ธุรกิจสื่อวิทยุร้อน ไอ.เอ็น.เอ็น.ยื่นฟ้องจีจี นิวส์ฯ เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โทษฐานแอบอ้างนำชื่อรายการ "ร่วมด้วยช่วยกัน" ไปใช้ในทางที่ผิดจากข้อตกลงโดยนำเอาเวลา 5 นาทีใน 1 ชั่วโมงไปขายโฆษณาให้ลูกค้า ขณะที่ "ดนัย" จำเลยที่ 2 เผยรู้สึกเป็นเกียรติ

นายสมชาย แสวงการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ.เอ็น.เอ็น. จำกัด และผู้อำนวยการผลิตวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) บริษัทไอ.เอ็น.เอ็น. จำกัด นำโดยนายสนธิญาณ หนูแก้ว และนายสมชาย แสวงการ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องบริษัทจีจี นิวส์ เนทเวิร์ค จำกัดและบริษัท จี จี พลัส จำกัด ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ตามคดีดำที่ทป. 7/2548

"เป็นการฟ้องหลังจากมีเอกสารระบุชัดเจนว่าบริษัททั้งสองได้ดำเนินการขายโฆษณาทางสถานีวิทยุให้แก่บริษัทเอกชนและหน่วยงานราชการต่างๆ โดยอ้างว่ามีเวลาโฆษณาทุก 5 นาทีในแต่ละชั่วโมงของสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้เหล่าผู้ประกอบการต่างหลงเชื่อและเข้ามาซื้อโฆษณากับบริษัทดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับบริษัทไอ.เอ็น.เอ็น.เป็นอย่างมาก" นายสมชายระบุ

ทั้งนี้ จำเลยมี 5 ราย คือ บริษัทจีจี นิวส์ เนทเวิร์ค จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เป็นจำเลยที่ 2 บริษัท จี จี พลัส จำกัด จำเลยที่ 3 นางสาวศิรินันท์ บวรเอนกกุล จำเลยที่ 4 และนางสาวสยุมพร ชูใจ จำเลยที่ 5 เป็นการฟ้องร้องจากกรณีที่บริษัทจีจี นิวส์ เนทเวิร์ค จำกัดและบริษัท จี จี พลัส จำกัด ได้แอบอ้างชื่อรายการ “ร่วมด้วยช่วยกัน” ของบริษัทฯ ไปขายโฆษณาจนทำให้บริษัทฯ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของรายการวิทยุ “ร่วมด้วยช่วยกัน” ได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ บริษัท ไอ.เอ็น.เอ็น.ยังได้ต้องยื่นฟ้องบริษัท จีจี นิวส์ เนทเวิร์ค จำกัดและบริษัท จี จี พลัส จำกัด เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าเสียหายจากการขาดรายได้โฆษณา 96 ล้านบาทและค่าเสียหายรายเดือนอีกเดือนละประมาณ 4 ล้านบาท

นายสมชายกล่าวว่าการฟ้องร้องครั้งนี้เพื่อเป็นตัวอย่างในการเคารพสิทธิของผู้อื่นในการคิดกลุ่มคำที่มาใช้ในการผลิตรายการ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ฟ้องร้องไปจนกว่าจำเลยจะยุติการแอบอ้างชื่อรายการร่วมด้วยช่วยกันเพื่อประโยชน์ในการขายโฆษณา

สำหรับบริษัทไอ.เอ็น.เอ็น. เป็นผู้ผลิตรายการร่วมด้วยช่วยกันได้รับสิทธิจากหน่วยบัญชาการกำลังสำรองในการเข้ามาบริหารและผลิตรายการ “ร่วมด้วยช่วยกัน” เป็นระยะเวลากว่า 8 ปี ตั้งแต่วันที่ ธันวาคม 2540 จนถึงปัจจุบัน โดยออกอากาศทางสถานีวิทยุกรมรักษาดินแดนเอฟเอ็ม 96 เมกกะเฮิร์ซ

ทั้งนี้ ตัวอย่างการที่บริษัทจีจี นิวส์ เนทเวิร์ค จำกัดและบริษัท จี จี พลัส จำกัดได้แอบอ้างชื่อรายการร่วมด้วยช่วยกันไปใช้ประโยชน์เพื่อการโฆษณาทางสถานีเอฟเอ็ม 96 เมกกะเฮิร์ซ ได้แก่ วันอังคารที่ 25 มกราคม 2548 เวลา 10.00 น. พบว่าก่อนเวลาข่าว 3 นาทีเป็นโฆษณาสารคดีของบริษัทบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ความยาว 2 นาที, โฆษณาบริษัทสินทรัพย์ประกันภัย จำกัด ความยามโฆษณา 30 วินาที และโฆษณาบริษัทสยามเอ็นจิเนียริ่ง ฟลอรั่ม จำกัด ความยาว 30 วินาที จากนั้นจึงเป็นจิงเกิ้ลข่าวต้นชั่วโมงจากกองทัพบก ตามด้วยโปรยหัวข้อข่าว และเป็นสปอตโฆษณา 1 นาที ต่อด้วยเนื้อข่าว 3 นาที หลังจากนั้น 2 นาทีที่บริษัทจีจี นิวส์ฯ ได้นำไปโฆษณา แบ่งเป็นโฆษณาถุงเท้าคาร์สัน 30 วินาทีและสปอตโฆษณาน้ำดื่มตราสิงห์ 30 วินาที และอีก 1 นาทีบริษัทจีจี นิวส์ฯยังขายโฆษณาไม่ได้ และสุดท้ายเป็นจิงเกิลออกข่าวต้นชั่วโมง

ด้านนายดนัยกล่าวว่ารู้สึกถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ถูกสื่อมวลชนด้วยกันฟ้องร้อง ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปยังไม่สามารถเปิดเผยในขณะนี้ เนื่องจากต้องพิจารณาเนื้อหาการฟ้องร้องดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง