นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มลงทุนไทยอาทิ บริษัทอมตะ กรุ๊ป และบ.ไทยซัมมิท แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมทุนโครงการสร้างศูนย์และสนามทดสอบอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาทในเบื้องต้น โดยเร็วๆ นี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะได้ประสานกับ IDIADA ซึ่งเป็นสถาบันทดสอบยานยนต์ใหญ่อันดับ 1 ในยุโรปมาดูสถานที่และหารือกับกลุ่มนักลงทุนไทยเพื่อดำเนินการต่อไป
"IDIADA เป็นสถาบันทดสอบยานยนต์ของสเปนซึ่งเป็นการร่วมทุนรัฐกับเอกชน จากการเดินทางไปเจรจาเพื่อดึงมาร่วมทุนทาง IDIADA สนใจไทยมากเพราะลูกค้าที่ยุโรปมีค่อนข้างมาก หากมาตั้งที่ไทยก็จะสามารถดึงลูกค้าจากเอเชียที่นำชิ้นส่วนยานยนต์ไปทดสอบที่สเปนมาส่งที่ไทยได้ "นายวัชระกล่าว
สำหรับการร่วมทุนเบื้องต้นจะพยายามให้ภาคเอกชนดำเนินการเองทั้งหมด โดยจะมี 3 ส่วนได้แก่ 1. IDIADA 2. ผู้ผลิตชิ้นส่วนและบริษัทรถยนต์ที่ยังไม่มีศูนย์ทดสอบเป็นของตนเอง 2. เจ้าของที่ ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เสนอมาหลายแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดกาญจนบุรีและ ชลบุรี โดยคงจะต้องให้ IDIADA มาคัดเลือกพื้นที่ด้วย ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่
ทั้งนี้เบื้องต้นสามารถเดินหน้าสร้างศูนย์ทดสอบมูลค่า 1,500 ล้านบาท ไปก่อนได้ และต่อไปค่อยขยายการสร้างสนามทดสอบ ซึ่งไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินโครงการดังกล่าวหากต้องการเป็นศูนย์กลางยานยนต์แห่งเอเชียหรือ ดีทรอยด์ออฟเอเชีย เพราะมาตรฐานถือเป็นสิ่งสำคัญโดยปี 2549 ไทยจะส่งออกชิ้นสว่นตามเป้าหมาย 2 แสนล้านบาทโดยชิ้นสว่นเหล่านี้ต้องมีการทดสอบคุณภาพด้วย
"กรณีรัฐบาลร่วมทุนเราจะมองเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่หากมีรัฐบาลส่วนหนึ่งก็จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนได้ ดังนั้นในส่วนนี้ก็มองกองทุนร่วมลงทุนหรือเวนเจอร์แคปปิตอลฟันด์เข้ามาร่วมทุนเล็กน้อย"นายวัชระกล่าว
ชงแผนยานยนต์เสนอรัฐบาลใหม่
นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ขณะนี้ สถาบันฯได้เตียมแผนงานการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อให้ไทยเป็นดีทรอยด์แห่งเอเชียในปี 2553 เสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ โดยแผนทั้งหมดจะใช้เม็ดเงินเกือบ 10,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการอย่างครบวงจร เพื่อให้ปี 2553 ไทยสามารถผลิตรถยนต์ได้รวม 1.8 ล้านคัน จากที่ ปี 2547 ผลิตได้ประมาณ 900,000 คัน และเพิ่มบุคลากรด้านนี้ จาก 200,000 คนเป็น 300,000 คน เป้าหมายดังกล่าวจะทำให้การจำหน่ายรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มสูงจาก 700,000 ล้านบาท เป็น 1.3 ล้านล้านบาท ในปี 2553
|