|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติสั่งหาหลักฐานเพิ่มก่อนส่งฟ้องศาล หลังพบหลักฐานที่ผู้บริหาร ธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อหละหลวม คาดใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ ขณะที่ฝ่ายตรวจสอบสินเชื่อ ระบุมี 2-3 รายเท่านั้น ที่ต้องให้ฝ่ายคดีพิจารณาต่อว่าจะฟ้องร้องต่อผู้บริหารที่อนุมัติสินเชื่อได้หรือไม่ ด้านรองประธานบอร์ดแบงก์กรุงไทย "ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล" ออกตัวไม่ขอยุ่งเกี่ยว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายคดีของ ธปท. ดำเนินการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย ในข้อหาปล่อยสินเชื่อที่ส่อไปในทางหละหลวมต่อลูกหนี้ทั้ง 12 รายว่า คณะกรรมการตรวจสอบสินเชื่อที่มีปัญหาได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาแล้ว โดยมี 2-3 รายที่ต้องให้ฝ่ายคดีพิจารณาต่อว่า จะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้บริหารที่อนุมัติสินเชื่อ ได้หรือไม่
"การที่ฝ่ายคดีของ ธปท.ส่งหลักฐานเกี่ยวกับผู้บริหารกรุงไทยที่ปล่อยสินเชื่อต่อลูกหนี้ 12 รายอย่างหละหลวมนั้น ตอนนี้ดูแล้วเห็นว่ามีหลักฐานอยู่บ้าง แต่หลักฐานไม่ชัดเจนถึงขนาดฟ้องได้ในทันที จึงต้องให้ไปหาหลักฐาน และดูเพิ่มเติมในอีก 2-3 เรื่องถึงจะสรุปอีกครั้งหนึ่งว่าจะสามารถส่งฟ้องผู้บริหารกรุงไทยได้หรือไม่ และหากฟ้องจะต้องฟ้องคดีใดบ้าง ซึ่งถ้า ธปท. สรุปได้และมีหลักฐานชัดเจน ก็จะต้องดำเนินการฟ้องร้อง"
ทั้งนี้ ฝ่ายคดีของ ธปท. คงต้องพิจารณารายละเอียดและหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจึงจะสรุปว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายจึงต้องใช้เวลาที่จะพิจารณา และหากจะมีการฟ้องร้องก็ต้องดูว่าจะเป็น ธปท.ฟ้องเอง หรือให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องเพราะเป็นผู้มีความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ชัดเจน เพราะอาจจะทำให้เสียรูปคดี หรือมีปัญหาได้
ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท.สายนโยบายการเงิน กล่าวว่า ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินถือว่าเรื่องการฟ้องร้องผู้บริหาร กรุงไทยนั้นจบแล้ว เนื่องจากฝ่ายตรวจสอบธนาคารกรุงไทยได้เสนอเรื่องไปหมดไปแล้ว ซึ่งให้ฝ่ายคดีเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการฟ้องร้องจากหลักฐานที่มีได้หรือไม่ และไม่ต้องเสนอกลับขึ้นมาให้ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินทราบอีก ซึ่งหากพิจารณาเสร็จก็เสนอให้ผู้ว่าการ ธปท.เป็นผู้วินิจฉัยต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร
"ทางฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินถือว่าเรื่องดังกล่าวจบแล้ว อย่ามาถามเลย ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเขาดูดีกว่า แต่หากฝ่ายคดีต้องการหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อรายอื่นเพิ่มเติมก็ส่งเรื่องขอมาได้ ฝ่ายตรวจสอบจะเป็นผู้หาหลักฐานและส่งมอบเพิ่มเติมให้" นางธาริษา กล่าว
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าว ธปท. มีมติให้ฝ่ายคดีของ ธปท.ดำเนินการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย 3 ราย โดยจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบนั้น ขณะตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของทาง ธปท. และไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด
"เรื่องการฟ้องร้องอดีตผู้บริหารแบงก์กรุงไทย ทั้ง 3 รายตามที่เป็นข่าวผมยังไม่ทราบเรื่องเลย และไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ส่วนผลการตรวจสอบสินเชื่อที่น่าสงสัยทั้ง 12 รายนั้นก็ถือเป็นเรื่องของทางแบงก์ชาติที่จะต้องจัดการ" นายศุภรัตน์ กล่าว
สำหรับผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษนั้นได้หลุดจาก การเป็นกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน โดยตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ได้เปลี่ยนจาก ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ มาเป็นนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ นาย วิโรจน์ นวลแข เปลี่ยนเป็นนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา เปลี่ยนเป็น นายรัตน์ พานิชพันธ์ ส่วนนายอุตตม สาวนายน และนายชัยณงค์ อินทรมีทรัพย์ ยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารในชุดปัจจุบันอยู่
|
|
|
|
|