นใหญ่...
|
|
|
|
|