"แสนสิริ" เปิดเกมรุกตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลาง ราคา 3-6 ล้านบาท จ่อผุด 6 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกทำเล พร้อมเปิดคอนโดฯ ระดับบนเพิ่มอีก 2 โครงการ ตั้งเป้ารายได้ปี 48 10,000 ล้านบาท หรือ โต 25-30% เชื่ออสังหาฯปี 48 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15% เหตุดอกเบี้ยยังต่ำ เชื่อ ธปท. ปรับเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 1% ไม่กระทบตลาด
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2548 ว่ายังมีอัตราการขยายตัวประมาณ 15% หรือจะมีจำนวนยอดการซื้อขายที่อยู่อาศัยในตลาดประมาณ 70,000 กว่ายูนิต เนื่องจากปัจจัยบวกในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่สูงมากนัก โดยอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอยู่ที่ 5.75% ซึ่งถือว่ายังไม่สูงจนทำให้เกิดผลกระทบได้ แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งเชื่อว่าในปี 2548 นี้ อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นไม่เกิน 1%
สำหรับแผนด้านการตลาดในปี 2548 นี้ กลุ่มบริษัทแสนสิริ จะมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรรระดับกลาง-บน รวมถึงเพิ่มการ พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวสำหรับกลุ่มลูกค้า ระดับกลาง ในระดับราคา 3-6 ล้านบาทมากขึ้น โดยทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป จำนวน 6 โครงการ จำนวนยูนิตรวมไม่ต่ำกว่า 1,500 ยูนิต ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่จะมีการพัฒนาขึ้นอีกอย่างน้อย 2 โครงการ
โดยในปีนี้แสนสิริ ตั้งเป้ารายได้จากการขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 25-30% จากเดิมในปี 2546 มีรายได้จากการขาย 5,000 ล้านบาท โดยรายได้จำนวน 10,000 ล้านบาทดังกล่าว ส่วนหนึ่งจะมาจากยอดการโอนกรรมสิทธิ์ คอนโดมิเนียมให้แก่ลูกค้าที่จองซื้อห้องชุด ในปี 2457 จำนวน 5,000 กว่าล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท จะเป็นรายได้จากการขาย และการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยวจากโครงการเดิม และโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว
สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวที่จะมีการทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไปนั้น จะเป็นโครงการบ้านระดับกลางจำนวน 6 โครงการ เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้ออยู่ในช่วง 3-6 ล้านบาท โดยกระจายอยู่ในทำเลต่างๆ ประกอบด้วย 1. พุทธมณฑลสาย 1 พื้นที่โครงการ 27 ไร่, 2. สาทร-วงแหวน พื้นที่โครงการ 40 ไร่, 3.ย่านประชาชื่น มีเนื้อที่โครงการ 212 ไร่ ประมาณ 600 ยูนิต, 4. ย่านรัตนาธิเบศร์ 100 ไร่, 5. ย่านรามอินทรา 100 ไร่ และ 6. ย่านสุขาภิบาล 2 มีเนื้อที่ในโครงการจำนวน 400 ไร่ และมีประมาณ 400 ยูนิต โดยทุกโครงการขณะนี้ได้เริ่มพัฒนาโครงการแล้ว
สำหรับโครงการที่จะมีการเปิดตัวเป็นโครงการแรกคาดว่าจะเป็นโครงการในย่านพุทธมณฑลสาย 1 ส่วนโครงการคอนโดฯ ที่จะเปิดใหม่อีก 2 โครงการนั้น จะเป็นโครงการคอนโดฯระดับบน ในย่านสุขุมวิท และย่านซอยร่วมฤดี
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า นับจากปี 2547 แสนสิริได้ทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของโครงการคอนโดฯมีจำนวนทั้งสิ้น 13 โครงการ ซึ่งหลายโครงการพัฒนาเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนคอนโดฯ ที่ยังคงเปิดขายอยู่ในขณะนี้ มียอดขายเฉลี่ยมากกว่า 85% อย่างไรก็ตาม แสนสิริ จะมีโครงการคอนโดฯที่จะทยอยสร้างเสร็จและสามารถโอนกรรมสิทธิ์ ให้กับลูกค้าได้ในช่วงปี 2548 จำนวน 5 โครงการประกอบด้วย โครงการบ้านราชดำริ โครงการบ้านนันทสิริ โครงการบ้านสิริ สุขุมวิท ซอย 10 โครงการ The Lanai Sathorn และ โครงการบ้านแสนเพลิน หัวหิน
ส่วนแผนการพัฒนาโครงการคอนโดฯใหม่ คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 2 โครงการ โดยอยู่ระหว่างเลือกทำเลที่เหมาะสมในย่านกลางใจเมือง (ซีบีดี) สำหรับแผนการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ประเภทโครงการบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จก่อนขาย แสนสิริ จะขยายเฟสการก่อสร้างต่อเนื่องในโครงการเดิม ซึ่งในปี 2548 มีจำนวน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการสราญสิริ รังสิต คลอง 2, โครงการเศรษฐสิริ สนามบินน้ำ, โครงการเศรษฐสิริ รามอินทรา, โครงการนาราสิริ สาทร-วงแหวน, โครงการนาราสิริ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ และโครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 โดยทั้งหมดมีมูลค่าโครงการขายรวมประมาณ 13,600 ล้านบาท
นายเศรษฐา กล่าวว่า จากการที่บริษัทมีแผนรุกตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลางมากขึ้น จึงได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เรื่อง "Great Space" ซึ่งได้นำแนวคิดจากผลการวิจัยที่แสนสิริได้นำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการเกี่ยวกับเรื่องการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง ภายในโครงการต่างๆ มาสร้างเป็นเนื้อหาของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ โดยใช้งบประมาณตลอดทั้งปี 50 ล้านบาท ซึ่งจะออกอากาศตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมนี้ เป็นต้นไป
|