Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 กุมภาพันธ์ 2548
ธนชาติออกกองFIFกว่า$50ล้านยื่นก.ล.ต.ขอโยกเงินกองเก่าลงทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนชาต, บลจ.

   
search resources

ธนชาต, บลจ.
Funds




บลจ.ธนชาติเล็งโยกเม็ดเงินกองทุนตราสารหนี้-หุ้น กองเก่า ไปลงทุนในต่างประเทศมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท เผยเตรียมเสนอขออนุมัติจากสำนักงานก.ล.ต.คาดได้ข้อสรุปภายใน 90 วัน หรือสามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศได้ภายในเดือนก.พ.หรือมี.ค.นี้ โดยเบื้องต้นจะเข้าไปลุยตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชีย คาดผลตอบแทนงามเมื่อเทียบกับลงทุนในประเทศ

นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ธนชาติ จำกัด (NASSET) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตนำเงินจากกองทุนหุ้น หรือตราสารหนี้ที่มีอยู่เดิมไปลงทุนในต่างประเทศ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการลงทุนในต่างประเทศประมาณ 40-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

สำหรับการลงทุนต่างประเทศของกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) ของบลจ.ธนชาติ แบ่งเป็นสองส่วนคือ ลงทุนในตราสารหนี้ และกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นในสัดส่วน 50:50

"สาเหตุที่เราเลือกที่จะขออนุญาตก.ล.ต. เพื่อนำเงินจากกองทุนที่มีอยู่เดิมไปลงทุนต่างประเทศ แทนที่จะออกเป็นกองใหม่ เนื่องจากสามารถดำเนินการได้เร็วกว่า และสามารถโยกเม็ดเงินที่มีในกองทุนไปลงทุนได้ทันที ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศเรียบร้อยแล้วW

นายกำพลกล่าวว่า หลังจากที่ยื่นโครงการเสนอให้แก่ ก.ล.ต. คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ในการพิจารณา และจะสามารถไปลงทุนต่างประเทศได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ หรือในช่วงเดือนมีนาคมนี้ โดยจะทยอยออกกองทุนละ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ก.ล.ต.ได้อนุญาต จากนั้นก็จะเปิดไปต่อเนื่องรวม 40-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนความคืบหน้าในการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ขณะนี้อยู่ระหว่างรอหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะประกาศออกมา ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ คณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติให้บลจ. สามารถลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ วงเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่กองทุนรวม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะอนุญาตให้กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ วงเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะจัดสรรให้บริษัทจัดการครั้งละไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่คณะกรรมการกองทุนเห็นชอบให้ลงทุนในต่างประเทศได้ในวงเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะจัดสรรให้บริษัทจัดการครั้งละไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับประเภทหลักทรัพย์ต่างประเทศที่อนุญาตให้กองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลงทุนได้นั้น หากเป็นการลงทุนในตราสารทุนหรือหน่วยลงทุน จะต้องเป็นหลักทรัพย์ในประเทศที่มีองค์กรกำกับดูแลเป็นสมาชิกสามัญของ IOSCO หรือ ตลาดหลักทรัพย์เป็นสมาชิกของ WFE หากเป็นตราสารหนี้ จะต้องได้รับการจัดอันดับระดับ investment grade ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะต้องดำรงอัตราส่วนการลงทุนตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด

นายกำพลกล่าวว่า ในเบื้องต้นกองทุนรวมต่างประเทศที่จะออกจะเป็นกองตราสารหนี้ ที่เข้า ไปลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก เนื่องจากประเมินว่าแนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศจะเข้ามลงทุนในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ซึ่งจะมีการซื้อเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนกองทุนหุ้นที่ลงทุนในต่างประเทศจะให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช่นกัน เนื่องจากคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระดับสูง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us