Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 มกราคม 2548
แบงก์ไทยพาณิชย์ยึดนโยบายเดิมหลังสำนักงานทรัพย์สินฯแลกหุ้นคืน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารไทยพาณิชย์
โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย
โฮมเพจ กระทรวงการคลัง

   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
กระทรวงการคลัง
Banking




บิ๊กแบงก์ไทยพาณิชย์ ยันไม่เปลี่ยนแปลงนโยบาย หลังสำนักงานทรัพย์สินฯ แลกหุ้นคืนจากกระทรวงการคลัง ทำให้ถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่าๆ กันประมาณ 25% โดยเน้นการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โตต่อเนื่องอีก 7-8% ขณะที่สภาพคล่องยังล้นกดดันไม่ให้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ขยับ ด้านแบงก์นครหลวงไทย ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่อีก 4-6 หมื่นล้าน

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวถึงการแลกหุ้นของธนาคารระหว่างกระทรวงการคลังและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังแลกหุ้นของธนาคารกับสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้แล้วเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงการคลังที่จะดำเนินการแลก ซึ่งเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้แน่นอน

หลังจากการแลกหุ้นแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารจะมีสำนักงานทรัพย์สินฯ และกระทรวงการคลังในสัดส่วนเท่าๆ กัน ประมาณ 24-25% หลังจากนี้ นโยบายการดำเนินธุรกิจยังคงเป็นเหมือนเดิม จะไม่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรหรือโครงสร้างใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากสำนักงานทรัพย์สินฯ หรือกระทรวงการคลังถือว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่ถือหุ้นในธนาคารเป็นระยะเวลาที่นานมาก จึงไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไร

"ฝ่ายบริหารจะเน้นการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นให้ดีที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มที่เติบโตที่ดี เพราะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มดีขึ้น ในขณะที่การขยายสินเชื่อเติบโตอย่างต่อเนื่อง"

ส่วนภาพรวมของการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ คาดว่ามีแนวโน้มที่ขยายตัวต่อเนื่อง ในระดับ 7-8% เนื่องจากจะมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่จะสร้างสาธารณูปโภคให้กับประเทศ รวมทั้งการลงทุนในภาคเอกชน ที่จะเริ่มขยายตัว เพิ่มกำลังการผลิตอย่างแท้จริง นอกเหนือจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ปีนี้อาจจะเติบโตที่น้อยเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดภาคใต้ ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิเพียงเล็กน้อย เนื่องจากลูกค้าระดับผู้ประกอบการมีประกันภัยเกือบหมด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประกันจะจ่ายเงินให้รวดเร็วมากน้อยแค่ไหน หากมีการจ่ายเงินที่รวดเร็วเชื่อว่าจะไม่กระทบกับลูกค้าในด้านของเอ็นพีแอล แต่อาจจะกระทบด้านของการ ท่องเที่ยวที่รายได้จากการท่องเที่ยวชะลอลงบ้าง

ส่วนทิศทางแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ นายวิชิต กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ธนาคารพาณิชย์จะยังไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินในระบบที่ยังมีเหลือ โดยในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารยังมีเงินฝากไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสภาพคล่องในระบบยังมีจากเงินทุนต่างประเทศ ที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย

"การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคงต้องขึ้นกับปริมาณสภาพคล่องในระบบเป็นหลัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาแม้ธปท.จะดูดซับสภาพคล่องออกไปแต่เราก็ยังมีเงินไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคงจะไม่เห็นในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารไทยพาณิชย์เท่าที่ทราบอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน" ดร.วิชิตกล่าว

SCIB เผยยอดสินเชื่อปี 2548 อยู่ที่ 5.8 หมื่นล.

ด้านนางสาวอังคณา สวัสดิ์พูน ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB กล่าวถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปี 2547 ที่ผ่านมาว่าธนาคารมียอดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิ 58,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนการเติบโต 30% จากสิ้นปี 2546 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้

สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้ ธนาคารมีเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อประมาณ 40,000-60,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 20% ส่วนด้านเงินฝากในปีนี้ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มให้ได้ในสัดส่วน 5% จากสิ้นปี 2547

"การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีที่ผ่านมา ถือว่าเราทำได้ตามเป้าหมาย โดยเรามียอดการปล่อยสุทธิ 58,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ที่เติบโตสูงเพราะฐานในปีก่อนต่ำ" นางสาวอังคณากล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us