"เพอร์เฟค" เตรียมออกบอนด์และตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 1,450 ล้านบาท เพื่อนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนและซื้อที่ดินเพิ่ม มีแผนลดหนี้สินต่อทุนให้มาอยู่ที่ 1/1 จากที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.4 ต่อ 1 คาดปีนี้อาจจ่ายเงินปันผลได้ พร้อมปรับแบรนด์ใหม่ หวังปรับโฉมบริษัทหันใช้คอนเซ็ปต์ "บ้านคนเมือง" ลดสินค้าเหลือ 3 แบรนด์
นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1 ต่อ 1 จากที่ปัจจุบันมีหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.4 ต่อ 1 รวมทั้งบริษัทจะออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋วบีอี) มูลค่า 1,000 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปีนี้ และออกหุ้นกู้ มูลค่า 450 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ภายในบริษัท และเพื่อนำมาซื้อที่ดินใหม่ เน้นทำเลย่านสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ตั๋วบีอีดังกล่าวมีอายุ 9 เดือน และหุ้นกู้จะมีอายุ 2.5 ปี ซึ่งภายหลังการออกหุ้นกู้และตั๋วสัญญาใช้เงินแล้วจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทอยู่ที่ 4%
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะรีแบรนด์ใหม่ ล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ของบริษัทใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยใช้ตัวอักษรตั้งอยู่บนพื้นสีน้ำเงิน และมีสีแดงขีดด้านล่าง เพื่อให้สินค้ามีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับโฉมครั้งใหม่นี้จะทำให้บริษัทปรับสินค้าเหลือเพียง 3 แบรนด์เท่านั้น คือ เพอร์เฟค พาร์ค เจาะระดับราคาบ้านที่ 3-5 ล้านบาท, เพอร์เฟค เพลส ระดับราคาบ้านที่ 4-7 ล้านบาท และเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ ระดับราคาบ้าน 8-15 ล้านบาท ส่วนแบรนด์ มณีรินทร์ นั้นจะยกเลิกหลังจากที่ปิดการขายในโครงการที่เหลืออยู่
อย่างไรก็ตาม การรีแบรนด์ดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินงานของบริษัทที่มุ่งชูแนวคิด (คอนเซ็ปต์) "บ้านคนเมือง" ที่ต้องการตอกย้ำจุดเด่นของบริษัทที่มีที่ดินส่วนใหญ่อยู่แนวรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นหลัก ทั้งย่านรัตนาธิเบศร์ พระราม 5 รามคำแหง ศรีนครินทร์ รวมทั้งสาทรตัดใหม่ หรือโดยรวมแล้วบริษัทมีที่ดินที่ติดแนวรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 2,500 ไร่ ถือว่ามากที่สุดในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โดยจำนวนที่ดินดังกล่าวจะรองรับการพัฒนาไปได้อีก 4-5 ปี
นายชายนิดกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่า 10,317 ล้านบาท ไม่รวมโครงการเดิมที่มีสินค้าพร้อมขายอยู่บางส่วนด้วย โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ไม่รวมยอดขายอีก 2,000 ล้านบาท ของบริษัท กรุงเทพ บ้านและที่ดิน จำกัด
โดยโครงการใหม่ 7 โครงการ ดังกล่าวได้แก่ โครงการ เพอร์เฟค พาร์ค 2 โครงการ คือ เพอร์เฟค พาร์ค รัตนาธิเบศร์ และเพอร์เฟค พาร์ค รามคำแหง ส่วนโครงการเพอร์เฟค เพลส มี 3 โครงการ คือ เพอร์เฟค เพลส พระราม 5, เพอร์เฟค เพลส รามคำแหง และ เพอร์เฟค เพลส รัตนาธิเบศร์ และโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 2 โครงการ คือ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ รัตนาธิเบศร์ และเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ สาทร
"บริษัทจะเน้นบ้านสร้างก่อนขายประมาณ 90% ส่วนอีก 10% เป็นบ้านสั่งสร้าง โดยจะมีสินค้าในสต๊อกประมาณ 700 ยูนิต ทั้งนี้แม้จะเป็นบ้านสร้างก่อนขาย ทางบริษัทจะไม่ไดรับผลกระทบจากราคาวัสดุก่อสร้างที่จะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการสั่งสร้างบ้านเป็นล็อตใหญ่ ทำให้ได้ราคาส่วนลดค่อนข้างมาก อีกทั้งต้นทุน การก่อสร้างคิดเป็นเพียง 30% ของต้นทุนการสร้างบ้านทั้งหมด อีกทั้งบริษัทยังจะสามารถยืนราคาขายบ้านในราคาเดิมได้ไปอีกถึงกลางปีนี้แน่นอน" นายชายนิด กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทนั้น บริษัทมียอดขาย 4,800 ล้านบาท สูงกว่าปี 2546 ประมาณ 37% ที่มียอดขายเพียง 3,500 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 4,127 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,016 ล้านบาท และคาดว่าในปี48 คาดจะมีกำไรปกติประมาณ 1,200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลประกอบการที่ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยแต่ก็น่าพอใจ เพราะในปีที่ผ่านมาไม่ได้มีมาตรการที่มาช่วยกระตุ้นยอดขายมากนัก ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้ แต่ทั้งนี้จะต้องประชุมคณะกรรมการก่อนว่าจะอนุมัติหรือไม่ และหากจ่ายไม่น่าจะเกิน 50% ของกำไรสุทธิ
นายชายนิดกล่าวว่า ในส่วนของ บ.กรุงเทพบ้านและที่ดินนั้นขณะนี้กำลังหาผู้ร่วมทุนใหม่ โดยกลุ่มทุนใหม่ดังกล่าวเป็นกลุ่มทุนจากสิงคโปร์ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนการยื่นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นได้มีการยื่นไฟลิ่งไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของบริษัทจะยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 30% นายธงชัย คุณากรปรมัตถ์ ถือในสัดส่วนประมาณ 20%
|