Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2545








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2545
ชีวิตรักของแจ็ก เวลซ์             
โดย รุ่งมณี เมฆโสภณ
 


   
search resources

Jack Welch
Suzy Wetlaufer




เชื่อว่าหลายคนคงไม่ตกข่าวนี้

นั่นคือข่าวที่ว่า ซูซี เวตลอเฟอร์ (Suzy Wetlaufer) วัย 42 ปี บรรณาธิการของ Harvard Business Review (HBR) ซึ่งมีชื่อเสียงในหมู่นักธุรกิจทั่วโลก ได้ลาออกจากตำแหน่งบรรณาธิการ หลังจากที่เกิดวิกฤติศรัทธาในหมู่เพื่อนร่วมงาน เนื่องจากเธอไปมีความสัมพันธ์พิเศษกับแจ็ก เวลช์ (Jack Welch) วัย 66 ปี อดีตผู้บริหารสูงสุดของจีอี (GE - General Electric Co.) ระหว่างที่เธอสัมภาษณ์เวลช์ให้กับ HBR เมื่อปลายปีที่แล้ว

ข่าวนี้สร้างความงุนงงให้กับคนใกล้ชิดเวลช์ไม่น้อย เพราะเท่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีท่าทีว่าจะเป็นผู้ชายที่นอกใจภรรยา หรือ หาเศษหาเลยกับหญิงอื่น แม้เขาจะแต่งงานสองครั้งก็ตาม

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเวตลอเฟอร์ แจ็ก เวลช์ให้โฆษกออกมาบอกกล่าวแค่ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว โดยขอไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น แต่ข่าวที่ตามมาหลังจากนั้นซิคะ ที่ทำให้ข่าวระหว่างเวลช์กับเวตลอเฟอร์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอักโขทีเดียว

นั่นคือข่าวที่ว่าชีวิตครอบครัวเวลช์ดำเนินมาถึงทางแยกอีกครั้ง

เจน (Jane) ภรรยาคนปัจจุบันขอหย่าขาดจากแจ็ก เวลช์!

สำหรับเรื่องชีวิตรักที่กำลังอับปางระหว่างเขากับภรรยานี้ เวลช์ได้ขอร้องให้สื่อมวลชนเห็นแก่ความเป็นส่วนตัวของเขาและครอบครัว

ข่าวนี้ก็สร้างความงุนงงให้กับคนใกล้ชิดเวลช์ไม่น้อยไปกว่าข่าวแรก เพราะเป็นที่รับรู้กันดีว่าสามีภรรยาคู่นี้มักจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ โดยเฉพาะในยามที่ผู้เป็นสามีเจ็บไข้ได้ป่วย

แม้เรื่องอื้อฉาวระหว่างแจ็ก เวลช์กับ ซูซี เวตลอเฟอร์จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางจากสื่อมวลชน แต่บรรดาอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจของหลายสถาบันในสหรัฐ อเมริกากลับเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องนี้ไม่อาจทำลายความยิ่งใหญ่ที่เวลช์สร้างสมมานานหลายทศวรรษลงได้ และอีกไม่ช้าไม่นาน เรื่องนี้ก็จะเลือนหายไปจากการวิพากษ์วิจารณ์

******

ภรรยาคนแรกของแจ็ก เวลช์ คือ แคโรลิน ออสเบิร์น (Carolyn Osburn) ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2502 และฮันนีมูนด้วยการขับรถโฟล์กเต่าที่ได้รับเป็นของขวัญจากพ่อ โดยแจ็ก เวลช์ พาเจ้าสาวข้ามประเทศจากอิลลินอยส์ไปเริ่มงานกับจีอีที่พิตส์ฟิลด์

แต่แล้วชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ก็ถึงจุดจบในปี 2530

แจ็ก เวลช์พูดถึงชีวิตคู่ครั้งแรกของเขาว่า "ยุ่งยากและเจ็บปวด" แต่เมื่อต้องหย่าร้างทั้งคู่ก็สามารถตกลงกันได้ด้วยดีและที่สำคัญถูกเวลา เนื่องจากลูกคนเล็กในจำนวน 4 คนของพวกเขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง พอดี

แจ็กและแคโรลิน เวลช์ มีลูกชาย 2 หญิง 2

แจ็ก เวลช์เป็นคนบ้างาน ขณะที่ภรรยาอยู่บ้านเลี้ยงดูลูกตามความต้องการของสามี แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อลูกๆ โตกันหมดแล้ว แคโรลิน เวลช์ก็ต้องการที่จะออกไปทำงานนอกบ้าน

ในที่สุดความคิดที่สวนทางก็ตกผลึกกลายเป็นการหย่าร้าง

หลังจากนั้น แจ็ก เวลช์ก็กลายเป็นหนุ่มโสดอีกครั้ง แถมยังเป็นโสดชนิดเลี่ยมทองเสียด้วย!

เวลช์เล่าว่า เพื่อนๆ พยายามจับคู่ให้เขากับหญิงมากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่ได้ผล จนกระทั่งวอลเตอร์และแคที ริสตัน (Walter and Kathy Wriston) ได้นัดบอดให้เขาพบกับเจน บีสลีย์ (Jane Beasley) นักกฎหมาย ซึ่งเชี่ยวชาญทางด้านการควบรวมกิจการ

นัดครั้งนี้มีขึ้น 6 เดือนหลังจากที่เขาหย่ากับภรรยาคนแรก

บีสลีย์เป็นชาวแอละแบมา อายุน้อยกว่าเวลช์ 17 ปี

เธอจบทางด้านกฎหมายจาก Univer-sity of Kentucky โดยที่ตอนนั้นเธอดำรงตำแหน่งเป็นบรรณาธิการของวารสาร Law Review ด้วย และต่อมาในปี 2527 เธอก็เป็น หนึ่งในทีมนักกฎหมายที่เป็นตัวแทนของ Standard Oil of California ในการเข้าซื้อกิจการ Gulf Oil มูลค่า 13 ล้าน 4 แสนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าใหญ่ที่สุดในเวลานั้น

เวลช์บอกว่า ตอนแรกบีสลีย์ไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงาน แต่หลังจากพูดคุยกันถึงความต้องการของทั้งสองฝ่ายเรื่องก็จบลงด้วยดี...

เวลช์ต้องการหุ้นส่วนชีวิตชนิดเต็มเวลา ซึ่งนอกจากต้องเคียงคู่ออกงานสังคมกับเขาแล้ว ยังต้องสามารถเล่นกอล์ฟและสกีด้วยกันได้ ขณะที่บีสลีย์ก็ต้องการคู่ชีวิตที่มีเวลาไปฟังโอเปรากับเธอบ้าง ในที่สุด บีสลีย์ยอมทิ้งอาชีพนักกฎหมายอนาคตไกลมาเป็นภรรยานักธุรกิจใหญ่แบบเต็มเวลา พร้อมทั้งยอมหัดเล่นกอล์ฟและสกี โดยที่เวลช์ยอมไปฟังโอเปรา

ทั้งคู่แต่งงานกันที่บ้านพักฤดูร้อนของเวลช์ในแมสซาชูเซตส์ ในเดือนเมษายน 2532 โดยลูกชายหญิงทั้ง 4 จากการสมรสครั้งแรกของเวลช์ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานในงานด้วย

แจ็ก เวลช์เคยพูดถึงเจนว่าเธอเป็น "หุ้นส่วนชีวิตที่ดีพร้อม"

แจ็กและเจน เวลช์ไม่มีลูกด้วยกัน

และเนื่องจากข้อตกลงก่อนการสมรสของทั้งคู่สิ้นสุดลงเมื่อปี 2542 จึงมีผลให้เจน เวลช์มีสิทธิ์ในทรัพย์สินของแจ็ก เวลช์ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้มีการประเมินกันหลายกระแส อาทิ BusinessWeek ระบุว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 4 หมื่นล้าน บาท ขณะที่นิตยสาร Forbes ซึ่งจัดอันดับ มหาเศรษฐี 400 รายเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว อ้างว่าแจ็ก เวลช์มีทรัพย์สินอยู่ 680 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ในชั้นต้นนี้ ทนายของฝ่ายหญิงเชื่อว่า การหย่าร้างน่าจะดำเนินไปด้วยดี แต่กระนั้น ก็ไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของการเจรจาโดยอ้างว่ายังเร็วเกินไป

******

สำหรับม่ายสาวลูก 4 ซูซี เวตลอเฟอร์...

เธอจบการศึกษาจาก Harvard Business School (HBS) และเคยเป็นที่ปรึกษา ของ Bain & Co. รวมทั้งเคยทำงานเป็นผู้สื่อข่าวให้ กับ Miami Herald และ Associated Press (AP)

เวตลอเฟอร์ร่วมงานกับ HBR ในปี 2536 ในฐานะบรรณาธิการอาวุโส ก่อนที่จะขึ้นเป็นบรรณาธิการของ HBR ในเดือนตุลาคม 2543 โดยเธอเป็นตัวจักรสำคัญที่ทำให้ HBR ปรับเวลาในการออกวางจำหน่ายจากเดือนเว้นเดือนมาเป็นออกวางจำหน่ายทุกเดือน

ปัจจุบัน HBR มียอดพิมพ์จำหน่าย 240,000 เล่ม โดยผู้อ่านส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ระดับสูงของทุกมุมโลก

ความสัมพันธ์ที่เหมือนดั่งนิยายเรื่องนี้เริ่มเมื่อปลายปีที่แล้ว...

เมื่อบรรณาธิการสาวของ HBR ติดต่อ ขอสัมภาษณ์พิเศษนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ ทีแรก แจ็ก เวลช์ปฏิเสธ แต่แล้วเกิดเปลี่ยนใจ เนื่อง จากทราบว่าทาง HBR ยอมให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ได้อ่านและแก้ไขเนื้อหาก่อนตีพิมพ์ได้ หลังจากสัมภาษณ์กันแล้วก็มีเรื่องให้ต้องเจรจาเป็นลูกติดพันตามมา

เวลช์บอกว่า เขาไม่พอใจร่างแรกของบทสัมภาษณ์ และเนื่องจากความเห็นไม่ตรงกัน ทำให้เขาโต้เถียงกับเวตลอเฟอร์อย่างดุเดือดหลายครั้งหลายหน ขณะเดียวกัน บรรณาธิการสาวก็หัวเสียที่เวลช์แก้ไขบทสัมภาษณ์จนเหมือนกับว่าเขาเขียนมันเอง แต่ แล้วความสัมพันธ์ที่เสมือนพ่อแง่แม่งอนก็แปรผันกลายเป็นโรแมนติก หลังการนัดถ่ายภาพและเลี้ยงอาหารกลางวันที่นิวยอร์ก

เวตลอเฟอร์เล่าให้เพื่อนร่วมงานฟังถึงความสัมพันธ์พิเศษนี้

และแล้ววันหนึ่งเจน เวลช์ได้โทรศัพท์ หาเวตลอเฟอร์พร้อมกับถามว่า ในเมื่อมีความสัมพันธ์กับสามีของเธอขนาดนี้แล้วยังจะเป็นกลางได้อีกหรือ จุดนี้เองที่ทำให้เวตลอเฟอร์ขอถอนบทสัมภาษณ์แจ็ก เวลช์ จนร้อนถึงผู้บริหารของนิตยสาร HBR ต้องส่ง ระดับบรรณาธิการอีก 2 คนไปสัมภาษณ์แจ็ก เวลช์ใหม่เพื่อนำมาตีพิมพ์ให้ทันกำหนดเวลาที่วางไว้

ต่อมา ซูซี เวตลอเฟอร์ขอลาออกจาก ตำแหน่งบรรณาธิการ HBR แต่ยังคงมีตำแหน่ง เป็น editor-in-chief ของนิตยสารต่อไป ผลที่ตามมาก็คือ มีระดับบรรณาธิการ HBR ประท้วงด้วยการลาออก 2 คน โดย 1 ในจำนวนนั้นบอกว่า เขามีความไม่ลงรอยกับเวตลอเฟอร์และฝ่ายบริหารของ HBR มาก่อนหน้านี้แล้ว

เวลานี้ ยังไม่มีข่าวความคืบหน้าในความสัมพันธ์ระหว่างเวลช์กับเวตลอเฟอร์ ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีคำตอบสำหรับชีวิตรักของเวลช์ในอนาคต

เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนผิดหวังกับ กูรูทางธุรกิจผู้นี้อยู่บ้าง

อย่าผิดหวังไปเลยค่ะ...

เนื้อแท้ของกูรูก็คือมนุษย์ปุถุชน!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us