Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2548
กิมเอ็งครองแชมป์โบรกเกอร์ปีวอก             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 


   
www resources

โฮมเพจ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)

   
search resources

หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
มนตรี ศรไพศาล
Investment




ถึงแม้ภาวะตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมา จะไม่คึกคักตามที่เซียนหลายสำนักทำนายเอาไว้ล่วงหน้า แต่กิมเอ็งก็ยังคงรักษาตำแหน่งโบรกเกอร์อันดับ 1 เอาไว้ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน น่าสนใจว่า ท่ามกลางการแข่งขันที่มีมากขึ้น โบรกเกอร์รายนี้จะทำอย่างไร เพื่อรักษาตำแหน่งในปีนี้ไว้ได้

ปี 2547 ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่ไม่คาดคิดหลายประการ ตั้งแต่ภาวะสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิรัก ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง จนถึงการระบาดรอบสองของไข้หวัดนก ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวกดดัชนีหุ้นไทยไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ และยังส่งผลต่อเนื่องไปยังการเข้าซื้อขายของหุ้นใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี ที่ส่วนมากมักจะเกิดอาการหลุดจองสร้างความหวั่นไหวให้กับนักลงทุน

"ในเดือนที่ภาวะตลาดซบเซามาร์เก็ตแชร์ของเราจะต่ำกว่าในเดือนที่ตลาดคึกคัก เนื่องจากถ้าภาวะไม่ดีเราก็จะ ไม่กระตุ้นให้ลูกค้าเทรด อันนี้เป็นจรรยาบรรณและทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวเรา" มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว

แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่เมื่อถึงสิ้นปี กิมเอ็งก็เป็นผู้ครองแชมป์โบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 อีกครั้งเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยตัวเลข 11.71% จากยอดเทรดของลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 50,000 ราย และในจำนวนนี้มีการซื้อขายประมาณ 50% นอกจากลูกค้ารายย่อยแล้ว กลุ่มลูกค้าสถาบันก็เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาลูกค้ารายย่อยมีสัดส่วน 80% และลูกค้าสถาบันมี 20% ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากในปีก่อนหน้า

ปี 2545 ซึ่งเป็นปีแรกที่กิมเอ็งครองแชมป์โบรกเกอร์ มีสัดส่วนการตลาดอยู่ 12.70% ปีถัดมารักษาตำแหน่งด้วยยอดส่วนแบ่งตลาด 11.46% และ 11.71% ในปีที่แล้ว

ผู้บริหารกิมเอ็งเชื่อว่าคุณภาพงานวิจัยของบริษัทเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดเอาไว้ได้ ในปีนี้ได้วางแผนที่จะทำบทวิจัยในเชิงรุก เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนมากขึ้น ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การสร้าง เจ้าหน้าที่การตลาดรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2546 มีเจ้าหน้าที่การตลาด 342 คนและปีที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่การตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 496 คน คิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 50% ของพนักงานทั้งบริษัท ที่มีอยู่กว่า 900 คน

ในปีที่ผ่านมากิมเอ็งเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ได้แก่ ยะลา และในกรุงเทพฯ อีก 2 แห่ง คือ ทาวน์ อิน ทาวน์ และแฟชั่นไอส์แลนด์ รวมมีสาขาทั้งสิ้น 35 สาขา ซึ่งบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ กรรมการผู้จัดการ ระบุว่าปัจจุบันมีผลการดำเนินงานกำไรทุกแห่ง แม้แต่สาขาที่เปิดใหม่รวมทั้งยะลา ที่ถึงแม้จะมีปัญหาความไม่สงบก็ยังมีกำไร และในปีนี้กิมเอ็งยังมองหาสถานที่เปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีกราว 4 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่นเดียวกับการเพิ่มจำนวน เจ้าหน้าที่การตลาดขึ้นอีก 20%

การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินงานก็มีส่วนช่วยให้กิมเอ็งเพิ่มยอดการซื้อขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งในปีที่ผ่านมาลูกค้าเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ตของกิมเอ็งเป็นสัดส่วน 17% ของการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 106,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 55,000 ล้านบาท หากมองในด้านจำนวนบัญชีก็เพิ่มสูงขึ้นจาก 2,000 บัญชีเป็น 4,700 บัญชี

"ปีที่ผ่านมายอดการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมีสัดส่วน 11-12% ของยอดการซื้อขายของบริษัท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี เพียง 6%" โฆษิต บุญเรืองขาว รองกรรมการ ผู้จัดการ สายการตลาดหลักทรัพย์กล่าว

เขาเชื่อว่าในปีนี้อัตราการขยายตัวของการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตจะยังคงมีสูง โดยได้วางเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งจาก 17% ขึ้นเป็น 22% ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เป็นเช่นนั้นก็คือ ความ นิยมในการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet) นั่นเอง

ปัจจุบันผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตหลายรายแข่งขันกันให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาที่ต่ำลง ทำให้ความนิยมในการใช้งานมีมากขึ้น ประกอบกับที่ ผ่านมาการทำตลาดยังอยู่ในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑลเป็นหลัก แต่ในปีนี้จะมีการขยาย ออกไปสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น เป็นการเปิดตลาดใหม่ที่จะมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นกลุ่มนักลงทุนในจำนวนไม่น้อย ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยเอื้อต่อการซื้อขายก็จะเริ่มแพร่หลายมากขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์แบบพกพา (PDA) ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถดูราคาหุ้นและส่งคำสั่งซื้อขายได้จากนอกสถานที่

สำหรับวาณิชธนกิจซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่สำคัญของบริษัทหลักทรัพย์ แต่ในส่วนของกิมเอ็งกลับยังไม่มีบทบาทมากนัก ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากส่วนนี้ 167 ล้านบาท หรือเพียง 5.21% ของรายได้รวมเท่านั้น โดยกิมเอ็งรับหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินและอันเดอร์ไรต์ให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ใหม่รวม 12 บริษัทและมีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์อีก 26 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวมกว่า 8,000 ล้านบาท

แต่ในปีนี้กิมเอ็งคาดว่าจะนำหุ้นเข้า จดทะเบียนในทั้งสองตลาดราว 20 บริษัท รวมเป็นมูลค่าระดมทุนไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้มีการเสนอขายหุ้นที่เลื่อนจากปลายปีที่แล้วได้ 2 บริษัทคือ อิตาเลียนไทย ดีเวลอป เมนท์ และบางสะพานบาร์มิล รวมมูลค่าการระดมทุน 5,000 ล้านบาท ส่วนบริษัทที่เหลือจะกระจายอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งสื่อสารโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ หลักทรัพย์ ขนส่ง การเงินและธุรกิจบันเทิง และสันทนาการ

"ปีนี้เราเริ่มต้นได้ดี ตอนนี้มีดีลอยู่แล้ว 20 ดีล ที่ยื่น ก.ล.ต.ไปแล้วมีอยู่ 7 ดีล จะทยอยออกมาต่อเนื่องในแต่ละไตรมาส" สิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจกล่าว

ผลการดำเนินงานของกิมเอ็งในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 3,210.03 ล้าน บาท เป็นรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 2,911.37 ล้านบาทและรายได้จากวาณิชธนกิจ 167 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 1,042.66 ล้านบาท หรือหุ้นละ 1.91 บาท

แม้กิมเอ็งจะตั้งเป้าครองแชมป์โบรกเกอร์ในปีนี้อีกครั้ง แต่ภาวะการแข่งขันที่ส่อเค้ารุนแรงยิ่งขึ้นจากการเปิดตัวของโบรกเกอร์หน้าใหม่อย่าง บล.กสิกรไทย ที่ซื้อใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จาก บล.แอสเซท พลัส เพื่อเพิ่มบริการให้มากขึ้นตามนโยบายธนาคารครบวงจร ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ในเครือธนาคารอีกหลายแห่งก็มีความพร้อมที่จะเข้าช่วงชิงตลาดยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บล.ไทยพาณิชย์ก็ตั้งใจจะฉลองอายุครบ 10 ปีในปีนี้ด้วยยอดส่วนแบ่งการตลาด 5% ซึ่งเป็นตัวเลขเป้าหมายเดียวกันกับของ บล.บัวหลวง ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอีกไม่นานนี้ ยังไม่รวมถึงอีกหลายรายที่ต่างก็หมายมั่นปั้นมือที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น

เมื่อแต่ละบริษัทล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน การจะรักษาแชมป์ของกิมเอ็งครั้งนี้จึงน่าจะเข้มข้น เร้าใจและน่าติดตามไม่น้อย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us