Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 มกราคม 2548
"รพี" นั่งซีอีโอตามโผ3ปีมาร์เกตแชร์3%             
 


   
search resources

รพี สุจริตกุล
Stock Exchange
กสิกรไทย, บล.




"รพี" เตรียมรั้งตำแหน่ง CEO บล.กสิกร รอมติที่ประชุม พร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ตั้งเป้า 3 ปี รั้งมาร์เกตแชร์ 2-3% ชูจุดเด่นบทวิเคราะห์ครอบคลุมมาร์เกตแคป 75% ด้านเอ็มดีด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมเจาะลูกค้าแพลทินัมธนาคาร นายวิกรานต์ ปวโรจน์กิจ เอ็มดี ด้านวาณิชธนกิจ จับกลุ่มลูกค้าธนาคาร 7 พันบริษัท

นายรพี สุจริตกุล ซึ่งจะรับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 99.91% และได้มีการแต่งตั้งนางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง เป็นกรรมการผู้จัดการ ด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และนายวิกรานต์ ปวโรจน์กิจ เป็นกรรมการผู้จัดการด้านวาณิชธนกิจ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 ม.ค. เพื่อนำมติที่ประชุมไปจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้คาดว่าในช่วงไตรมาส 2/48 บล.กสิกรไทยจะสามารถเปิดทำการได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องบุคลากรและอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับกลุ่มลูกค้าในช่วงแรกของการเปิดบริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าแพลทินัม โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในช่วง 2-3 ปี ได้ในระดับ 2-3% ในส่วนของสาขาที่จะให้บริการจะมีการพิจารณาเปิดสำนักงานซื้อขายหลักทรัพย์ในย่านสำคัญโดยเฉพาะกรุงเทพฯ และ ปริมณฑลเป็นหลัก โดยเริ่มแรกจะมีการเปิดสาขาจำนวน 10-15 สาขา

"ฐานลูกค้าจะเป็นกลุ่มลูกค้าธนาคารเป็นหลัก ที่แต่เดิมมีการให้บริการทางด้านตราสารหนี้เมื่อมีการขยายงานทางด้านตราสารทุน จะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำในการเปิดให้บริการได้แบบครบวงจร" นายรพีกล่าว

สำหรับรายได้ของบล.กสิกรไทย ในช่วง 2-3 ปีแรกคาดว่าจะมีจากรายได้ในส่วนของการซื้อขายหลักทรัพย์ เนื่องจากรายได้ที่จะมาจากงานทางด้านวาณิชธนกิจนั้นคงต้องใช้เวลาในการหาลูกค้า โดยคาดว่าเมื่อมีการเตรียมการที่เรียบร้อยมีลูกค้าที่ชัดเจน รายได้ในส่วนดังกล่าวก็จะมีมากขึ้น

จุดเด่นที่สำคัญของบริษัทนอกเหนือจากงานที่ครบวงจร งานด้านบทวิเคราะห์จะเป็นอีกอย่างที่จะเป็นจุดเด่นของบล.กสิกรไทย โดยตั้งเป้าจะทำบทวิเคราะห์ให้ครอบคลุมมาร์เกตแชร์ตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 75%

นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ในส่วนของบุคลากรด้านงานมาร์เกตติ้ง คาดว่าในปีนี้จะมีบุคลากรประมาณ 50 คน โดยจะมีทั้งการรับมาร์เกตติ้งใหม่และมาร์เกตติ้งเดิมจากที่อื่น สำหรับงานด้านวาณิชธนกิจคาดว่าจะมีบุคลากรประมาณ 10 คน ซึ่งภายในบริษัทมีพนักงานประมาณ 100 คน

นางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง กรรมการผู้จัดการด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ กล่าวว่า บล. กสิกรไทยจะเปิดทำการซื้อขายโดยจะเป็นสมาชิกหมายเลข 11 ของตลาดหลักทรัพย์ โดยนโยบายหลักจะเน้นคุณภาพของงานวิจัยและคำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมให้กับลูกค้า

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายลูกค้าระหว่างสถาบันกับรายบุคคลในสัดส่วน 60 ต่อ 40 โดยในส่วนของลูกค้าสถาบันจะรวมทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนสถาบันมีความเชื่อมั่นในความแข็งเเกร่งของธนาคารอยู่แล้ว

"ธนาคารมีฐานของลูกค้าที่ลงทุนนอกเหนือจากการฝากเงินอยู่แล้ว โดยปีที่แล้วธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดในการขายพันธบัตรเป็นอันดับหนึ่ง โดยกลุ่มเป้าหมายแรกที่บล.กสิกรไทยเน้นเป็นกลุ่มลูกค้าแพลทินัม ที่มีเงินฝากมากกว่า 5 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีบัญชีในกลุ่มดังกล่าว 1.4 หมื่นบัญชี โดยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล"

นางสาวณัฐรินทร์ กล่าวถึงในส่วนของการเตรียมทีมงานด้านเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) ว่า เบื้องต้นจะมีทีมงานประมาณ 50 คน โดยในจำนวนนี้คาดว่าจะเป็นมาร์เกตติ้งเก่า 10-15 คน ที่เหลือจะเป็นมาร์เกตติ้งใหม่ โดยจะเน้นไปที่การสร้างคนใหม่มากกว่าการดึงคนเก่าในระบบ เพราะการดึงคนคงลำบากในยุคนี้ เนื่องจากต้องรอให้บริษัทเดิมยินยอมก่อน

นายวิกรานต์ ปวโรจน์กิจ กรรมการผู้จัดการด้านวาณิชธนกิจ กล่าวว่า งานในด้านวาณิชธนกิจ จะให้บริการลูกค้าในการบริหารโครงสร้างทางการเงินแบบครบวงจร โดยเพิ่มเติมจากการดูแลของธนาคาร ซึ่งบล.จะเข้าทำหน้าที่แบบครบวงจร ซึ่งจะทำให้บริษัท สามารถนำบริษัทที่ต้องการระดมเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าบริษัทจะสามารถนำบริษัทขนาดกลางเข้าจดทะเบียนในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะเข้าร่วมเป็นผู้จัดการจำหน่ายหลักทรัพย์ร่วมกับบล.อื่นๆ

"ปัจจุบันในส่วนงานด้านวาณิชฯยังไม่มีลูกค้า แต่ฐานลูกค้าของบริษัทจากธนาคารกสิกรไทยมีกว่า 7 พันบริษัท การขยายงานจะทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง" นายวิกรานต์กล่าว

ในส่วนของงานที่ขยายจากฐานเดิมที่ธนาคารจะเน้นการออกหุ้นกู้ ตราสารหนี้ เป็นต้น แต่ในส่วนของบล. จะเน้นการระดมทุน การควบรวมกิจการ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและลูกค้าได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us