Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 มกราคม 2548
ประเดิมกองทุนสึนามิ1.4 พันล.3ก.พ.ได้ข้อสรุปเกณฑ์ร่วมทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บลจ. เอ็มเอฟซี

   
search resources

เอ็มเอฟซี, บลจ.
Funds




MFC เรียกประชุมคณะกรรมการ "กองทุนสึนามิไทยแลนด์ รีคัฟเวอรี่ฟันด์" 9 ราย กำหนดหลักเกณฑ์เข้าไปลงทุน เม็ดเงินลงทุนเริ่มต้น 1,400 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท เบื้องต้นเข้าลงทุนกิจการที่สินทรัพย์เกิน 200 ล้านบาท ลดความซ้ำซ้อนการช่วยเหลือของสสว. คาด 3 ก.พ. ได้ข้อสรุปเกณฑ์ช่วยเหลือ

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของกองทุนรวมสึนามิไทยแลนด์ รีคัฟเวอรี่ฟันด์ จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย ตัวแทนจากธนาคารพาณิชย์ 4 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ตัวแทนจากธนาคารออมสิน 2 ราย ตัวแทนตลาดหลักทรัพย์ 1 ราย จาก บลจ. เอ็มเอฟซี 1 ราย และนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย

โดยคณะกรรมการการลงทุนดังกล่าวจะทำหน้าที่กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกบริษัทที่กองทุนจะเข้าไปลงทุน กระบวนการรับเงินและการใช้เงิน รวมทั้งการอนุมัติกรอบกิจการที่ได้มีการคัดเลือกลงทุน ทั้งนี้กองทุนรวมสึนามิไทยแลนด์ รีคัฟเวอรี่ฟันด์ จะมีเงินเริ่มต้นที่ 1,400 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากสมาคมธนาคารไทยธนาคาร 700 ล้านบาท, ธนาคารออมสิน 500 ล้านบาทและตลาดหลักทรัพย์ 200 ล้านบาท

เมื่อกองทุนได้มีการลงทุนหมดวงเงินแล้ว ก็จะสามารถเพิ่มวงเงินได้ตามสถานการณ์การลงทุน ซึ่งเงินดังกล่าวจะเข้ากองทุนในวันที่ 14 ก.พ.นี้ และหากมีการใช้เงินกองทุนหมดแล้วก็สามารถที่จะเพิ่มวงเงินได้อีก ซึ่งต้องแล้วแต่สถานการณ์การลงทุน

โดยในเบื้องต้นกองทุนจะเข้าไปลงทุนในกิจการที่มีขนาดมากกว่า 200 ล้านบาท ของสินทรัพย์กิจการก่อนประสบภัย ส่วนกิจการที่มีสินทรัพย์น้อยกว่า 200 ล้านบาท กองทุนของสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะให้ความช่วยเหลือแทนเพื่อลดความซ้ำซ้อนในลงทุนช่วยเหลือ ซึ่งในเบื้องต้นคณะกรรมการได้มีกำหนดการลงทุนในแต่ละรายประมาณ 25% ของเงินกองทุนหรือประมาณ 350 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะพิจารณาอีกครั้ง

"คณะกรรมการในการพิจารณาช่วยเหลือจากภัยคลื่นสึนามิจะแยกออกเป็น 2 ชุด ซึ่งในส่วนกองทุนรวมสึนามิไทยแลนด์ รีคัฟเวอรี่ฟันด์ จะช่วยเหลือบริษัทที่มีสินทรัพย์เกิน 200 ล้านบาท ขึ้นไปซึ่งบริษัทที่มีสินทรัพย์ของกิจการที่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทกองทุนของสำนักงานวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม (สสว.) จะให้ความช่วยเหลือแทนเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการให้ความช่วยเหลือ" นายพิชิตกล่าว

สำหรับกองทุนดังกล่าวมีอายุ 10 ปี ซึ่งใน 5 ปีแรก ผู้นำเงินลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะไม่สามารถไถ่ถอนเงินคืนได้ เพราะเป็นกองทุนปิด ซึ่งหากเจ้าของกิจการต้องการที่จะนำกิจการมาลงทุนเอง เพราะธุรกิจมีการฟื้นตัวแล้วก็สามารถ ที่จะซื้อหุ้นคืนได้ในปีที่ 3 แต่จะได้รับเงินในลักษณะที่เป็นเงินปันผล

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มองว่าควรที่จะเข้าลงทุน และเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว แต่ทางคณะกรรมการมองว่าควรที่จะให้ความช่วยเหลือกระจายเข้าไปในธุรกิจต่าง ๆ ด้วย เช่น ประมง และจะให้ความช่วยเหลือในบริษัทที่ได้รับความสูญเสียจำนวนมากก่อน ในจังหวัดที่ประสบภัยโดยตรงใน 6 จังหวัดภาคใต้ก่อน

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการจะมีการประชุมใน วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 ที่จะสรุปรายละเอียดในการเข้าลงทุน เช่น วงเงินในการเข้าลงทุนแต่ละบริษัท จำนวนเท่าไร ในธุรกิจประเภทใด ซึ่งธนาคารจะมีการนำข้อมูลลูกค้าที่ได้รับความเสียหายเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพิจารณาการลงทุนด้วย ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมธนาคารไทยได้มีการรวมลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ประมาณ 1,000 ราย ซึ่งคาดว่าในเบื้องต้นจะลงทุนได้ประมาณ 30 ราย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us