มิตซูบิชิประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ทั่วโลก หวังสร้างความแข็งแกร่งให้เครือข่าย โชว์แผนลุยตลาดในไทยเทงบ 480 ล้านบาท ป้องกันแชมป์เบอร์ 1 ตลาดแอร์ กระตุ้นยอดตู้เย็น 2 ประตู โยกฐานผลิตพัดลมระบายอากาศสู่ไทย พร้อมปรับราคาขึ้น 5% ยันหมดยุคกินรวบทุกตลาด ต้องโฟกัสหรือนิชมาร์เกตถึงอยู่รอด

นายมิตซุชิเงะ เดฮะริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค เปิดเผยว่า บริษัทแม่ฯ มีนโยบายระดับโลก ในการเปลี่ยนชื่อบริษัทตัวแทนจำหน่าย เครื่องใช้ไฟฟ้ามิตชูบิชิ อีเล็คทริค ในแต่ละประเทศทั่วโลกใหม่ โดยได้เพิ่มคำนำหน้า "มิตซูบิชิ อีเล็คทริค" ในชื่อ บริษัทที่เข้าไปร่วมทุนด้วยในแต่ละประเทศ เนื่องจากต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มิตซูบิชิ อีเล็คทริคในระดับโลกให้มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเห็นภาพเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของมิตซูบิชิ อีเล็คทริคได้อย่างชัดเจน

ในประเทศไทยได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม บริษัท กันยงวัฒนา จำกัด ซึ่งมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ประเทศญี่ปุ่นถือหุ้นอยู่ 50% เป็น บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ตามนโยบายดังกล่าวตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ย. 2547 ที่ผ่านมา โดยวางนโยบายเน้นผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเป็นหลัก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มีส่วนแบ่งตลาด 25% เป็นผู้นำตลาด

นโยบายการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะยังเน้นแนวทางการรักษาส่วนแบ่งตลาดให้กับสินค้าทุกแบรนด์ สร้างศักยภาพธุรกิจในระดับโลก รวมถึงการสร้างกลยุทธ์การตลาดและการขายที่เฉพาะเจาะจง และได้ย้ายฐานการผลิตพัดลมระบายอากาศจากประเทศญี่ปุ่นมาสู่ไทยรับกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเติบโต เพื่อทำให้ต้นทุนถูกลง

"ถึงแม้ว่ามิตซูบิชิ อีเล็คทริคจะไม่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกไลน์เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เชื่อว่ากลยุทธ์การทำตลาดแบบทุกผลิตภัณฑ์ใช้ไม่ได้แล้วกับทิศทางตลาดในปัจจุบัน แต่จะต้องเป็นแบบเฉพาะเจาะจง"

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในรอบบัญชีปี 2548 (เม.ษ. 2548-มี.ค. 2549) จะต้องมีอัตราการเติบโต 12.7% หรือมีมูลค่า 5,750 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น เครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นจาก 48% ในปีที่ผ่านมาเป็น 55% ตู้เย็นสัดส่วนจะลดลงเหลือ 20% จาก 26% พัดลม ลดลงเหลือ 9% จาก 10% พัดลมระบายอากาศ เท่าเดิมที่ 3% และเครื่องปั๊มน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 10% จาก 8%

ขณะที่ยอดขายในรอบบัญชีปี 2547 ที่จะสิ้นสุด ในเดือนมี.ค.นี้ คาดว่าจะทำได้เกินเป้าหมายที่วางไว้เพียง 5,100 ล้านบาท เป็น 5,200 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 8.3%

ด้านนายอนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะใช้งบการทำตลาดรวม 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ใช้เพียง 450 ล้านบาท เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายให้ได้ 30% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 26-27% พร้อมกับรักษาส่วนแบ่งตลาดของตู้เย็นไว้ที่ 18%

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ได้ปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้แก่เครื่องปรับอากาศและตู้เย็นทุกรุ่น เพื่อเพิ่มคุณสมบัติและสร้างความหลากหลาย ของสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับได้ปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5% เนื่องจากแบกรับต้นทุนวัตถุดิบทั้งเหล็ก และทองแดงที่เพิ่มขึ้น 15-20% ตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา