Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 มกราคม 2548
"ชาติศิริ"ย้ำขายหุ้นBHรายได้ไม่เข้าBBL             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ
โฮมเพจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
ชาติศิริ โสภณพนิช
Hospital
Banking




"บอสน้อย-ชาติศิริ" ย้ำโอนหุ้น BH ให้บบส. ธนาคารกรุงเทพไม่มีผลทางบัญชี ตลอดจนไม่ทำให้มีรายได้จากการขายเข้าในงบไตรมาส 4 ปีแต่อย่างใด เหตุผู้รับโอนเป็นบริษัทลูกของธนาคารกรุงเทพ

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง กรณีที่ธนาคารกรุงเทพได้รายงานการขายหุ้นบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ว่า ไม่ได้ทำให้ธนาคารกรุงเทพมีผลกำไรเข้ามาในไตรมาส 4 ปี 2547 แต่อย่างใด นอกจากนี้ในแง่บัญชีก็ไม่ได้ทำให้ผลบันทึกรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขายดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนมือไปให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด

นายชาติศิริ กล่าวอธิบายเหตุที่ไม่มีรายได้ดังกล่าวเข้ามาที่ธนาคารกรุงเทพก็เนื่องจากธนาคารได้โอนหุ้น BH ให้แก่บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ธนาคารจัดตั้งขึ้น โดยถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์รับโอนสินทรัพย์จากธนาคารเพื่อนำไปบริหารจัดการต่อไป จึงทำให้การโอนหุ้นดังกล่าวไม่มีผลเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์และความเสี่ยงของธนาคารที่มีต่อหุ้น BH แต่อย่างใด

ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ล่าสุดได้วิเคราะห์ว่าการโอนหุ้น BH ดังกล่าว ไม่มีผลต่อธนาคารกรุงเทพ

บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การขายหุ้น BH ของธนาคารกรุงเทพ ให้กับบริษัทในเครือครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของ BH และเหตุผลในการขายหุ้นของ BBL น่าจะมาจากการที่ธนาคารมีความจำเป็นต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินลงให้เหลือต่ำกว่า 10% ตามแผนแม่บทของธนาคารพาณิชย์

ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" BH โดยให้มูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานปี 2548 ที่ 20.60 บาทต่อหุ้น

บล.โกลเบล็ก แนะนำ "ซื้อ" หุ้น BH ราคาเป้าหมายที่ 22.7-23.7 บาท ทั้งนี้เชื่อว่า บริษัทยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวของลูกค้า โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มีสัดส่วน 50% และจากการที่ล้างขาดทุนสะสมได้ทำให้บริษัทเริ่มจ่ายปันผลระหว่างกาลแล้ว และคาดว่าทั้งปีเงินปันผลจะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3.1%

บทวิเคราะห์บล.บัวหลวง ให้ราคาเหมาะสมที่ 19.25 บาท โดยราคาดังกล่าว อ้างอิงตาม PE เป้าหมายที่ประเมินไว้ที่ 11.7 เท่าในปี 48 หากพิจารณาการขยายฐานลูกค้า ที่ผ่านมาค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติทั้งส่วน ที่อาศัยอยู่ในประเทศ และที่เดินทางเข้ามาเพื่อรับการรักษา ส่งผลให้รายได้ที่มาจากลูกค้าต่างชาติในปีนี้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ที่ประมาณเกือบ 40%

บทวิเคราะห์บล.ฟิลลิป แนะนำซื้อ BH ราคาเป้าหมายในปี 2548 อยู่ที่ 19.8 บาท ทั้งนี้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพิ่งดำเนินธุรกิจ โรงพยาบาลมาเพียง 2 ปี ซึ่งทางผู้บริหารให้ข้อมูลว่ายังมีผลขาดทุนอยู่ แต่คาดว่าจะเริ่มทำกำไรได้ในปี 2549 การประเมินราคาหุ้น อิง P/E ที่ 18 เท่า ซึ่งต่ำกว่าของราคาหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH ที่ 20 เท่า

บทวิเคราะห์บล.เคจีไอ มองราคาหุ้น BH เต็มมูลค่า หลังประกาศแผนซื้อหุ้นใน Asian Hospital International ที่ฟิลิปปินส์ โดยจะลงทุนทั้งหมด 370 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้น 42% และได้สิทธิ์ในการบริหาร นอกจากนี้ BH ยังมีแผนซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 51% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะไฟแนนซ์จากเงินสดหมุนเวียนในบริษัทเท่านั้น

ทั้งนี้ ได้มีการปรับราคาเป้าหมายของ BH ขึ้นมา 48% จาก 12.4 บ. เป็น 18.4 บาท อย่างไรก็ตามราคา BH เมื่อเทียบกับหุ้นโรงพยาบาลทั้งในประเทศและภูมิภาคจะพบว่าค่อนข้างแพง โดยขณะนี้เทรดที่ P/E ปี 47 ถึง 17 เท่า และจะเป็น 15 เท่าในปี 48 จึงมองหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us