RGR ไม่หวั่นภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เดินหน้าลงทุนต่อ ทั้ง ภูเก็ต สมุย และเชียงราย รวมเม็ดเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ชี้โรงแรมในเครือที่กระจายอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวอื่นได้รับอานิสงส์ นักท่องเที่ยวเปลี่ยนจุดหมาย เผยรายได้เฉพาะเดือนม.ค.พุ่งจากเดือนเดียวกันในปีก่อนถึง 40 ล้านบาท
นายวิลเลี่ยม ไฮเน็คกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอยัลการ์เด้น รีซอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ RGR เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าลงทุนโครงการก่อสร้าง แมริออท ภูเก็ต บีช คลับ เฟส 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ หาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต ตามแผนเดินที่ตั้งไว้ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นลักษณะการร่วมทุนกับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในสัดส่วน 50 : 50 โดยเป็นการลงทุนในธุรกิจ Timeshare หรือโครงการปันส่วนเวลาพักผ่อน ซึ่งในเฟส 2 จะมีห้องพัก 84 ห้อง ใช้เงินลงทุนก่อสร้าง 780 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2548 และเมื่อรวมกับเฟสแรก จะมีห้องพักทั้งสิ้น 144 ห้อง
ทั้งนี้จากเม็ดเงินลงทุนก่อสร้าง บริษัท จะลงทุนเพียง 50% ตามสัดส่วน ซึ่งได้เตรียมกู้เงินไว้ 400 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องกับสถาบันการเงิน โดยได้มีการติดต่อกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษตามโครงการของรัฐบาลเช่นกัน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ประสบภัยสึนามินอกจากนั้นยังได้เดินหน้าโครงการก่อสร้างโรมแรม โฟร์ซีซั่น จ.เชียงราย มูลค่า 200 ล้านบาท และ โรงแรมโฟร์ซีซั่น ที่เกาะสมุย มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณต้นปี 2549
นายไฮเน็คกี้ กล่าวว่า รายได้ในส่วนของธุรกิจโรงแรมในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาโดยรวมถึงว่าเติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยเฉพาะโรงแรมที่ สมุย พัทยา เชียงใหม่ หัวหิน และกรุงเทพ มีรายได้รวมเติบโตกว่ามกราคมปีก่อนถึง 40 ล้านบาท
สำหรับ เจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต มีรายได้เฉพาะเดือนมกราคมที่ 60 ล้านบาท ลดจากเดือนเดียวกันในปีก่อน 20 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ บริษัทประกันจะเป็นผู้จ่ายส่วนต่างให้ ขณะที่ โรงแรม อนันทรา โคโค่ปาล์ม เขาหลัก ซึ่งเสียหายทั้งหมดจากคลื่นสึนามิ ก็จะได้รับเงินประกันในวงเงิน 260 ล้านบาท ชดเชย อีกทั้ง บริษัทถือหุ้นใน โรงแรมนี้เพียง 40% จะได้รับแบ่งตามสัดส่วน ดังนั้น จึงไม่กระทบกับรายได้รวมของบริษัท
สำหรับรายได้เฉพาะธุรกิจโรงแรม ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ 10 แห่ง ภายใต้แบรนด์ แมริออท โฟร์ซีซั่น อนันตรา และ รอยัลการ์เด้น รวมห้องพัก 2,190 ห้อง คาดว่าจะมีรายได้รวมในปี 2547 ประมาณ 3,000 ล้านบาท สำหรับปี 2548 คาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจาก โรงแรมโฟร์ซีซั่น ราชดำริ 1,000 ล้านบาท และส่วนต่อขยายของ เจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต อีกกว่า 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามปัจจุบันโรงแรมในเครือของ RGR มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80-90% ยกเว้น เจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต มีมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 70% โดยแขกที่เข้าพักส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะจากออสเตรเลีย ที่เข้ามาปฎิบัติภาระกิจเรื่องสึนามิ โดย RGR ไม่มีแนวคิดที่จะจัดแคมเปญลดราคาห้องพัก เพราะเชื่อว่า ไม่มีผลหากนักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้ามา ประกอบกับมองว่า สึนามิคือภัยธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะหยุดการเดินทางในช่วงสั้นๆเท่านั้น ไม่เหมือนกับภัยก่อการร้าย และจากการที่ห้องพักต้องเสียหายไปกับคลื่นสึนามิกว่า 6,000 ห้อง ทำให้ซัปพลายที่มีในตลาดอาจไม่เพียงพอ เพราะเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเป็นปรกติในไฮซีซั่นปีนี้อย่างแน่นอน
|