ก.ล.ต.ขีดเส้นตายให้ไทยน๊อคซ์ฯ และที่ปรึกษาทางการเงินชี้แจงข้อมูลการเพิ่มทุนภายในระยะเวลา 7 วัน ขณะที่บล.ทิสโก้บอกเลิกเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มทุนครั้งใหม่ถ้าทำได้ให้หาที่ปรึกษาคนใหม่ "โสภาวดี" ระบุตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายยาวจนกว่าบริษัทจะชี้แจงข้อมูล "ประยุทธ" เตรียมเปิดแถลงข่าวชี้แจงวันศุกร์นี้

นายชาลี จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโสสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548 ที่ผ่านมาสำนักงานก.ล.ต.ได้ส่งหนังสือไปยังบริษัทไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด(มหาชน)(TNX) และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อให้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อนำไปใช้ในโครงการเหล็กรีดร้อน ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มีมูลค่าโครงการ 1.4 หมื่นล้านบาท แต่โครงการดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งไว้ในหนังสือชี้ชวน ดังนั้นจึงให้บริษัทไทยน๊อคซ์และบล.ทิสโก้ชี้แจงภายในระยะเวลา 7 วัน

"ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ เนื่องจากจะต้องรอดูหนังสือที่แจ้งมาเสียก่อนจึงจะให้ความเห็นได้" นายชาลีกล่าว

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ทางตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ของ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) จนกว่าบริษัทจะมีการชี้แจงกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งขณะนี้ก็จะมีการตรวจสอบเกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยง ในด้านการซื้อที่ดินซึ่งเข้าข่ายที่จะต้องแจ้งตลาด หลักทรัพย์ฯหรือไม่ในเรื่องรายละเอียดเรื่องการประเมินราคาที่ดิน

ทั้งนี้ หากบริษัทชี้แจงว่าโครงการลงทุนนี้เป็นโอกาสที่เพิ่งเข้ามา โดยบริษัทไม่ได้วางแผนมาก่อนนั้นบริษัทไทยน๊อคซ์ก็สามารถที่จะมีการเพิ่มทุนได้แต่ก็จะต้องมีการชี้แจงรายละเอียดว่าทำไมถึงเป็นโอกาสที่จะทำในขณะนี้ต่อสำนักงานก.ล.ต. ซึ่งหาก ก.ล.ต.พิจารณาแล้วเห็นด้วยก็สามารถที่จะดำเนินการดังกล่าวได้ สำหรับในขณะนี้ทางสำนักงานก.ล.ต.เป็น ผู้รับผิดชอบดำเนินงานในด้านแบบเสนอข้อมูล(ไฟลิ่ง)

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า จากนี้ไปบริษัทจะไม่ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทไทยน๊อคซ์ สเตนเลสต่อไป เนื่องจากบริษัทดังกล่าวทำผิดสัญญาซึ่งตามเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดไว้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินจะต้องทำหน้าที่คอยดูแลบริษัทที่นำเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยบริษัทจดทะเบียนจะดำเนินการต่างๆ ก็จะต้องมาปรึกษากับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน แต่ปรากฏว่าในส่วนของบริษัทไทยน๊อคซ์ที่ได้ดำเนินการเพิ่มทุนในครั้งนี้ไม่ได้มีการเข้ามาปรึกษากับบล.ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินแต่อย่างใด

ดังนั้น หากผู้ถือหุ้นรายย่อยเกิดความเสียหาย บริษัทไทยน๊อคซ์สเตนเลสจะต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้หากบริษัทไทยน๊อคซ์จะดำเนินการเพิ่มทุนต่อไป ก็จะต้องไปแต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษารายใหม่แทน

"ถ้าผู้ถือหุ้นเสียหายบล.ทิสโก้ก็จะมองว่าบริษัทไทยน๊อคซ์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยบล.ทิสโก้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับบริษัทต่อไปและบริษัทไทยน๊อคซ์ก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องได้ เพราะทำผิดข้อตกลงก่อนที่ไม่มีการปรึกษากับบริษัทก่อนหากบริษัทจะเพิ่มทุนต่อไปก็ทำได้ แต่ก็ต้องตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินใหม่"

นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการ บริษัทไทยน๊อคซ์สเตนเลส จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2548 บริษัทจะทำเรื่องชี้แจงไปยังสำนักงานก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในขณะนี้แต่จะมีการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อมูลทั้งหมดภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เช่นเดียวกัน

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฯแจ้งว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) สั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) โดยขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) หลักทรัพย์ของ บริษัทไทยน๊อคซ์ฯ สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์รอบบ่ายของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2548 เป็นต้นไป เพื่อให้บริษัทไทยน๊อคซ์ฯ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่คณะกรรมการบริษัทจะมีมติเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนและให้คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบชี้แจงความสมเหตุสมผลของราคาซื้อที่ดินจากบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน

ทั้งนี้ เนื่องด้วย บริษัทไทยน๊อคซ์ยังไม่สามารถชี้แจงข้อมูลดังกล่าวแก่ตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อเผยแพร่ข้อมูลได้ประกอบกับสำนักงาน ก.ล.ต.ได้สั่งให้บริษัทไทยน๊อคซ์ชี้แจงสาเหตุที่บริษัทไม่ได้เปิดเผยแผนการลงทุนในโครงการผลิตเหล็กรีดร้อนซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 14,000 ล้านบาทในแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบ 69-1) และหนังสือชี้ชวนที่เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2547 ทั้งนี้การปกปิดข้อมูลในแบบ 69-1 และหนังสือชี้ชวนเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนตามมาตรา 278 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 การไม่ เปิดเผยข้อมูลโครงการลงทุนส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทไทยน๊อคซ์ฯและอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการซื้อขายหลักทรัพย์

ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ลงทุนว่าบริษัทไทยน๊อคซ์ฯดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดและเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นทุกรายตลาดหลักทรัพย์ฯจึงยังคงสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทไทยน๊อคซ์ฯ ต่อไปจนกว่าจะชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับรายการเกี่ยวโยงกันและสาเหตุที่ไม่เปิดเผยแผนการลงทุนดังกล่าวได้อย่างชัดเจนและครบถ้วน