Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539
แมคโดนัลด์ ...ยักษ์ใหญ่ที่ไม่ยอมหยุดโต             
 


   
www resources

McDonald Homepage

   
search resources

แมคโดนัลด์
Fastfood




ปีนี้ แมคโดนัลด์ เชนฟาสต์ฟูดใหญ่สุดของโลก เตรียมผุดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 2,500-3,200 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่ทั้งสิ้น 18,380 สาขา พูดง่าย ๆ ก็คือเปิดกันทุก ๆ 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าแมคโดนัลด์จะใหญ่คับฟ้าได้ถึงเพียงนี้ เพราะช่วงนั้นกำไรของบริษัทตกอยู่ในภาวะวิกฤติเนื่องจากตลาดอเมริกันอิ่มตัวเข้าไปทุกขณะ

แถมอัตราการขยายตัวของกำไรนอกบ้านยังชะลอตัวเลขจนน่าเป็นห่วง

แต่การณ์กลับปรากฏว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แมคโดนัลด์มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึงปีละ 12% โดยเฉพาะปีที่แล้วที่ตัวเลขดังกล่าวทำลายสถิติเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 1988 โดยทะยานขึ้นถึง 17%

คิดเป็นกำไรทั้งสิ้น 1,400 ล้านดอลลาร์ ส่งให้ราคาหุ้นของบริษัทกลายเป็นดาวค้างฟ้า แม้ในวันที่หุ้นตัวอื่น ๆ ในดัชนีเอสแอนด์พีร่วงถล่มทลายก็ตาม

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมาจากนักลงทุนสมองใส หวังรวยทางลัดจากอาการตื่นสินค้าอเมริกัน ที่มีแบรนด์เนมระดับอินเตอร์ของผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่ ดังจะเห็นได้จากราคาหุ้นของโค้กและฟิลิป มอร์ริส

ที่ชวนกันไต่เพดานถึง 44% และ 57% ตามลำดับ

ในกรณีของแมคโดนัลด์นั้น การเติบโตในตลาดนอกประเทศกลายเป็นตัวแปรเปลี่ยนรูปร่างของบริษัทไปโดยปริยาย เพราะแม้จะมีสาขาในสหรัฐฯ มากกว่าตลาดต่างแดน

แต่ธุรกิจนอกประเทศกลับขยายตัวเร็วกว่า

แมคโดนัลด์เองก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้หลังจากคิดบัญชีเสร็จสรรพแล้วพบว่า ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่สาขานอกบ้านทำกำไรจากการดำเนินงานมากกว่าสาขาในเมืองลุงแซม

การขยายตัวออกนอกบ้านยังเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับแมคโดนัลด์ ค่าที่ยอดขายต่างแดนทำกำไรให้มากกว่ายอดขายในบ้าน แถมการแข่งขันก็ไม่ดุเดือดเท่า

ทำให้แมคโดนัลด์สามารถตั้งราคาแพงกว่าคู่ต่อสู้ได้สบาย ๆ ที่สำคัญโอกาสในการเติบโตยังมีอยู่อย่างไม่จำกัด เพราะแม้ปัจจุบันแมคโดนัลด์จะมีสาขาถึง 7,000 แห่งใน 89 ประเทศไม่นับสหรัฐฯ

แต่ตามความจริงแล้ว เบอร์เกอร์และเมนูอื่น ๆ ของแมคโดนัลด์ก็ยังเสิร์ฟได้แค่ครึ่งเปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรโลกเท่านั้น

แมคโดนัลด์จึงคาดหวังว่ากำไรในการดำเนินงานในต่างประเทศจะมีอัตราการเติบโตตกปีละ 20% ตลอด 5 ปีหน้า ทั้งยังมั่นใจว่าอัตราเติบโตของกำไรในสหรัฐฯ จะมีราว 5%

สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้แก่นักวิเคราะห์เป็นอย่างมาก เนื่องจากการแข่งขันในตลาดอเมริกันมันหยดกว่าที่ใคร ๆ คิด ไม่เพียงแต่เบอร์เกอร์ คิง และเวนดี้'สเท่านั้น แต่แมคโดนัลด์ยังต้องห้ำหั่นกับพิซซ่า ฮัท,

เคเอฟซี และทาโก้ เบลล์ ซึ่งล้วนเป็นบริษัทในเครือของเป๊ปซี่ ตลอดจนถึงร้านแซนด์วิชและฮ็อทด็อกข้างทางทั้งหลายแหล่

แต่สำหรับแมคโดนัลด์เรื่องแค่นี้มีทางแก้อยู่แล้ว นั่นก็คือการลงนามด้วยความกร้าวแกร่งสมกับฐานะผู้นำในตลาด โดยปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดสาขาในสหรัฐฯ อีก 1,300 แห่ง

เพื่อต้อนรับลูกค้าทุกหย่อมหญ้าของอเมริกา

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้แมคโดนัลด์ใช้เงินมือเติบได้ถึงขนาดนั้น ก็เนื่องมาจากการลดต้นทุนในการเปิดร้านใหม่ลงถึง 30% นับแต่ปี 1990

ส่งผลต่อถึงปัจจุบันทำให้แมคโดนัลด์สามารถเปิดสาขาแม้ในจุดที่ไม่มีกำไรเลยตลอดช่วง 5 ปีแรก อาทิ โรงพยาบาล ฐานทัพ สนามบิน หรือแม้แต่โรงเรียน

นอกจากนั้นยังเนื่องมาจากในอดีตแมคโดนัลด์เคยใช้เงินสดสำรองจากธุรกิจในสหรัฐฯ ไปจุนเจือแผนการสยายปีกในตลาดอินเตอร์ มาวันนี้ ธุรกิจนอกสหรัฐฯ

กลับกลายเป็นแหล่งเงินใหญ่ให้บริษัทนำมาใช้ฟาดฟันกับศัตรูในบ้านได้อย่างสบายมือ

อย่างไรก็ตาม แผนการขยายสาขาในสหรัฐฯ อาจกลายเป็นดาบสองคมเพราะเท่ากับเป็นการแย่งลูกค้ากันเองระหว่างสาขาใกล้เคียง ซึ่ง 85%

ของสาขาทั้งหมดในอเมริกาเป็นแฟรนไชส์ที่แมคโดนัลด์ให้ไลเซ่นส์ผู้อื่นไปดำเนินการ

นักวิเคราะห์คนหนึ่งลงท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "เมื่อสภาวะรอบข้างบีบคั้นยิ่งขึ้น คนที่เคยอ่อนแอก็จะยิ่งอ่อนปวกเปียกกว่าเก่า แต่ในสภาวการณ์ดังกล่าว

ผู้เล่นหลายรายที่รู้สึกไม่พอใจแมคโดนัลด์ก็อาจจะยืนหยัดสู้กับยักษ์ใหญ่จนเลือดหยดสุดท้ายหยดจากร่างเช่นกัน"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us