บอร์ดทศทชี้ชะตาโครงการโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย หลังบอร์ดเล็กชงเรื่องโคลส บิต 3 บริษัทด้วยวิธี อี-ออกชัน ด้านคนในทศทชี้ หากใช้อี-ออกชันก็ต้องล้มประมูลแล้วเปิดประมูลใหม่ เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขทีโออาร์ ในสาระสำคัญ

แหล่งข่าวจากบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่าในการประชุมบอร์ดทศทในวันนี้ (24 ก.พ.) จะมีการพิจารณาเรื่องโครงการโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย ในประเด็นที่จะให้มีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โดยก่อนหน้านี้ในการประชุมบอร์ดเล็ก ได้ข้อสรุป ที่จะให้บริษัท มารูเบนิ และกลุ่มบริษัท อีริคสัน เป็นอีก 2 รายที่จะได้เข้าประกวดราคาอี-ออกชัน ร่วมกับซีเมนส์ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดใหญ่

การพิจารณาของบอร์ดเล็กที่มีพล.ต.อ.บุญฤทธิ์ รัตนะพร เป็นประธาน เป็นไปตามนโยบายของ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่ต้องการให้มีการประกวดราคาอี-ออกชัน พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่านักวิชาการอิสระได้ให้ความเห็นว่าทั้งมารูเบนิ และอีริคสัน ไม่ได้ผิดเงื่อนไขในสาระสำคัญ

เนื่องจากการตัดสินของบอร์ด ทศท ที่ให้ซีเมนส์เป็นผู้ชนะเพียงรายเดียวที่ผ่านด้านพาณิชย์ ด้านเทคนิคและด้านการทดสอบ แบบครบถ้วน 100% จนนำไปสู่การเปิดซองราคารายเดียวเพราะเห็นว่ามา รูเบนิและอีริคสัน ไม่ได้ถูกครบถ้วน 100% แต่มีการผิดเงื่อนไขบ้าง ในลักษณะออกสีเทาๆ ซึ่งคณะกรรม- การเปิดซองราคาก็ได้เสนอให้บอร์ด ทศท พิจารณาทั้ง 3 บริษัท แต่บอร์ดต้องการบริษัทที่ถูกต้องแบบ 100% จึงตัดสินให้ซีเมนส์บริษัทเดียว โดยไม่ได้คำนึงเรื่องจำนวนบริษัท แต่เลือกความถูกต้องตามทีโออาร์เป็นเกณฑ์ ถึงขนาดที่มีการพูดว่า หากไม่เลือก 1 บริษัทคือซีเมนส์ ก็ต้องเลือก 5 บริษัท ที่รวมพวกสีเทาๆ เข้าไปด้วย หมายถึงมารูเบนิ อีริคสัน อัลคาเทลและจัสมิน เพื่อป้องกันการฟ้องร้อง เพราะผู้เข้าประกวดราคาต่างรู้ข้อมูลฝ่ายตรงข้ามว่าผิดทีโออาร์ในประเด็นไหนบ้าง โดยที่ทั้ง 5 บริษัทผ่านเงื่อนไขพาณิชย์ทั้งหมด

แหล่งข่าวกล่าวว่าตามหลักการ ประกวดราคาของทศท หากเปลี่ยนไปใช้วิธีอี-ออกชัน จะถือว่าเป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขในสาระสำคัญของทีโออาร์ ซึ่งหมายถึงต้องมีการประกาศล้มการประกวดราคาครั้งนี้ และเปิดให้มีการประกวดราคาครั้งใหม่ ในวงกว้าง ซึ่งสามารถทำได้เหมือนการประกวดราคาโครงการโทรศัพท์มือถือซีดีเอ็มเอของบริษัท กสทโทรคมนาคม โดยตัดขั้นตอนการทดสอบออกไป เพียงพิจารณาเงื่อนไขเทคนิคทุกอย่างบนเอกสาร และเพิ่มค่าปรับกรณีติดตั้งไม่เสร็จให้สูงๆ เหมือนวันละ 70 ล้านบาทของกสท เพื่อให้ได้บริษัทจำนวนมาก ในการอี-ออกชัน ซึ่งวิธีนี้สามารถทำได้ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากบอร์ด ทศท ตัดสินตามข้อเสนอของบอร์ดเล็ก ซึ่งไม่เรียกว่าเป็นการล้มประมูล แต่ถือเป็นการโคลส บิต น่าจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นข้อครหาในทำนองว่ายกโครงการให้หัวเหว่ยเพราะมารูเบนิและอีริคสันใช้อุปกรณ์ของหัวเหว่ยทั้งคู่ ในขณะที่ซีเมนส์ใช้อุปกรณ์ Opnet ของไต้หวัน ถึงแม้เป็นจีนเหมือนกัน แต่ซีเมนส์ก็ยอมรับว่าอาจจะทำราคาสู้หัวเหว่ยไม่ได้ รวมทั้งอาจมีปัญหาการฟ้องร้องตามมาวุ่นวาย เพราะจัสมินและอัลคาเทล ก็คงไม่ยอมง่ายๆ นอกจากนี้ โครง การขนาด 6.5 พันล้านบาทถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ การเลือก 3 รายมาอีออกชันในทำนองโคลส บิต ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเหมาะสมนัก

ในขณะเดียวกันไม่ว่าบอร์ดทศท จะตัดสินใจอย่างไร ไม่ว่าโคลสบิตเลือก 3 ราย หรือล้มประมูล เพื่อประมูลใหม่แบบเปิดกว้างด้วยอี-ออกชัน ท่าทีของซีเมนส์ก็บ่งบอกชัดเจนว่าจะใช้กระบวนการด้านกฎหมายเพื่อยับยั้งการประกวดราคาครั้งใหม่ หลังสำนักกฎหมาย Baker & McKenzie ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ซีเมนส์สามารถดำเนินการฟ้องร้องกับศาลปกครอง หากทศทยกเลิกผลการประกวดราคาโครงการ 5.6 แสนเลขหมายแล้ว ซีเมนส์ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งยังสามารถร้องขอให้ศาลปกครองชะลอหรือระงับการประกวดราคาครั้งใหม่ในรูปแบบ อี-ออกชัน ออกไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ