VoIP จะทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นตัวกลางในการรับส่งโทรศัพท์ และนี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของการสื่อสารทางโทรศัพท์ นับตั้งแต่โทรศัพท์ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น

1876 Alexander Graham Bell ได้คิดค้นเครื่องมือชนิดใหม่ที่ใช้ไฟฟ้าและแม่เหล็กในการติดต่อกันด้วยเสียง

1877 ที่ปารีส Emile Berliner ได้ริเริ่มการติดต่อกันทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกในโลก โดยใช้โอเปอเรเตอร์เป็นผู้เสียบสายเข้ากับแผง switching

1892 เริ่มใช้ระบบ switching แบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้โอเปอเรเตอร์เป็นครั้งแรก

1913 AT&T ซึ่งเป็นบริษัทที่สืบทอดมาจากบริษัทของ Alexander Graham Bell ได้ผูกขาดธุรกิจโทรศัพท์ของสหรัฐฯ

1948 Claude Shannon นักวิจัยจาก Bell Labs เป็นผู้คิดเป็นคนแรกว่า สามารถจะทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปของรหัส binary ได้ ซึ่งต่อมาความคิดของเขาได้กลายเป็นรากฐานของโทรศัพท์ดิจิตอลและอินเทอร์เน็ต

1961 เริ่มให้บริการโทรศัพท์แบบ touch-tone แก่สาธารณชน ซึ่งเป็นโทรศัพท์แบบมีเสียงเมื่อกดปุ่มหมายเลข หลังจากที่โอเปอเรเตอร์ได้ใช้โทรศัพท์แบบนี้มาก่อนแล้วถึง 20 ปี

1970 เคเบิลใยแก้วนำแสงสายแรกเปิดให้บริการ ด้วยความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่เหนือกว่าสายทองแดง

1973 โทรศัพท์แบบไร้สายเริ่มใช้ครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้สามารถเดินไปที่ใดก็ได้ในขณะคุยโทรศัพท์

1983 AT&T เสนอโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกในระบบ analog ซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตเทอะทะ เพียงปีเดียว มีลูกค้าใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นดึกดำบรรพ์นี้ถึง 500,000 ราย

1984 ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ AT&T แตกบริษัท และทำให้ตลาดโทรศัพท์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าสู่ยุคใหม่ที่มีการแข่งขันและการคิดค้นนวัตกรรมอย่างมาก และเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้ได้ "ซื้อ" โทรศัพท์จริงๆ แทนที่จะเป็นการเช่า และเริ่มคาดหวังถึงคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นและบริการที่ดียิ่งขึ้น

1992 โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบดิจิตอลรุ่นแรกซึ่งใช้มาตรฐานใหม่ TDMA ออกวางตลาด

1994 โทรศัพท์มือถือระบบ CDMA ของ Qualcomm เปิดตัว ตามด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์แบบใหม่ PCS ซึ่งมีช่องสัญญาณมากกว่าในปีเดียวกัน

1995 ในขณะที่ผู้คนกำลังคลั่งไคล้โทรศัพท์มือถือกันอย่างสุดเหวี่ยง บริษัทซอฟต์แวร์เล็กๆ ชื่อ VocalTec ได้ออกซอฟต์แวร์โทรศัพท์อินเทอร์เน็ตหรือ VoIP ตัวแรก ซึ่งสามารถใช้กับ Windows บนเครื่อง PC ที่ใช้ตามบ้าน โดยสามารถสื่อสารทางเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยผ่านโมเด็ม แต่คุณภาพของเสียงต่ำ และจะใช้ได้เมื่อผู้ใช้ทั้ง 2 ฝั่งใช้ซอฟต์แวร์ตัวเดียวกัน

1998 ระบบ VoIP จากเครื่อง PC ไปยังเครื่องโทรศัพท์ และจากเครื่องโทรศัพท์ไปยังเครื่องโทรศัพท์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ ทำให้เทคโนโลยี VoIP หรือโทรศัพท์อินเทอร์เน็ต เหมือนกับโทรศัพท์จริงๆ มากยิ่งขึ้น แต่การใช้โทรศัพท์อินเทอร์เน็ตก็ยังคงมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของการใช้โทรศัพท์เท่านั้น ปัจจุบันเมื่อความนิยมใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ทำให้ VoIP ซึ่งได้ปรับปรุงให้มีคุณภาพสูง โดยที่ราคายังคงถูก สามารถทำให้คนหลายล้านคนหันมาใช้โทรศัพท์อินเทอร์เน็ต และขณะนี้ใครที่มี เพียง PC กับซอฟต์แวร์ง่ายๆ ก็สามารถจะทำตัวเป็นบริษัทโทรศัพท์ที่ให้บริการโทรศัพท์ผ่านเน็ตได้