"เอ็น.ซี ." สยายปีกบุกตลาดคอนโดฯ ชิมลางโครงการแรกที่ของแก่น หวังอุดช่วงว่างการตลาด พร้อมผุดอีก 6 โครงการบ้านใหม่เจาะตลาดระดับกลาง มูลรวมค่า 5,000 ล้านบาท คาดเติบโต 25 % ตั้งเป้าปี48 ยอดขายรวม 3,000ล้าน บาท แจงสัดส่วนก่อสร้างบ้านพร้อมอยู่ 30% บ้านสั่งสร้าง 40% และบ้านสร้างก่อนขาย30% ด้าน "ลลิล" เดินหน้าเปิดเพิ่ม 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,450 ล้านบาท

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปี2547 ที่ผ่านมา บริษัท ได้พัฒนาโครงการจำนวน 4 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยมีรับรู้รายได้จากการขาย 2,400 ล้านบาท ส่วนสต็อกบ้านรอการขาย มีอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท คิดเป็น 70 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการระบายออกได้หมดประมาณ2-3เดือน สำหรับปี2548 นี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการขายที่ 3,000 ล้านบาท หรือมีมีอัตราการเติบโตประมาณ 25 % ซึ่งเป็นไปตามอัตราแนวโน้มการขยายตัวของตลาดธุรกิจบ้านจัดสรรที่ยังมีอัตราการเติบโตที่เฉลี่ยถึง 18%

ทั้งนี้ ในปี 2548 บริษัทฯ ยังคงใช้นโยบายเชิงรุก โดยได้กำหนดยุทธ์ศาสตร์เพื่อรองรับการเติบโตในปีนี้ โดยมุ่งการรุกขยายตัวในโซนเหนือ โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ 6 โครงการ จำนวนยูนิตรวมไม่ต่ำกว่า 1,900 ยูนิต มูลค่าขายรวม 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการธัญธานีโฮมออนกรีน เฟส 2 บนเนื้อที่โครงการ 88 ไร่ จำนวน 200 ยูนิต 2.โครงการธัญธานีโฮมออนกรีน เฟส 3 เนื้อที่โครงการ 176 ไร่ ทั้ง 2 โครงการมีราคาขายเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท สำหรับที่ดินของทั้ง 2 โครงการดังกล่าวเป็นที่ดินติดสนามกอล์ฟ จำนวน 389 ไร่ ซึ่งบริษัทได้ซื้อมาในราคา 550 ล้านบาทในช่วงปลายปี2547ที่ผ่านมา

สำหรับโครงการที่ 3. เป็นเฟสต่อเนื่องบ้านทาวน์เฮ้าส ในโครงการฟ้าปิยรมย์ เฟส 8 บนเนื้อที่ 55 ไร่ จำนวน 163 ยูนิต 4. โครงการบ้านเดี่ยวบ้านฟ้าปิยรมย์ เฟส 9 บนเนื้อที่ 61 ไร่ จำนวน 169 ยูนิต 5. โครงการบ้านฟ้ากรีนปาร์ค คลอง 6 พื้นที่โครงการ 70 ไร่ จำนวน 300 ยูนิต 6. โครงการบ้านฟ้ากรีนปาร์ค คลอง 3 เนื้อที่โครงการ 70 ไร่ จำนวน 360 ยูนิต ทั้งนี้ที่ดินที่ใช้ในการพัฒนาโครงการบ้านฟ้ากรีนปาร์คทั้ง 2 โครงการ เป็นที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่กว่า 500 ไร่ ซึ่งบริษัทซื้อเข้ามาใหม่ เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถรองรับการพัฒนาได้ประมาณ 2-3 โครงการ ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวเพิ่มในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 19 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต ในจังหวัดขอนแก่นช่วงเดือนเมษายนนี้ โดยโครงการดังกล่าวจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ 390,000 - 700,000 บาท ต่อยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 25 ตารางเมตร โดยโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการประเภทอาคารสูงโครงการแรกของ เอ็น.ซี.ฯ ซึ่งการที่ เอ็น.ซี. ฯ เข้ามาทำโครงการในตลาดคอนโดนี้ เนื่องจากต้องการสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า และเป็นการอุดช่องว่าทางการตลาดของบริษัทด้วย และสำหรับโครงการนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่มากนักเพราะ เป็นโครงการที่ซื้อโครงสร้างตึกสร้างค้างเพื่อมาพัฒนาขาย ดังนั้นจึงคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างมากนาน

นายปกรณ์กฤษฏ์ ยุกตานนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า แผนงานและกลยุทธ์ด้านการตลาดในปี 48 บริษัทฯ ยังคงยึดหลักการบริหารนโยบายการตลาดในเชิงรุก โดยจะเน้นเจาะทำตลาด Mass Product ที่ต้องการบ้านระดับราคา 2-5 ล้านบาท และเป้าหมายรองที่บ้านระดับราคา 6 ล้านขึ้นไป โดย เอ็น.ซี. ได้มีการกำหนดสัดส่วนการทำตลาดบ้านเดี่ยว 85% ทาวเฮ้าส์ 7.5% และบ้านแฝด 7.5% โดยแบ่งเป็นการก่อสร้างบ้านเป็น บ้านพร้อมอยู่ 30% ขณะเดียวกันก็รองรับตลาดผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งเป็นตลาดบ้านสั่งสร้าง 40% และบ้านสร้างก่อนขาย อีก 30% สำหรับสัดส่วนของราคาสินค้าที่จะผิตขายในตลาดนั้น เฮ็น.ซี. แบ่งสัดส่วนออกเป็น บ้านในตลาดระดับบนราคาเฉลี่ย 5-10 ล้านบาท 45 % บ้านระดับกลางราคาเฉลี่ย 2-5 ล้านบาท 40 % และบ้านในตลาดล่าง ราคาเฉลี่ย 1-2 ล้านบาท 30%

ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดของเฮ็น.ซี. ในปีนี้ จะใช้นโยบายเชิงรุกที่มุ่งเน้นการให้บริการก่อนและหลังการขายโดยสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าถือเป็นการสร้าง Brand Value และการทำตลาดผ่านลูกค้าเก่า เนื่องจากที่ผ่านมายอดการแนะนำสมาชิกใหม่จากฐานลูกค้าเก่ามีสูงถึง 35% จากยอดขายรวมของบริษัท รวมถึงการให้ความสำคัญในเรื่องความร่วมมือระหว่างพันธมิตรทางการค้า ที่มีฐานลูกค้ากำลังซื้อในระดับเดียวกัน เช่น บริษัทรถยนต์ บริษัทโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ และเน้นการบริการหลังการขายที่เป็น Full Service อย่างครบวงจร เช่น การร่วมมือกับบริษัทนายหน้า ซึ่งจะเข้ามาช่วยในการขายบ้านเก่าของลูกค้า ที่ต้องการจะซื้อบ้านใหม่ในโครงการของ เอ็น.ซี.

นายไชยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2548 ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,450 ล้านบาท โดยยังคงเน้นทำตลาดระดับกลาง ราคาขาย 2-6 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีฐานลุกค้ารองรับจำนวนมาก

โดยในไตรมาสที่ 1 เปิด 2 โครงการได้แก่ 1. โครงการบุรีรมย์ วงแหวน เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 483 ยูนิต บนเนื้อที่ 89 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท 2. โครงการบ้านบุรีรมย์ พระราม 2-เอกชัย บ้านเดี่ยวจำนวน 483 ยูนิต บนเนื้อที่ 91 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท รวม 2 โครงการมูลค่า 2,550 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือคาดว่าจะสามารถเปิดได้ไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยจะมีมูลค่าโครงการละ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ลลิลได้เตรียมจัดงานเปิดตัวโครงการใหม่บ้านบุรีรมย์ 2 ทำเลดังกล่าว ขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 29-30 มกราคม 2548 นี้ และยังได้จัดโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองบ้านภายในงาน ได้แก่ ดาวน์เพียง 50,000 บาท ส่วนลดพิเศษ มูลค่า 200,000-500,000 บาท จัดสวนฟรี สำหรับแบบบ้านแนวคิดใหม่และบ้านเดี่ยว มูลค่า 25,000-50,000 บาท ซึ่งจะมีให้เฉพาะ 20 ยูนิตแรกเท่านั้น