บลจ.ไอเอ็นจีไอเดียบรรเจิด ตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ลงทุนในกิจการโรงงานอุตสาหกรรม คาดเสนอขายหน่วยลงทุนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มูลค่าโครงการ 500-600 ล้านบาท หลังประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการเร่งขยายกำลังการผลิต และเข้ามาใช้พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยในช่วงไตรมาสสองเตรียมออกอีก 1 กองมูลค่า 1.5-2 พันล้านบาท ขณะที่บลจ.ไทยพาณิชย์ยังไม่ตัดสินใจคลอด รอประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ส่วนบลจ.อเบอร์ดีนอยู่ระหว่างจัดตั้ง

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ซึ่งเป็นการลงทุนในกิจการโรงงานอุตสาหกรรม มูลค่าโครงการประมาณ 500-600 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุน ซึ่งถือเป็นกองทุนแรกที่ต่างจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแห่งอื่นที่เน้นตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ที่ลงทุนในกิจการอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโดมีเนียมให้เช่า

"การเปิดพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ที่เป็นโรงงาน ถือเป็นการเปิดตัวที่ฉีกตลาดพอสมควร แต่เราเชื่อมั่นว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยคาดว่าจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในอัตรา 6-8%"

สำหรับสาเหตุที่ทำให้บริษัทตัดสินใจออกพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ที่ลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวประมาณ 5% ส่งผลให้แนวโน้มการลงทุนน่าจะขยายตัวตาม ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีการขยายกำลังการผลิต และทำให้จำเป็นต้องมีการขยายโรงงาน

ส่วนกองสองที่จะออกภายในปีนี้ เป็นพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ที่ลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน มูลค่าโครงการประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถจัดตั้งและเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนได้ภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้

"แนวโน้มในปีนี้คาดว่าจะมีพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์เกิดขึ้นมาก เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มมีความเข้าใจ และที่สำคัญหากต้องการที่จะขยายการลงทุนเพิ่ม ยังสามารถทำได้ง่าย เนื่องจากมีเม็ดเงินที่นำไปใช้ในการลงทุนเพิ่ม ขณะที่บลจ.ยังคงเปิดทางให้ผู้บริหารเดิมทำหน้าที่บริหารโครงการต่อ"นายมาริษกล่าว

นายอลัน แคม กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของอาคารสำนักงาน และคอนโดมีเนียม เพื่อจัดตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป

"แม้แนวโน้มพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ในปีนี้คาดว่าจะมีมากขึ้น แต่ต้องให้เวลากับการเจรจาต่อรองกับทีมผู้บริหารชุดเดิมที่เป็นผู้ลงทุนจัดตั้ง เนื่องจากบางครั้งเขาก็ไม่ต้องการที่จะขาย หรือยังคงต้องการอำนาจการบริหารแบบเด็ดขาด" นายอลันกล่าว

ขณะที่นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการตัดสินใจจัดตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ เนื่องจากให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสัดส่วนสูง อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งคงต้องรอประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน เพราะแนวโน้มราคาค่าเช่าจะขยับตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแผนจัดตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

สำหรับสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ทหารไทย ณ สิ้นปี 2547 ที่บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 46,797 ล้านบาท