|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มกิจการร่วมค้ายูเอชเซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว 20 ปี ดันแอคคอร์พันธมิตรหลักเป็นตัวชูโรงบริหาร ใช้ชื่อ "โนโวเทลสุวรรณภูมิ" คาดอัตราเข้าพักเฉลี่ย 65% รายได้ปีแรก 500 ล้านบาท เจาะ 3 กลุ่มหลักทำตลาด
นางสาวจิตติมาศ เกตุวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ กิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที หรือยูเอช เปิดเผยว่า วานนี้ (1 ก.พ.) ยูเอชได้เซ็นสัญญาเป็นผู้บริหารโรงแรมของบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการการประมูล ให้เข้าบริหารโรงแรมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ สัญญาบริหารจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่โรงแรมเปิดใช้บริการ ซึ่งตามที่รัฐบาลกำหนดและเตรียมเปิดบริการวันที่ 29 กันยายน 2548 โดยมีอายุสัมปทาน 20 ปี โดยจะใช้ชื่อว่า โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้ ยูเอชเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อใช้ในการประมูลโครงการนี้ เป็นการถือหุ้นระหว่างบริษัท ดีเค แลม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กับบริษัท ทองธนา จำกัด โดยเป็นพันธมิตรกับทางกลุ่มแอคคอร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการบริหารโรงแรม โดยโครงการนี้แอคคอร์จะเป็นผู้บริหาร และอยู่ภายใต้การควบคุมของทางยูเอชอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานข้อบังคับของบริษัทโรงแรมท่าอากาศยานฯ
เงื่อนไขหลักๆ ที่ทางกลุ่มต้องดำเนินการคือ จะเป็นผู้บริหารหลัก ส่วนการลงทุนนั้นจะเป็นเรื่องของทางบริษัทโรงแรมท่าอากาศยานฯ โดยจะต้องทำรายได้และส่งให้กับบริษัทโรงแรมท่าอากาศยานฯในปีแรกประมาณ 500 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีสุดท้ายประมาณหลักพันล้านบาท ส่วนค่าธรรมเนียมในการรับบริหารนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตัวผู้บริหารตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ซึ่งได้เสนอให้ทางบริษัทโรงแรมท่าฯแล้ว เป็นผู้ชายชาวฝรั่งเศส นอกจากนี้จะมีผู้บริหารระดับสูงอีก 10 คน โดยเป็นคนไทย 5 คน คนต่างชาติ 5 คน
สำหรับแผนการตลาดจะเจาะกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องบินและลูกค้าสายการบิน ประมาณ 30% 2.กลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรธุรกิจทั่วไป 40% 3.กลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวทั่วไป 30% ตั้งเป้าหมายมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 65% ในช่วงปีแรก ส่วนค่าบริการห้องพักนั้น จะอิงอัตราเดียวกับของโรงแรมโนโวเทลซึ่งเป็นเครือของกลุ่มแอคคอร์ แต่จะดูความเหมาะสมของตลาดประกอบกันด้วย
สาเหตุที่ทางกลุ่มเป็นผู้ชนะประมูลบริหารโครงการนี้ เนื่องมาจากว่า กลุ่มแอคคอร์ซึ่งเป็นพันธมิตรกันนั้น มีความโดดเด่นและประสบการณ์บริหารโรงแรมในสนามบินมากที่สุดในโลก โดยเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่เข้ามาดำเนินธุรกิจโรงแรมในเอเชียแปซิฟิก และเติบโตอย่างรวดเร็วเป็น หนึ่งในกิจการโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ภายในเวลา 2 ทศวรรษ โดยบริหารโรงแรมจำนวน 229 แห่ง หรือกว่า 40,000 ห้อง ใน 15 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก
นายบัญชา ปัตตนาภรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มแอคคอร์เป็นเครือข่ายโรงแรมที่ใหญ่มีประสบการณ์บริหารโรงแรมทั่วโลกที่ยาวนานและมีความพร้อมในด้านระบบเครือข่ายห้องพัก เชื่อว่าเมื่อเข้ามาบริหารโรงแรมนี้จะช่วยทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความเป็นสากลและความทันสมัยในรูปแบบใหม่ของท่าอากาศยานแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโนโวเทลก็เป็นเครื่องหมายการค้า ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว
นายไมเคิล ไอเซนเบิร์ก กรรมการผู้จัดการ แอคคอร์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า แอคคอร์เป็น ผู้บริหารโรงแรมที่มีประสบการณ์ยาวนาน ในการดำเนินกิจการโรงแรมในท่าอากาศยานที่โดดเด่น รวมถึงโรงแรมท่าอากาศยานในปารีส ลอนดอน ชิคาโก แฟรงก์เฟิร์ต และซิดนีย์ โดยที่โรงแรมสุวรรณภูมิจะเป็นโรงแรมท่าอากาศยานลำดับที่ 59 ใน 17 ประเทศของแอคคอร์
อนึ่ง โครงการโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมินี้เป็นการร่วมลงทุนกันระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 60%, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 30% และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 10% โดยมีบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลักใช้เงินลงทุนประมาณ 2,700 ล้านบาท
|
|
|
|
|