เรื่องราวของเกอร์เบอร์ นับเนื่องย้อนกลับไปตั้งแต่
1928 จากสายการผลิตในโรงงานของบริษัท Fremont Canning ซึ่ง Daniel Gerber บอกว่าแท้จริงแล้วเกอร์เบอร์
เริ่มต้นจากห้องครัวของเขาเองตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนในปี 1927 เมื่อ Dorothy Gerber
ภรรยาของเขาต้องเตรียมอาหารให้แก่ลูกสาววัย 7 เดือน ตามคำแนะนำของกุมารแพทย์
หลังจาก ที่ต้องดำเนินกิจกรรมดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นั้น เอง Dorothy
Gerber ได้แนะนำให้สามีของเธอลงมือเตรียมอาหารดูบ้าง ก่อน ที่จะชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมเช่นนี้สามารถทำให้ง่ายลงได้อย่างไร
เมื่อเข้าสู่สายการผลิตของ Fremont Canning ซึ่งครอบครัวของ Gerber ประกอบธุรกิจผลิตผัก และผลไม้กระป๋องอยู่แล้ว
การทดลองผลิตอาหารเด็ก ที่ Fremont Canning จึงเริ่มขึ้นโดยมี Sally Gerber
ลูกสาว ที่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานอาหารเด็กนี้ อยู่ในฐานะนักวิเคราะห์คนแรก
ก่อน ที่ครอบครัวของคนงานใน Fremont Canning จะขอตัวอย่างอาหารเด็กนี้ไปทดสอบทดลองกับบุตรหลาน
ท่ามกลางคำวิจารณ์ ที่หนักหน่วง และผู้แทนจำหน่ายยังลังเล ที่จะจัดจำหน่ายสินค้าชนิดนี้
แต่ในช่วงปลายปี 1928 อาหารเด็กของ Gerber ไม่ว่าจะเป็น ถั่วบด, ลูกพรุน
แครอท และผักสปินาช รวมถึงซุปเนื้อก็พร้อมแล้วสำหรับตลาดอาหารทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ดี ความนิยมใน Gerber ในระยะเริ่มแรกยังอยู่ในระดับ ที่ต่ำมาก กระทั่ง
Gerber จัดแคมเปญโฆษณา และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งก็คือ การนำเสนอภาพเด็กน้อยเกอร์เบอร์
ที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าในปัจจุบัน และทำให้บริษัทผู้แทนจำหน่ายทั้งหลายต่างติดต่อขอสั่งซื้อ
ภายในเวลาไม่นานผลิตภัณฑ์ของเกอร์เบอร์ก็มีวางจำหน่ายในร้านค้าเกือบทั่วสหรัฐอเมริกา
และเป็นบทบาทก้าวแรกในความสำเร็จของเกอร์เบอร์
นอกเหนือจากการผลิตอาหารเด็กแล้ว Gerber ได้เริ่มสายการผลิตของเล่น และอุปกรณ์ เพื่อการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กในปี
1960 โดยปัจจุบันสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า Gerber และ NUK มีมากกว่า
350 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นขวดนม จุกนม และอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมมารดา
ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์สำหรับแม่ และเด็ก ที่มีวางจำหน่ายทั่วโลก
ในปี 1967 บริษัท Gerber Life Insurance ได้จัดตั้งขึ้นในฐานะ ที่เป็นบริษัทย่อยของ
Gerber ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ที่มีแผนประกันชีวิตสำหรับเยาวชน
โดยปัจจุบัน Gerber Life Insurance มีมูลค่ากรมธรรม์ประกันชีวิตรวมกว่า 9
พันล้านเหรียญสหรัฐ คุ้มครองผู้คนกว่า 2 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และเปอร์โตริโก้
ทั้งนี้ ในปี 1994 Gerber ได้ถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Sandoz ก่อน ที่
Gerber จะเป็นส่วนหนึ่งของ Novartis หลังจาก ที่ Ciba-Geigy และ Sandoz ได้ผนวกกิจการกันในช่วงปลายของปี
1996
ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเติบโตขึ้นของอาหาร ที่ได้จากการตัดแต่งพันธุกรรม
ในปี 1999เกอร์เบอร์ได้ประกาศ ที่จะหยุดการผลิตอาหารสำหรับเด็ก ที่มีองค์ประกอบจากการตัดแต่งพันธุกรรมอย่างสิ้นเชิง
โดยหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตอาหารอินทรีย์จากวัตถุดิบ ที่คัดสรรเป็นพิเศษ
และมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น
ปัจจุบัน Gerber ยังดำเนินกิจกรรม เพื่อการพัฒนาอาหารเด็กอย่างต่อเนื่อง
โดยมีอาหารเด็กในสายการผลิตกว่า 190 ชนิด จำหน่ายใน 80 ประเทศทั่วโลก และมีการพิมพ์ฉลากเป็นภาษาต่างๆ
มากว่า 16 ภาษา ซึ่งหน่วยวิจัยของ Gerber นับเป็นองค์กรเอกชน เพื่อการวิจัยด้านโภชนาการทารก และเด็ก ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวในเรื่องโภชนาการในปี 1997 Gerber ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่
Tender Harvest ซึ่งผลิตจากวัตถุดิบ ที่คัดสรรอย่างเป็นพิเศษ และในปี 1999
ได้นำเสนอวิธีการผลิตแบบ NatureLock ที่ทำให้สารอาหารต่างๆ ไม่สูญหายไปในกระบวนการผลิต
พัฒนาการของ Gerber ได้ดำเนินมาไกลจากจุดเริ่มต้นในห้องครัวของ Daniel และ
Dorothy Gerber แต่จุดมุ่งหมายในการเป็นผู้ผลิตสินค้าคุณภาพสำหรับเด็กของ
Gerber ยังต้องดำเนินต่อไป