ตระกูลจิราธิวัฒน์สร้างชื่อเสียงและอาณาจักรของตนเองให้ใหญ่โตขึ้นมาได้ทุกวันนี้ ก็ด้วยธุรกิจการค้าปลีกเป็นหลักมาตั้งแต่เริ่มต้นตระกูล กว่าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลจะยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ได้ ก็ด้วยน้ำพักน้ำแรงของผู้นำกลุ่ม ตั้งแต่ครั้งรุ่นพ่อคือ เตียง จิราธิวัฒน์ จนมาเป็น สัมฤทธิ์ ลูกชายคนโตโดยมี สุทธิเกียรติ น้องในไส้ที่คลานตามกันมา เป็นมือขวาขนาบข้างช่วยงานตลอดเวลา

สัมฤทธิ์ได้สละตำแหน่งลงจากหอคอยงาช้างนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และได้ให้น้องชายคือ วันชัย ขึ้นเป็นแม่ทัพพาความเจริญและความแข็งแกร่งขยายอาณาจักรนี้ต่อไป โดยที่มีมือรองเป็นน้องชายต่างมารดา คือ สุทธิธรรมเป็นผู้ช่วย

ก่อนหน้านี้คนในวงการต่างคาดเดากันว่า สุทธิเกียรติ ผู้ซึ่งเคยกุมอำนาจในตำแหน่งนี้มาก่อนที่จะปลีกตัวไปดูแลด้านโรงแรมอย่างเต็มตัว น่าที่จะเป็นผู้รับสืบทอดเจตนารมณ์คนต่อไปของตระกูล ก็ให้มีอันโยกย้ายถ่ายเทความรับผิดชอบไปเสียก่อน โดยหันไปบุกเบิกธุรกิจใหม่ของตระกูลที่เริ่มขยายวงกว้างออกไป

ณ วันนี้กลับมีผู้ที่ถูกจับตามองอีกคนหนึ่ง ซึ่งคาดเดากันว่าเขานั่นแหละแม่ทัพตัวจริง ที่จะถือบังเหียนนำเซ็นทรัลกรุ๊ปสู่เส้นชัยคือ สุทธิชาติ น้องคนที่ 5 ในสายของสัมฤทธิ์เอง สุทธิชาติได้เข้ามารับหน้าที่ดูแลกิจการของสายห้าง หลังจากที่สุทธิธรรมได้โยกย้ายตนเองไปอย่างเต็มตัว แต่เดิมสุทธิชาติมีประสบการณ์ด้านการบริหารบุคลากรขององค์กรใหญ่นี้มาก่อน และดูแลเซ็นทรัลชิดลมอยู่หลายปี การเข้ามาแทนที่ตรงตำแหน่งนี้ จึงทำให้ถูกจับตามองว่าเขานั่นแหละจะเป็นคนต่อไปที่ได้นั่งแป้นบริหารเซ็นทรัล

แต่อีกกระแสข่าวหนึ่งได้แจ้งว่า หากพิจารณาถึงบุคคลที่น่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำของเซ็นทรัลกรุ๊ปจริงๆ ไม่ใช่มีแต่สุทธิชาติเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพราะนอกจากสุทธิชาติแลัวยังมีสุทธิพรอีกผู้หนึ่งที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งใน "สามทหารเสือ" รุ่นบุกเบิกของตระกูลที่อาบเหงื่อต่างน้ำร่วมกับสัมฤทธิ์และวันชัยมาแต่เริ่ม

สุทธิพรร่วมปั้นแต่งเซ็นทรัลให้เด่นชัดจนพุ่งขึ้นเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นแนวหน้า ประดับวงการค้าปลีกเมืองไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษก็ว่าได้

กล่าวกันว่าประวัติของสุทธิพรนั้น คนในเซ็นทรัลต่างยกนิ้วให้เขา ในเรื่องของการเจรจาต่อรองราคาสินค้ากับซัพพลายเออร์ที่เข้ามาขายในห้าง เป็นเลิศเลยทีเดียว ขณะเดียวกันฝีมือในการขายของเขาก็จัดอยู่ในชั้นเซียนอีกด้วย คนเก่าแก่ของห้างเซ็นทรัลต่างจดจำลีลาการเป็นเซลส์แมนขายของเลหลัง เมื่อครั้งอยู่วังบูรพาได้อย่างแม่นยำ ว่ากันว่าสินค้าตัวไหนขายไม่ออกให้บอกสุทธิพร รับรองขายเกลี้ยงสต็อก

จะว่าไปแล้วสุทธิพรมีบทบาทค่อนข้างสูงในเซ็นทรัล แต่ชื่อเสียงเรียงนามของเขากลับไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวเท่าใดนัก เหตุเพราะนิสัยชอบเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ใคร่จะยอมออกหน้าออกตาตามวงสังคม ในขณะที่เขากลับไปมีชื่อเสียงด้านการสร้างบุญสร้างกุศลเสียมากกว่า สังเกตได้จากกฐินพระราชทาน ทุกปีจะมีชื่อของสุทธิพรปรากฏเป็นรองประธานมาโดยตลอด

สุทธิพรมีตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการฝ่ายจัดซื้อและผู้จัดการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว ซึ่งคนในตระกูลจิราธิวัฒน์ต่างรู้ดีว่า "ตาโก" หรือพี่คนที่ 3 ในภาษาไหหลำวัย 61 ปีคนนี้ น่าจะเป็นผู้ที่จ่อหัวคิวรอเก้าอี้ประธานกรรมการเซ็นทรัลกรุ๊ปมานานแล้ว เพราะมีความเหมาะสมในระบบอาวุโส ประกอบกับเขาสั่งสมบารมีมามากพอที่จะก้าวขึ้นสวมตำแหน่งได้ ทันทีที่วันชัยประกาศสละตำแหน่งเพื่อขึ้นไป "ตีขิมบนกำแพง" เป็นเพื่อนสัมฤทธิ์นั่งดูน้องๆ นำพาความเจริญก้าวหน้าให้กับธุรกิจของตระกูล

อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญของเซ็นทรัล ณ วันนี้ไม่ใช่อยู่ที่การคาดเดาว่าใครจะขึ้นมาแทนที่วันชัยไม่ว่าจะเป็นสุทธิชาติหรือสุทธิพร ทั้งนี้เพราะคนในตระกูลพร้อมเปิดประตูให้เขาเดินเข้าห้องประธานกรรมการเซ็นทรัลกรุ๊ป เพื่อเป็นรางวัลแห่งการบากบั่นเสียสละและเหนื่อยหนัก เพื่อให้รุ่นน้องๆ ได้มีฐานธุรกิจแน่นแฟ้นเช่นทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นแต้มการพลิกผันเกมนี้น่าจะเกิดได้ยาก เว้นเสียแต่ว่าเป็นความตั้งใจของตัวเอาเอง

สิ่งที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มเซ็นทรัลน่าจะอยู่ที่สุทธิพร หรือสุทธิชาติก็ตามที่กำลังจะก้าวขึ้นบัลลังก์ อาจจะเป็นคนในตระกูลจิราธิวัฒน์คนสุดท้ายที่ได้ลิ้มรสบัลลังก์ทองนี้ จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ในเซ็นทรัลเล่าให้ฟังว่า รูปการณ์ในปัจจุบันส่อเค้าให้เห็นถึงการเกิดกรณีเช่นนี้มากทีเดียว สืบเนื่องจากที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลเพิ่งจะปรับเนื้อในขององค์กรครั้งใหญ่ โดยจัดแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ

กลุ่มแรกคือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์เป็นประธานกรรมการ กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกห้างสรรพสินค้า มอบหมายให้สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์อยู่ในตำแหน่งประธานฯ ส่วนสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ดูแลกลุ่มโรงแรมและฟาสต์ฟูด กลุ่มที่ 4 คือกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตมีสุทธิศักดิ์ คุมบังเหียนดูแลและกลุ่มที่ 5 คือกลุ่มค้าส่งหรือการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้านำเข้า ปัจจุบันวันชัย จิราธิวัฒน์รักษาการตำแหน่งประธานฯ โดยมีจินตนา บุญรัตน์และกอบชัย จิราธิวัฒน์นั่งทำงานในส่วนนี้

การปรับตัวขององค์กรครั้งใหญ่ก็เพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่ง ก็ดูเหมือนว่าเป็นการแยกส่วนให้แต่ละคนในครอบครัวมีอาณาจักรเป็นขอบเขตของตัวเอง ทดแทนการรอคอยจ่อคิวขึ้นหอคอยงาช้างที่มีให้ตำแหน่งเดียว เพราะสภาพการณ์ปัจจุบันกับที่ผ่านมาย่อมมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ในเมื่อสมาชิกในตระกูลมีเพิ่มขึ้น การสร้างอำนาจให้กว้างขึ้นก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งทีเดียว เพื่อเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม และป้องกันปัญหาการบาดหมางในเรื่องอำนาจที่มักไม่เข้าใครออกใคร

การแผ่อาณาจักรของธุรกิจ 5 กลุ่มของเซ็นทรัลจึงเป็นเรื่องที่น่าเฝ้ามองต่อไป มากกว่าที่จะมองเพียงแค่ตัวบุคคล ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่กลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ซึ่งนั่นหมายถึงเข็มที่ชี้ให้เห็นศักยภาพแท้จริงของผู้กุมบังเหียน ว่ามีสายตาเฉียบคม และมีลูกล่อลูกชนในเกมธุรกิจมากน้อยเพียงใด ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นอีกบทหนึ่งของการพิสูจน์ความเป็นปึกแผ่นของเลือดเนื้อเชื้อไข "เตียง จิราธิวัฒน์" ผู้ให้กำเนิด "เซ็นทรัล" ไปในตัวด้วย