|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ธนชาติ" มองแนวโน้มตลาดหุ้นขาขึ้น ประกาศยุบ 3 กองทุนหุ้นที่หมดอายุก่อนหน้ามูลค่าสุทธิกว่า 2.7 พันล้านบาท เพื่อเปิดเป็น "กองทุนเรียลเซกเตอร์ฟันด์" เน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน คาดเปิดขายได้ภายในเดือนมีนาคม "กำพล" เผยทั้ง 3 กองทุน ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหุ้น
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้น 3 กองทุน ซึ่งได้หมดอายุไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2547 ประกอบด้วย กองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 1 กองทุน รวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 2 และกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 เพื่อให้ยุบรวมกองทุน เข้าด้วยกันและเปิดซื้อขายหน่วย ลงทุนใหม่อีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้ โดยกองทุนใหม่ที่เปิด จะเป็นกองทุนเปิดธนชาติเรียลเซกเตอร์ฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจของประเทศ รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ
สำหรับกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 1 ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2547 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 724.22 ล้านบาท กองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 2 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 647.70 ล้านบาท และกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,369.38 ล้านบาท รวม 2,741.3 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 1 ในช่วง 3 ปี ให้ผลตอบแทน 161.25% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ติดลบ 51.37% ส่วนกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 2 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 161.84% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ติดลบ 51.64% และกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 3 ปี 162.05% ขณะที่ดัชนีตลาดหลัก ทรัพย์ติดลบ 49.51%
จากข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2547 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมธนชาติ จำกัด มีขนาดทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมภายใต้การบริหารจำนวน 27,964.90 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) 4.07% จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนบริหารในปี 2547 รวม 687,363.63 ล้านบาท
"กองทุนธนชาติเรียลเซกเตอร์ฟันด์ที่เปิด คาดว่าจะเริ่มขายหน่วยลงทุนได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยกองทุนจะเปิดขายหน่วยลงทุนเดือนละครั้ง ส่วนสาเหตุที่เรารุกกองทุนเปิดลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากเชื่อมั่นในทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น"
นายกำพลกล่าวว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ แต่ในส่วนของหุ้นที่อยู่ในภาคเรียลเซกเตอร์ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการที่เศรษฐกิจจะขับเคลื่อนได้ 5% ขึ้นไป จำเป็นต้องมีการลงทุนจากภาครัฐ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดังนั้น หุ้นกลุ่มเรียลเซกเตอร์จะได้รับแรงหนุนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน
สำหรับหุ้นที่บลจ.ธนชาติให้น้ำหนักการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเป็นกลุ่มที่เกี่ยว ข้องกับการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลมี นโยบายลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกิดขึ้นประมาณ 2.2 ล้านล้านบาทในช่วง 4 ปีข้างหน้า
ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ บริษัทยังคงเชื่อว่ายังมีศักยภาพและผลการดำเนินงานในช่วงปีนี้และปีหน้ายังขยายตัวได้อีก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ ถือเป็นอีกกลไกหนึ่งในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
|
|
|
|
|