หลังจากที่มุ่งมั่นทำตลาดในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่มานาน กลางปีที่ผ่านมาเอไอเอส ก็เริ่มขยับตัวเพื่อมองหาแหล่งรายได้ในเขตจังหวัดรอบนอก กิ่งอำเภอ และระดับตำบลยิ่งขึ้น ยิ่งกว่านั้นตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในปีนี้ทั้งปีกว่า 4 ล้านเลขหมาย ยังเป็นตัวเลขของผู้ใช้ในต่างจังหวัดแทบทั้งสิ้น กลยุทธ์ localize marketing จึงมีบทบาทสำคัญ กับเอไอเอสเป็นอย่างยิ่งนับจากนี้เป็นต้นไป

กฤษณัน งามผาติพงษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาดของเอไอเอส กล่าวไว้ในงานแถลงข่าวเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ว่าในปีนี้การทำตลาดของวงการมือถือจะยากขึ้น เพราะตลาดในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ แทบจะไม่มีผู้ใช้หน้าใหม่เกิดขึ้นเลย เมื่อไม่มีลูกค้าหน้าใหม่ กลยุทธ์ที่ค่ายส่วนใหญ่เลือกใช้ก็จะเป็นการแย่งลูกค้ากันเองด้วยการหันมาเอาใจลูกค้ามากขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่กับตัวเองนานๆ เช่นเดียวกันกับการออกบริการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดการใช้จ่ายต่อหัว ซึ่งนั่นหมายถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้นของค่ายต่างๆ

สำหรับเอไอเอสแล้ว เขายอมรับว่า จะให้ความสำคัญกับ การทำการตลาดเชิงลึกในส่วนภูมิภาคมากขึ้น แม้ที่ผ่านมาภาคใต้จะเป็นภาคที่สร้างรายได้ได้มากที่สุดของบริษัทก็ตาม แต่ภาคอื่นๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือยังถือเป็นจังหวัดที่เอไอเอสยังเข้าไม่ถึงมากนัก เนื่องจากสภาพของจังหวัดแถบนี้เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้าง การเข้าถึงจึงไปได้แค่ระดับในเมืองเท่านั้น หรือแม้แต่ปัญหาของกำลังซื้อที่น้อยมาก ในระยะเวลาที่ผ่านมา แต่สิ่งนี้เหล่านี้ได้เปลี่ยนไป บางอำเภอหรือกิ่งอำเภอยังเป็น potential สำคัญสำหรับเอไอเอสได้อีก

สิ่งที่เอไอเอสเชื่อว่าเป็นการทำตลาดแบบ localize marketing ในเชิงลึกก็คือ การสนับสนุนสำนักงานสาขาต่างจังหวัดของตนในการทำตลาดได้อย่างอิสระ ทั้งในแง่ของการออกตัวบริการเฉพาะจังหวัดหรือภูมิภาคนั้นๆ การทำกิจกรรมทางการตลาด หรือแม้แต่การเลือกโปรโมชั่นให้เหมาะสมกับตลาดภูมิภาคนั้นๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งในแง่ของราคาและการปรับปรุงลักษณะของโปรโมชั่นเสียใหม่ โดยไม่ต้องผ่านจากส่วนกลางอีกต่อไป

ที่สำคัญเอไอเอสยังเร่งกระจายสินค้าให้เข้าถึงแหล่งชุมชนห่างไกล ด้วยขบวนคาราวานที่ปีนี้จะยิ่งเพิ่มจำนวนทะลุทะลวงไปยังสถานที่ต่างๆ มากขึ้น

การสนับสนุนสำนักงานสาขาเช่นนี้ แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง เพราะที่ผ่านมาส่วนกลางเพียงแต่ให้งบในการจัดกิจกรรมเด่นๆ ตามประเพณี หรือบางเทศกาลเท่านั้น แต่ในครั้งนี้เป็นการสนับสนุนการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดเมื่อไร ตราบใดที่ตลาดต่างจังหวัดยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญนับจากนี้เป็นต้นไป