Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 มกราคม 2548
เคพีเอ็นฯนำร่องใช้กรีนชูเตรียมขายไอพีโอ17ม.ค.             
 


   
search resources

เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ, บมจ.
Auto Manufacturers




เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ หุ้นน้องใหม่ขนาดกลางตัวแรกนำระบบกรีนชูมาใช้จำนวน 3.3 ล้านหุ้น หวังสร้างความสนใจให้กับนักลงทุน เตรียมกระจาย 17-18 ม.ค. พร้อมเข้าเทรด 26 ม.ค.นี้ ด้านบล.เอเซียพลัสเตรียมเข็นหุ้นน้องใหม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15 บริษัท "เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ" นำร่องตัวแรก

นายเล็ก สิขรวิทย รองกรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟเปิดเผยว่าคณะกรรมการ บริษัทเคพีเอ็นได้มีมตินำระบบการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) โดยจะนำหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 3.3 ล้านหุ้น ในกรณีที่มีความต้องการซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนหุ้นสามัญใหม่ที่นำออกมาเสนอขายและถือเป็นบริษัทขนาดกลาง บริษัทแรกที่นำระบบกรีนชูมาใช้จำนวนหุ้นที่นำออกมาใช้กรีนชูนั้นส่งผลทำให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงไม่ถึง 1% เท่านั้น

ทั้งนี้ บริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 22.641 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 5 บาท โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 22.50 ล้านหุ้น และที่เหลืออีก 141,374 หุ้นจะจัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นได้ภายในวันที่ 17-18 มกราคมนี้ และคาดว่าหุ้นจะเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 26 มกราคม 2548 โดยหุ้นที่เสนอขายนั้นจะจัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันประมาณ 50-60% สาเหตุที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันจำนวนมากเพราะนักลงทุนสถาบันจะให้ความสนใจในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์

"การที่บริษัทเคพีเอ็นฯนำระบบกรีนชูมาใช้เพราะคาดว่าจะมีความต้องการของนักลงทุนจำนวนมากเหมือนกับหุ้นจองที่ผ่านมาซึ่งมีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองซื้อหลายเท่า ประกอบกับธุรกิจของบริษัทเคพีเอ็นจะเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีและการนำระบบกรีนชู มาใช้สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้แต่ถือว่าไม่ใช่เป็นปัจจัยหลักเป็นเพียงปัจจัยเสริมเท่านั้น" นายเล็กกล่าว

สำหรับราคาหุ้นนั้นจะไม่ใช้วิธีการสำรวจความต้องการจากนักลงทุนสถาบัน (บุ๊กบิลด์) แต่จะกำหนดราคาเลย โดยราคาจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุนที่จองซื้อและค่าพี/อีเรโชจะต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์โดยคาดว่าจะรู้ราคาที่แน่นอนภายในกลางสัปดาห์หน้า

นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ ประธานกรรมการปฏิบัติการบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักรชุดขึ้นรูปประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเพิ่มศักยภาพในการใช้โลหะเพื่อการผลิตชิ้นงานชุดขึ้นรูปจาก 1.5 หมื่นตันต่อปีเพิ่มเป็น 2 หมื่นตันต่อปี

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะซื้อเครื่องจักรด้านงานกลึงกัดไสประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อเสริมจุดแข็งของบริษัทและเพื่อเตรียมผลิตชิ้นงานให้กับลูกค้ารายใหม่คือ DANA Corporation ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่จากสหรัฐฯที่มีเครือข่ายทั่วโลกโดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 180 ล้านบาทในปีหน้า และบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มแฟรนไชส์ ร้านค้าเคพีเอ็นพลัส ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 55 สาขาในปีนี้จะเพิ่มเป็น 150 สาขาทั่วประเทศและในปี 2549 จะเพิ่มเป็น 250 สาขา

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2547 มีรายได้ 1,200 ล้านบาทซึ่งมากกว่าทั้งปีของปี 2546 ประมาณเกือบ 100% ดังนั้น จึงคาดว่าภายในปี 2548 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนโดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจใหม่คือร้านค้าเคพีเอ็น พลัส ซึ่งเริ่มสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

นายวันชัย คหะแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัทเคพีเอ็นออโตโมทีฟ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 15% และจำหน่ายในประเทศ 85% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 25% ในอนาคต เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกิจโดยจะเน้นตลาดในประเทศออสเตรเลียให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่จะส่งออกไปยังอเมริกาเหนือ, อังกฤษ และออสเตรเลีย

นอกจากนี้ นายเล็ก สิขรวิทย เปิดเผยว่าปัจจุบันนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 18 บริษัท ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15 บริษัทโดยมีบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟเป็นบริษัทแรกที่จะนำเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us