คาร์ฟูร์เดินหน้าแจงข้อดี ข้อเสียค้าปลีกโมเดิร์นเทรดต่อภาครัฐ หวั่นกฎผังเมืองกระทบแผนลงทุนระยะยาว หลังเห็นแววใบอนุญาตใกล้หมดสต๊อก ลุยแผนผุดสาขาต่างจังหวัด ไม่ปิดกั้นเจรจาค้าปลีกท้องถิ่น พร้อมเร่งเครื่องก่อสร้างสาขาถนนอิสรภาพหลังชะลอแผนลงทุนชั่วคราว เผยเคาน์เตอร์เครื่องประดับ "La difference" 1 ปีไปได้สวย เตรียมเปิดตัวเนื้อไก่ เนื้อกุ้งวงจรคุณภาพรับกระแส
นายธนภณ ตังคณานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารคาร์ฟูร์ ไฮเปอร์มาร์เกต เปิดเผยต่อ "ผู้จัดการ รายวัน" ว่า แผนการลงทุนขยายสาขา ในปี 2548 นี้ บริษัทจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 2-3 แห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาต่างจังหวัด ในขณะที่สาขากรุงเทพฯ พร้อมจะเปิดสาขาถนนอิสรภาพให้ได้ภายในปีนี้ ซึ่งสาขาดังกล่าวเป็นแผน ที่วางไว้จะเปิดตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แต่เลื่อนมาก่อสร้างและเปิดให้บริการในปีนี้ เนื่องจากบริษัทต้องการความมั่นใจในทุกสาขาที่ลงทุนเปิด
งบการลงทุนเฉลี่ยในการเปิดสาขาใหม่อยู่ที่ประมาณ 600-700 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ซึ่งหากนับรวมที่ดินด้วยแล้วจะมีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท โดยขนาดพื้นที่ขายปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000 ตร.ม. นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะปรับปรุงสาขาเดิมอีก 2-3 สาขา อาทิ รังสิต, รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดให้บริการมา 4-5 ปีแล้ว งบการลงทุนเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อสาขาในการปรับปรุง เนื่องจากบางสาขา ใกล้เคียงกับการสร้างใหม่ อาทิ สาขาบางใหญ่
การขยายตัวของคาร์ฟูร์ ประเทศไทย ยังคงเน้นความเป็นไฮเปอร์มาร์เกตเต็มรูปแบบ แม้ว่าสถานการณ์ค้าปลีกจะเปลี่ยนแปลง ค้าปลีกหลายรายปรับขนาดให้เล็กลงหรือเข้าใช้พื้นที่ของค้าปลีกห้างร้านเดิมที่ขอใบอนุญาตไว้แล้ว เพื่อความคล่องตัวในการขยายและหลีกเลี่ยงปัญหาผังเมือง ทั้งนี้เป็นเพราะมองว่าเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทย
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปัญหาของกฎหมายผังเมืองก็ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการขยายธุรกิจค้าปลีกทั้งระบบ ไม่เฉพาะกับคาร์ฟูร์ ซึ่งคาร์ฟูร์เองก็จะพยายามสร้างความเข้าใจกับภาครัฐ ให้ข้อมูลผลดีผลเสียของธุรกิจค้าปลีกโมเดิร์นเทรด ให้ภาครัฐได้ชั่งน้ำหนักระหว่างผลดีกับผลเสียที่เกิดขึ้นของค้าปลีกประเภทนี้ เพราะที่ผ่านมาภาครัฐมองในแง่ผลเสียเป็นหลัก
นโยบายการขยายสาขาของคาร์ฟูร์ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เปิดอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยปีละ 2-3 สาขา โดยปัจจุบันคาร์ฟูร์มีสาขาทั้งหมด 20 สาขา ส่วนใหญ่เป็นสาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งใบอนุญาตสร้างค้าปลีกขนาดใหญ่ของบริษัทที่มีอยู่นั้นสามารถรองรับแผน การขยายสาขาจนถึงปี 2549 เท่านั้น
นายธนภณกล่าวอีกว่า คาร์ฟูร์ในต่างประเทศมีรูปแบบค้าปลีกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์มาร์ เกต, คอนวีเนียน สโตร์, ฮาร์ด ดิสเคานต์ แต่ในระยะเวลาอันใกล้ยังไม่มีแผนที่จะนำรูปแบบดังกล่าว เข้ามาใช้กับตลาดในประเทศไทย แต่ไม่ได้ปิดกั้นกับการใช้รูปแบบเข้าบริหารพื้นที่ให้กับค้าปลีกที่มีอยู่แล้ว เหมือนกับสาขาบางแค ซึ่งอยู่ในศูนย์การค้า ฟิวเจอร์ บางแค หรือการร่วมทุนกับค้าปลีกท้องถิ่นบริษัทก็เจรจากับทุกรายที่เข้ามาเสนอ แต่บริษัทจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมที่จะทำธุรกิจแบบร่วมทุน
สำหรับเคาน์เตอร์เครื่องประดับ "La difference" ซึ่งเป็นการลงทุนเองของคาร์ฟูร์โดยร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีของไทยประมาณ 5 ราย ที่เป็นผู้ผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศ หลังจากเปิดให้บริการมา 1 ปีแล้วได้รับการยอมรับที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งเหมาะกับบางสาขาเท่านั้น โดยขณะนี้มีอยู่ 5-6 สาขา อาทิ เพชรเกษม, พัทยา, แจ้งวัฒนะ และในการเปิดสาขาใหม่หรือปรับปรุงบางสาขาในปีนี้ก็อาจจะเพิ่มเคาน์เตอร์ดังกล่าวเข้าไปด้วย เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าภายใต้แนวคิดราคาขายที่ถูกกว่าร้านจิวเวลรี่ทัวไป
ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรง ในแง่ของคาร์ฟูร์เองต้องหาสินค้าใหม่นำเสนอกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องรองรับความต้องการของลูกค้าล่าสุดได้ออกแคมเปญส่งเสริมการขาย "ซื้อ 2 ได้ 3" ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของปีนี้ที่ใช้กระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยมั่นใจว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่กับสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน
ในขณะที่ปีนี้ราคาน้ำมันดีเซลจะถูกปล่อยลอยตัว และการที่ต้นทุนวัตถุดิบอย่างพลาสติก กระดาษปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ซัปพลายเออร์หลายรายมีแนวคิดที่จะปรับราคาสินค้าขึ้น แม้ว่าในช่วงนี้จะยังไม่ได้รับการบอกกล่าวจากซัปพลายเออร์ถึงการปรับราคาสินค้า แต่หากมีการปรับราคาสินค้า ขึ้นจริงต้องยอมรับว่าอาจจะกระทบต่อแผนการทำแคมเปญสินค้าราคาถูกของคาร์ฟูร์ อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นผลดีต่อสินค้าเฮาส์แบรนด์ เพราะจะทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจซื้อมากขึ้นด้วยราคาที่ถูกกว่ายี่ห้อทั่วไปค่อนข้างมาก
|