|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กุมภาพันธ์ 2548
|
 |
- ในฐานะผู้จัดการตลาด ถ้ามีนักลงทุนสนใจจะลงทุนในตลาด MAI จะมีคำแนะนำอย่างไร
อันที่หนึ่งต้องมองไปข้างหน้า เพราะหุ้นใน MAI ไม่ใช่หุ้นที่มองย้อนหลัง บริษัทใน MAI ไม่ใช่บริษัทที่มีประวัติยาวนานและขนาดก็เล็ก แต่พร้อมจะโตไปข้างหน้า ต้องมองว่าเขามีโอกาสที่จะเติบโตเกาะติดไปกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยหรือไม่ มีข้อได้เปรียบหรือไม่ เมื่อเรามองไปข้างหน้าแล้วเราจะต้องพิสูจน์ว่าสิ่งที่เรามองมันถูกต้องไหม วิธีพิสูจน์คือหาข้อมูลสนับสนุน เอามายืนยัน ข้อมูลนี้ก็คือการวิเคราะห์ หาได้จากโบรกเกอร์ที่วิเคราะห์หุ้นเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนในหุ้นทุกตัว เลือกหุ้นที่คุณเข้าใจธุรกิจนั้นมากที่สุด เมื่อมีข้อมูลเพิ่มความมั่นใจแล้ว คุณก็ต้องกล้าที่จะลงทุนแล้ว
เมื่อลงทุนแล้วก็อย่าไปหวั่นไหวกับการแกว่งตัวของราคา เพราะถ้าคุณตามขั้นตอนเหล่านี้จนตัดสินใจซื้อแล้ว นั่นแปลว่า ก่อนที่จะซื้อคุณต้องมีคำตอบในใจว่าคุ้มที่จะซื้อ เพราะฉะนั้นถ้าราคามันแกว่งไปโดยที่ความมั่นใจของคุณยังไม่หายไปไหน ข้อมูลต่างๆ ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงก็อย่าไปหวั่นไหว เพราะ MAI เป็นตลาดที่เล็ก มีความเปราะบางสูง ถ้ามีคนเข้ามาซื้อมากๆ ราคาก็จะปรับตัวขึ้นเร็ว แต่ถ้าขายกันราคาก็จะลงเร็ว การแกว่งตัวของราคาจะสูงกว่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะฉะนั้นต้องอึดพอสมควร ต้องเข้าใจว่าเราซื้อมูลค่าของบริษัทหรือซื้อกราฟราคา ถ้าคุณวิ่งตามกราฟเหนื่อยตายแน่ กราฟมันจะมีขึ้นมีลง ถ้าซื้อที่มูลค่าหรืออนาคตของบริษัทต้องไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้วมันจะพิสูจน์ด้วยผลการดำเนินงานว่าที่เราคิดไว้ มันถูกไหม
แล้วนักลงทุนควรจะเป็น medium to long term speculator คือคนที่มุ่งหวังผลตอบแทนในรูปของกำไรมากกว่าหวังเงินปันผล แต่ถ้าเป็น short term speculator จะกลายเป็นเทรดเดอร์แล้ว คือวิ่งตามกราฟอย่างเดียว ถ้าคุณซื้อแล้วราคาหุ้นขึ้นอย่างรุนแรงมากแล้วมันผิดปกติว่าบริษัทจะทำกำไรได้มากขนาดนี้ได้อย่างไรคุณก็ขายทำกำไรไปก่อนได้ ถ้าคุณทำได้อย่างนี้คุณจะทำได้เหมือนกองทุนเป๊ะเลย สมมุติคุณซื้อหุ้นราคา 10 บาท คิดว่าภายในหนึ่งปีราคาน่าจะขึ้นเป็น 12 บาท คิดเป็นกำไร 20% แต่มาแค่ครึ่งปีมันขึ้นมาเป็น 18 บาทแล้ว แล้วถ้ามันไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมราคาถึงเป็น 18 บาท คุณต้องขายอย่างเดียว แต่ถ้าขายแล้วมันลงมาถึง 11 บาทก็ยังต่ำกว่า 12 บาทที่คุณคาดว่าจะเป็นราคาตอนปลายปี คุณก็ซื้อกลับ กองทุนก็มีพฤติกรรมอย่างนี้ นักลงทุนก็ต้องทำอย่างนี้เขาถึงจะได้ประโยชน์จากการลงทุนใน MAI ไม่อย่างนั้นถ้าไม่มีข้อมูลก็จะแกว่งไปตามราคาแล้ว เขาจะเหนื่อยมาก
|
|
 |
|
|