‘ ปี 1971 F. Sherwood Rowland และ Mario Molina สองนักเคมีเตือนให้ทราบถึงมหันตภัยว่า
สาร Chlorofluorocarbons (CFCs) ที่นำมาใช้เป็นสารให้ความ เย็น (refrigerant)
กันอย่างแพร่หลายกำลังเป็นตัวการสำคัญในการทำลายบรรยากาศชั้นโอโซน (Ozone
layer)
‘ กลางทศวรรษ 1980 ทีมนักวิจัยชาวอังกฤษใช้ เครื่อง spectrometer ตรวจพบโอโซนที่ถูกทำลายจนเป็น
รูตรงบริเวณตอนล่างของบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ ซึ่งอยู่เหนือมหาสมุทรแอนตาร์กติก้า
‘ กันยายน 2000 รูโอโซนขยายขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยตรวจพบ คือแผ่อาณาเขตออกไปราว
17.5 ล้านตาราง ไมล์ โดยรูโอโซนมีธรรมชาติอย่างหนึ่งคือ จะขยายขนาดและ สลับกับการหดตัวมีขนาดเล็กลง
‘ ตามปกติแล้วโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์จะมีการสร้างขึ้น และถูกทำลายไปโดยวัฏจักรที่เกิดตามธรรมชาติ
แต่สาร CFCs และสารอื่นๆ เป็นตัวเร่งในกระบวนการทำลายโอโซน และทำให้ปริมาณโอโซนอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
‘ โอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ มีบทบาทสำคัญในการช่วย กรองรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์
ถ้าได้รับรังสีดังกล่าวมากเกินไป สามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
‘ ทั่วโลกพร้อมใจกันเข้มงวดจำกัดการใช้สาร CFCs เป็นครั้งแรกใน ปี 1987
ในการประชุมที่มอนทรีออลประเทศแคนาดาคือ Montreal Protocol on Substance
that Deplete the Ozone Layer
‘ นักวิทยาศาสตร์บางคนทำนายว่า ชั้นโอโซนที่ถูกทำลายไปแล้วจะถูกสร้างขึ้นใหม่ได้ต้องใช้เวลาเร็วที่สุดนานถึง
60 ปีเลยทีเดียว