เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าตระกูลอัมพุชนั้นมักชอบทำธุรกิจกับพี่น้อง โดยเฉพาะกับภัทรประสิทธิ์
ซึ่งเกี่ยวดองทางนงลักษณ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับศุภชัย อัมพุช
สำหรับศุภชัยนั้นมีลูกกับบุญเลี้ยง 5 คน ชาย 2 หญิง 3 คน
- สุรัตน์ อัมพุช ขณะนี้อายุ 33 ปี
- ศุภลักษณ์ อัมพุช " 31 ปี
- กฤษณา อัมพุช " 29 ปี
- สุทธิพงษ์ อัมพุช " 27 ปี
- อัจฉรา อัมพุช " 25 ปี
มีลูกกับอำนวย อีก 2 คน เป็นหญิงทั้งคู่ คือ
- บุศราคัม อัมพุช ขณะนี้อายุ 21 ปี
- สันทนา อัมพุช " 20 ปี
ทุกวันนี้ทั้งศุภชัยกับภรรยาคนปัจจุบันและลูก ๆ อีก 7 คน พักอาศัยอยู่ในบ้านไม้ขนาดใหญ่พอสมควร
2 ชั้น ที่ซื้อไว้นานแล้ว ในซอยหมู่บ้านปัญญาเก่า ซึ่งเมื่อเทียบกับฐานะของศุภชัยแล้ว
คงต้องบอกว่าเขาสมถะเอาจริง ๆ
ลูก ๆ ทั้งหมดของเขายังไม่มีใครแต่งงานสักคนเดียว มีที่ทำงานแล้ว 5 คน อีก
2 คนสุดท้ายนั้นยังเรียนอยู่
คนโต - สุรัตน์ นั้นเขายังส่งเรียนบริหารจบบริหารปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยแคนซัสในอเมริกา
เริ่มต้นการทำงานกับครอบครัวด้วยการช่วยคุมบัญชีเกี่ยวกับอาบอบนวดอยู่พักหนึ่ง
แล้วก็ย้ายมาเริ่มงานที่เดอะมอลล์ราชดำริ จนกระทั่งปัจจุบันเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัทราชประสงค์ช้อปปิ้งมอลล์
ที่คุมเดอะมอลล์ 1-2-3-4 ทั้งหมด แต่หน้าที่จริง ๆ
แล้วดูแลด้านห้างสรรพสินค้าทั้งหมด
คนที่ 2 -ศุภลักษณ์ อัมพุช คนนี้เส้นทางเดินคดเคี้ยวพอควร เพราะจบเภสัชจากมหิดล
แล้วไปต่อเภสัชอุตสาหกรรมจนได้ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเปอร์ดูว์ จากสหรัฐอเมริกา
กลับมาเป็นอาจารย์อยู่ที่มหิดลปีหนึ่ง แล้วก็ถูกดึงตัวมาช่วยงานที่เดอะมอลล์ราชดำริด้วย
จนตอนหลังต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์มาเป็นนักบริหารการตลาดที่อยู่ในระดับแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย
ตอนนี้คุมด้านตลาดของโปรเจ็ค 3 ทั้งหมด
คนที่ 3-กฤษณา อัมพุช นั้นเริ่มทำงานกับพ่อก่อนใครเพื่อน เพราะพอจบ ม.8
ที่มาร์แตร์ ก็ไปต่อวิชาเลขานุการที่อังกฤษอีก 2 ปี กลับมาก็คุมบัญชีในกลุ่มธุรกิจอาบอบนวดมาตั้งแต่อายุเพิ่ง
18 ปี
ตอนนี้คุมระบบการเงิน บัญชีของเดอะมอลล์ทุกสาขา
คนที่ 4-สุทธิพงษ์ เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ยังไม่ได้มีโอกาสคุมนโยบายเหมือนพวกพี่
ๆ อาจจะเป็นเพราะยังเด็กเกินไปก็ได้
คนที่ 5-อัจฉรา นั้นฉีกตัวเองไปทำโรงผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปชื่อ "กาซิโบ"
ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่เดอะมอลล์ราชดำริ และมีร้านเปิดขายอยู่ที่สยาม และเดอะมอลล์
สรุปว่าพี่น้อง 5 คนของตระกูลอัมพุช มาทำงานอยู่กับเดอะมอลล์ทั้งหมด มีอยู่
3 คนโตที่อยู่ในระดับบริหารและคุมนโยบายด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะมีศุภชัย
เป็นผู้คุมนโยบายในส่วนยอดอีกที
การประชุมที่จะมีกันเป็นระดับครอบครัวเท่านั้นที่ศุภชัยจะเข้าประชุม นอกนั้นปล่อยให้ลูก
ๆ หลาน ๆ ทำเองหมด
ส่วนทางด้านภัทรประสิทธิ์ ความที่มีธุรกิจในเครือมากมายจึงมีปัญหาในครอบครัวพอสมควร
เพราะนงลักษณ์นั้นมีลูกที่เกิดกับวิศาลเพียง 6 คนเท่านั้น "คุณป้ามีลูกไม่พอใช้"
ดังนั้นด้านที่พอช่วยได้ก็คือนงลักษณ์จะช่วยจัดหาด้านการเงินที่จะสนับสนุนโครงการใหญ่
ๆ แล้วก็ส่งลูก 2 คนมาบริหารด้วย คือ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ซึ่งเป็นลูกชายที่นงลักษณ์ไว้วางใจมาก
ให้เป็นรองประธานกรรมการบริหาร หรือรองจากสุรัตน์อีกทีหนึ่ง
ส่วนลูกสาวอีกคนคือ ลักขณา ภัทรประสิทธิ์ ก็รับผิดชอบด้านการจัดซื้อเพราะเคยทำด้านซุปเปอร์มาร์เก็ตมาจากที่อื่นแล้ว
ซึ่งงานเร่งด่วนที่ทำอยู่เวลานี้ก็คือการรับผิดชอบโครงการเดอะมอลล์ 3
ชั้นกราวด์ที่จะทำเป็นตลาดสดติดแอร์ใหญ่ที่สุดอยู่เวลานี้ซึ่งก็ต้องประสานกับสุรัตน์
อัมพุชอย่างใกล้ชิดนั่นเอง
ที่น่าแปลกเอามาก ๆ ก็คือทีมงานบริหารกลุ่มนี้อยู่ในวัยเลข 3 ต้น ๆ เท่านั้นเอง
แต่สามารถคุมทีมงานนับพันคน ในโครงการนับพันล้านบาทได้เรียบร้อยอย่างน่าทึ่ง
"อาจเป็นเพราะเราก็ยังไม่มีครอบครัวกันทั้งนั้น เลยไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาข้องแวะ
แล้วคุณพ่อก็ยัดงานมาให้แทบไม่ต้องลุกไปไหน ก็เลยยังไม่มีเวลาใช้เงิน แล้วธุรกิจส่วนตัวของแต่ละคนก็ยังไม่มี
เวลาทะเลาะกันก็อยู่ในหมู่พี่น้อง เราก็คุยกันรู้เรื่อง มันก็ไม่รู้จะทะเลาะกันไปทำไม
เพราะเรารู้ว่าเราไม่ได้ทำเพื่อใคร เราก็ทำให้ห้างอยู่รอด ก็เพื่อคุณพ่อและตัวเราเอง"
ศุภลักษณ์พูดถึงการทำงานร่วมกันระหว่างพี่น้อง
สำหรับที่ปรึกษาของทีมงานกลุ่ม "ยังเติร์ก" นี้ ก็ไม่ใช่ใคร ศุภชัย
อัมพุชนั่นเองที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด และเพียงคนเดียว
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งทำให้ทีมงานนี้กลายเป็นทีมงานที่น่าทึ่งไปก็คือการที่ยังไม่มีใครในทีมงานนี้มีครอบครัวเลยแม้แต่คนเดียว
และทุกคนก็ยืนยันว่ายังไม่คิดเรื่องนี้ เพราะยังสนุกกับงานจนไม่มีใครคิดเรื่องอื่น
และถึงแม้ว่าจะคิด "ก็คงต้องเลือกให้เข้ากับพวกเราได้"
อย่างนี้ต้องนับถือเป็นครอบครัวตัวอย่างจริง ๆ
เอ้า…ใครที่อยากเปลี่ยนนามสกุลไปใช้อัมพุช หรือภัทรประสิทธิ์ ก็ลองพิจารณาเงื่อนไขแล้วปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมก็อาจมีสิทธิ์ก็ได้
เพราะพี่น้องกลุ่มนี้ยืนยันมากับ "ผู้จัดการ" แล้วว่า
ยังต้องการคนเข้ามาช่วยงานที่เดอะมอลล์อีกมาก
ใครสนก็เชิญ….
