ตลาดหุ้นไทยพักฐานร่วง 4.69 จุด วอลุ่มหนาแน่น 3.3 หมื่นล้าน เก็งกำไร PTT พุ่งแตะ 202 บาท "ซิงเกิ้ลพอยท์ฯ" ให้กำไร 26% ตะลึง "ไทยน๊อคซ์" เข้าตลท.ไม่นานเพิ่มทุน 2 พันล้าน, วอร์แรนต์อีก 2,000 ล้าน ซื้อที่ดินตั้งโรงผลิตเหล็กรีดร้อน "ประยุทธ" เผยมีคนออฟเฟอร์เครื่องจักร-เงื่อนไขดีให้ทำ ชี้เพิ่มรายได้ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี "ยูโอบี" มองเพิ่มทุนเร็วคาดราคาขาย 1.9-2 บ. "สมคิด" ขุนคลังเชื่อตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุน คาดกองทุนไทยจะเริ่มกลับเข้ามาซื้อ
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวานนี้ (17 ก.พ.) ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบและบวกก่อนมีแรงขายเข้ามาอย่างหนักส่งผลดัชนี ปิดที่ 734.68 จุด ลดลง 4.69 จุด (0.63%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 33,792.26 ล้านบาท มีแรงซื้อขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มสถาบันการเงิน
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,248.50 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,437.03 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 188.53 ล้านบาท
หุ้น PTT พุ่งแตะ 202 SPPT พุ่งเหนือจอง
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน จำกัด เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นวันนี้ ที่ปรับตัวลดลงเนื่องจาก เป็นการปรับฐานหลังจากที่ดัชนีเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วัน 18 จุด จากปัจจัยการประกาศจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน และการจ่ายเงินปันผล
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT วานนี้ราคาปรับขึ้นเหนือ 200 บาทเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลัก- ทรัพย์เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 44 โดยระหว่างวันราคาปรับตัวขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 202 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาทก่อนปรับตัวลดลงมาปิดที่ระดับ 199 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท (1.53%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 2,639.54 ล้านบาท เนื่องจากมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร
ส่วนหุ้นบริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ SPPT เข้าซื้อขายเป็นวันแรก ราคาเปิดตลาดที่ระดับ 3.12 บาท เพิ่ม ขึ้น 0.72 บาทหรือ 30% จากราคาจองที่ 2.40 บาท โดยปรับตัวสูงสุดระหว่างวันที่ 3.36 บาท ต่ำสุดที่ 2.94 บาท และกลับมาปิดที่ 3.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.64 บาท หรือ 26.66% มูลค่าการซื้อขาย 337.90 ล้านบาท
"สมคิด" ชี้กองทุนไทยเตรียมช้อน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นของไทยว่า ปัจจุบันกำไรสุทธิต่อหุ้น (earning per share : EPS) และอัตราผลตอบแทนต่อหุ้น(yield)สูงกว่าในช่วงปี 2544 ที่ผ่านมา ในขณะที่ ราคาหุ้นต่อกำไร (PE ratio) ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังมีช่องว่างที่สามารถ ทำให้ราคาหุ้น และดัชนีราคาหุ้น (SET Index) โตได้อีก
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 ที่ผ่านมา กองทุนไทยเริ่มเทขายหุ้นออกมา ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้นโดยตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติมองตลาดระยะยาวขณะที่นักลงทุนไทยมองเพียงระยะสั้นเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่ากองทุนไทยจะเริ่มกลับมาช้อนซื้อหุ้นในช่วง 1-2 วันนี้ ก็ยังซื้อได้ในราคาที่สูงกว่านักลงทุนต่างชาติทำให้เสียโอกาสในการลงทุน
สำหรับการเดินทางโรดโชว์ในต่างประเทศนั้น นายสมคิดกล่าวว่า จะต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ แต่เชื่อว่าจากภาวะเศรษฐ-กิจและความเชื่อมั่นของต่างประเทศเช่นในปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสไปได้ดีอีกมาก
ตะลึง "ไทยน๊อคซ์" เพิ่มทุน 2 พันล้าน
ทางด้านหุ้นบริษัทไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือ TNX วานนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ได้ขึ้นเครื่องหมาย "H" ก่อนจะขึ้นเครื่องหมาย "SP" ห้ามซื้อขายหุ้นหลังจากปรากฏข้อมูลบริษัทประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน
นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการ TNX เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการว่าที่ประชุมอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนอีก 2,000 ล้านหุ้น และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (Warrant) อีก 2,000 ล้านหน่วย ซึ่งรายละเอียดในการเสนอขายหุ้นนั้น ขณะนี้มอบให้ฝ่ายบริหารของ TNX ไปหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเสนอแก่คณะกรรมการบริษัท ภายในอีก 1 เดือนจากนี้ โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนได้ประมาณอีก 6 เดือน เพราะต้องเสนอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติ
ทั้งนี้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปลงทุนเพื่อซื้อดินจาก บริษัท แอคมี่ แคมพ์ จำกัด ราคาไร่ละ 1,450,000 บาท รวมพื้นที่ 240 ไร่ 3 งาน 32.3 ตารางวา ตั้งอยู่ ณ ตำบลมาบข่า อำเภอ บ้านค่าย จังหวัดระยอง รวมมูลค่า 349,204,587.50 บาท ซึ่งบริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 48 และบริษัทได้วางเงินมัดจำในวันทำสัญญา 100 ล้านบาท ชำระส่วนที่เหลือในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
สำหรับการซื้อที่ดินเพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กรีดร้อน (HOT MELTING SHOP) กำลังการผลิต 6 แสนตันต่อปี โดยใช้เงินทุนประมาณ 14,000 ล้านบาท เพื่อผลิตม้วนสเตนเลส (HOT ROLLED COIL) ซึ่งเป็นวัตถุดิบของบริษัทฯ เพื่อป้อนบริษัทฯ และส่งออก HOT ROLLED COIL ในส่วนที่เหลือจากความต้องการใช้ของบริษัทฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในทางธุรกิจ หากคิดจากวัตถุดิบที่บริษัทซื้อในปัจจุบันนี้จะทำให้บริษัทเพิ่มยอดขายจากการลงทุนนี้เป็นจำนวนเงิน 50,000 ล้านบาท และมีกำไรจากผลประกอบการมากขึ้น เนื่องจาก HOT ROLLED COIL จะให้ Product Margin ดีและเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการผลิตของบริษัทในปัจจุบัน
"การลงทุนการผลิตเหล็กรีดร้อน เพื่อผลิต HOT ROLLED COIL ถือเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุน เพราะมีผู้เสนอให้บริษัทลงทุนในการทำโดยเสนอเครื่องจักรและเงื่อนไขต่างๆ ในแถบภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ยังไม่มีการตั้งโรงงานดังกล่าว ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้บริษัทในอัตราที่สูง"
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบีเคย์ เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนจอง TNX ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วเกินไป เพราะบริษัทเพิ่งเข้าจดทะเบียนใน ตลท.ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น รวมถึงราคาหุ้นขณะนี้ อยู่ที่ 2.02 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาจอง ส่งผลทำให้ราคาหุ้นที่จะเพิ่มทุนจะต้องมีราคาที่ต่ำประมาณ 1.9-2 บาท เพื่อจูงใจนักลงทุนซื้อ ซึ่งคาดว่าการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะเป็นการขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน
|