|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
"เอไอเอ" สบจังหวะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โปรโมตสินเชื่อเคหะดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ตลอดอายุสัญญากู้ ระบุโอกาสทองผู้กู้ชี้เป็นแห่งเดียวที่คงที่ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา ยืนยันคงอัตรานี้ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุดอกเบี้ยในตลาดทยอยปรับขึ้น ด้านสินเชื่อโครงการตั้งเป้าปล่อยกู้ 3,000 ล้านบาท ล่าสุดปล่อยสินเชื่อ 2 โครงการมูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเคหะในตลาดถือว่าต่ำมาก จนนักการเงินกล่าวว่าเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์ คืออัตราดอกเบี้ยคงที่ 1-3 ปีแรกประมาณ 1-3.5% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในระดับเช่นนี้ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อบ้านเพิ่มมากขึ้นรวมถึงปัจจัยบวกต่อภาคอสังหาฯด้านอื่นๆ ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตมากขึ้น
อย่างไรก็ดีช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมีทิศทางปรับขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยในปี 2547 เริ่มมีทิศทางขาขึ้น แต่คาดว่าจะปรับขึ้นไม่มากนัก แม้ว่าเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวมแล้ว ร้อยละ 0.50 แต่ธนาคารพาณิชย์ยังไม่มีท่าทีในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามแต่อย่างใด เนื่องจากสภาพคล่อง ของธนาคารเหล่านั้นยังคงมีสูงอยู่ นอกจากนี้ภาวะการแข่งขันของตลาดทำให้ธนาคารพาณิชย์เหล่านั้นยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
แม้ว่าธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ ยังไม่มีท่าทีว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นก็ตาม แต่ในฟากของผู้บริโภคที่อยู่ระหว่างตัดสินใจขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยต่างหยุดพิจารณาถึงความสามารถ ในการผ่อนชำระต่อรายได้ของตนเอง นั่นหมายความว่าหากอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นค่าผ่อนชำระรายเดือน จะต้องเพิ่มขึ้นตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะเพิ่มจนไม่สามารถที่จะผ่อนชำระได้ จนเป็นหนี้เสียในภายหลัง หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นไปมากน้อยแค่ไหน
ปัญหานี้จึงทำให้ผู้บริโภค หันมามองสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว เพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่คงที่อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเคหะสูงสุดประมาณ 5 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังมี แนวโน้มเป็นกึ่งลอยตัวคือ MLR ลบหรือบวกเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร แต่ยังมีสถาบันการเงินที่น่าสนใจและธนาคารเริ่มหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของคู่แข่งสำคัญ นั้นก็คือ บริษัทประกันชีวิตที่มีเงินลงทุนสูง อีกทั้งเงินลงทุนยังเป็นแบบระยะยาว ทำให้สามารถคงที่อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญากู้ได้
สำหรับบริษัทประกันที่มีการปล่อยสินเชื่อเคหะในปัจจุบัน มีเพียงไม่กี่แห่งที่ปล่อยสินเชื่อเคหะให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งหนึ่งในนั้น ได้แก่ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด หรือ เอไอเอ และบริษัทประกันส่วนใหญ่จะปล่อยสินเชื่อให้กับเฉพาะลูกค้าและพนักงานของบริษัทเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนด้านอื่นๆ
นายอนุชา เหล่าขวัญสถิตย์ รองประธานกรรมการ สายการลงทุน บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด เปิดเผยว่า สินเชื่อเคหะของเอไอเอ เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับผู้ซื้อ บ้านซึ่งเอไอเอให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ตลอดอายุสัญญากู้ ซึ่งสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้กู้คงที่เพียง 2-3 ปีเท่านั้น ซึ่งในระยะหลังนี้อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มหายไปจากตลาดบ้างแล้ว
สำหรับวัตถุประสงค์ของการปล่อยสินเชื่ออีกประการ เนื่องมาจากธุรกิจประกันเป็นการบริหารเงินในระยะยาว ซึ่งฝ่ายลงทุนจะต้องลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งการปล่อยสินเชื่อของเอไอเอถือว่าไม่ได้ใช้ต้นทุนในการดำเนินงานมากนัก เพราะจะปล่อยสินเชื่อเฉพาะที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและ ปริมณฑลเท่านั้น เนื่องจากกำลังคนมีไม่เพียงพอที่จะรองรับการปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดใด้
นายอนุชา กล่าวต่อว่า เอไอเอเริ่มมีสินเชื่อเคหะ ตั้งแต่ปี 2536 แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์น่าสนใจมากกว่า อีกทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า จึงทำการตลาดในวงแคบๆ ไม่เป็นที่แพร่หลายส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานของบริษัทและลูกค้า แต่ในปีที่ผ่านมาแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดเริ่มมีทิศทางปรับขึ้น รวมถึงรูปแบบการปล่อยสินเชื่อเป็นแบบกึ่งลอยตัว ซึ่งผู้กู้ต้องแบกรับความเสี่ยงช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
ทั้งนี้ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ช่วงขาขึ้น ทำให้เอไอเอเริ่มให้ความสำคัญกับสินเชื่อเคหะมากขึ้น โดยได้ทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินเชื่อเคหะให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นประชาสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มกลุ่มลูกค้าให้แพร่หลาย ซึ่งปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อเคหะของเอไอเอมีเพียง 500 ล้านบาท หรือ 1% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
อย่างไรก็ดี เอไอเอไม่ได้จำกัดวงเงินในการปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องการมีอัตราการเติบโตขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งแม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวก็ตาม แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในช่วงแรกๆ จึงให้ความสำคัญกับสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะมีผู้บริโภคบางกลุ่มเท่านั้นที่คำนึงถึงอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญากู้ เพื่อสามารถคำนวณรายได้ในอนาคตว่าจะเพียงพอต่อค่าผ่อนชำระหรือไม่ และภายหลังแนวโน้มดอกเบี้ยปรับขึ้น
นายอนุชา กล่าวว่า ภาพการแข่งขันของตลาดสินเชื่อเคหะของสถาบันการเงินถือว่ามีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก ซึ่งเอไอเอยังไม่กล้าที่ จะเข้าไปแข่งขัน การที่ลูกค้าจะให้ความสนใจสินเชื่อของเอไอเอมากเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในตลาดว่าจะขยับขึ้นไปมากน้อยเพียงใด
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของเอไอเอ ในปัจจุบันมี 2 แบบ คือ แบบที่ 1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ตลอดอายุสัญญากู้ แบบที่ 2. อัตราดอกเบี้ย MLR - 1.50% ใน 3 ปีแรก หลังจากนั้น MLR - 0.50% โดยใช้ MLR ของธนาคารไทยพาณิชย์ ปัจจุบัน = 5.75% ต่อปี โดยอัตราดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ส่วนระยะเวลาผ่อนชำระนาน 25 ปี วงเงินให้กู้ไม่เกิน 85% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายบ้านพร้อมที่ดิน คิดจากราคาที่ต่ำกว่ากรณีไถ่ถอนวงเงิน ให้กู้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินบ้านพร้อมที่ดิน
"เราจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับนี้ไปได้ไม่นาน หลังจากนั้นเป็นไปได้ว่าจะปรับขึ้นตามราคาตลาด ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าจะขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพราะธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่เริ่มปรับขึ้นบ้างแล้ว นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้ามาใช้บริการถ้ามากก็ไม่สะท้อนกับตลาด ซึ่งจะช่วยให้คงอัตราดอกเบี้ยระดับนี้ไปได้อีก 2-3 เดือน นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสทองของลูกค้า ซึ่งตามหลักแล้วเราจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับนี้ไม่ได้" นายอนุชากล่าว
นอกจากการปล่อยสินเชื่อเคหะแล้ว บริษัทยังได้ปล่อยสินเชื่อให้โครงการธุรกิจเกี่ยวกับอาคารสำนักงานให้เช่า หรือที่พักอาศัยให้เช่า ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยเมื่อเร็วๆนี้ได้เจรจาปล่อยสินเชื่อใน 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการศูนย์การค้า ซึ่งปล่อยเช่ารวม 1,000 ล้านบาท สำหรับในปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อดังกล่าวประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท
|
|
 |
|
|