|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
CPF เผยแผนปี 48 เน้นการทำธุรกิจแช่แข็ง โดยทุ่มทุนกว่า 1 พันล้านบาท ขยายกำลังการผลิตห้องเย็นรองรับปริมาณสินค้าที่จะผลิตและส่งออกเพิ่ม ตั้งเป้าปีหน้าส่งออกกุ้งไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นตัน คาดยอดขายปีหน้าสูงถึง 1 แสนล้านบาท แจงคลื่นยักษ์ถล่มภาคใต้ได้รับผลกระทบเล็กน้อย
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (CPF) เปิดเผยว่าปีหน้าบริษัทจะเน้นที่ธุรกิจแช่แข็งมากขึ้น เพื่อรองรับผลผลิตการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้น โดยบริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตของห้องเย็นมากขึ้นรองรับปริมาณสินค้า
โดยปี 48 CPF จะส่งออกกุ้ง 40,000 ตัน เพิ่มจากปีนี้ที่ส่งออก 12,000 ตัน ซึ่งห้องเย็นที่ขยายนั้นเป็นการเพิ่มมูลค่าของห้องเย็นจากเดิมที่มีอยู่ 3-4 แห่ง คาดว่าห้องเย็นในส่วนที่ขยายที่จังหวัดฉะเชิงเทรานั้น จะแล้วเสร็จและดำเนินการปลายปีหน้า
สำหรับแผนงานปีหน้า CPF จะเน้นไปบุกตลาดกุ้งขาวมากขึ้น เนื่องจากพบว่าความต้องการบริโภคกุ้งขาวในต่างประเทศได้รับการยอมรับมากขึ้น ที่สำคัญต้นทุนและปริมาณการเลี้ยงต่อหน่วยต่ำกว่าการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ แม้ว่าปัญหาการส่งออกที่ไทยได้รับผลจากการประกาศเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (anti-dumping) หรือ AD ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่บริษัทก็ได้แต่หวังว่ารัฐจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของ CPF ยังยืนยันว่าปริมาณการส่งออกกุ้งปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ ขณะที่กำลังการผลิตนั้นเพิ่มจาก 3 แสนตันในปีนี้เป็นกว่า 4 แสนตันในปีหน้า ขณะที่ผลการดำเนินงาน CPF คาดว่าปีหน้าจะมียอดขายถึง 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีประมาณ 9 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% แม้จะพบกับปัญหาที่เหมือนกับถูกเอาเปรียบทางด้านการจำหน่ายสินค้า แต่ CPF ยังทำธุรกิจและเติบโตได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ CPF ยังเน้นการวิจัยและพัฒนา ควบคู่ไปกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารทั้งไก่และกุ้ง ภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง ซึ่งล่าสุดที่บริษัทได้ร่วมทุนกับ บริษัท โยนิคิว คอร์ปอเรชั่น ตั้งบริษัท ซีพี-โยนิคิว จำกัด เพื่อทำธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ และตั้ง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ ฟู้ด (ยูเค) ที่อังกฤษ ทำธุรกิจห้องเย็นสำหรับผลิตสินค่าอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานแช่เย็น
ส่วนผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้นั้น บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ที่ได้รับผลกระทบบ้างคือที่จังหวัดพังงาได้รับผลกระทบเพียงประมาณ 3-5% เท่านั้น เพราะ CPF มีฟาร์มเลี้ยงลูกกุ้งที่จังหวัดพังงาด้วย
นายอดิเรกกล่าวถึงการใช้วัคซีนในไก่ไข่และไก่บ้าน ตามนโยบายของรัฐว่า ซึ่ง CPF ก็สนับสนุนมาตั้งแต่แรกและเห็นด้วยที่จะให้มีการใช้วัคซีน เพราะในประเทศจีนก็มีการใช้วัคซีนดังกล่าวมาแล้ว และพบว่าประชาชนจีนยังไม่มีใครเสียชีวิตจากไข้หวัดนก นอกจากนี้ ที่ฮ่องกงก็มีการบริโภคไก่กันตามปกติ และการส่งออกไก่ของ CPF จะไม่มีปัญหาไก่ส่งออก เพราะหากใช้วัคซีนก็ใช้เฉพาะ ไก่ไข่เท่านั้น ส่วนไก่เนื้อจะไม่มีการใช้วัคซีน
นอกจากนี้ CPF ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนด้านอาหารและการเลี้ยงสัตว์ไปยังประเทศที่มีศักยภาพและความพร้อม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสำรวจในหลายประเทศ และคาดว่าจะสรุปได้ในโอกาสต่อไป
|
|
|
|
|