"อินเตอร์ลิ้งค์" ปรับโครงสร้างธุรกิจ แยกเป็น 2 หน่วย ธุรกิจก่อนตั้งเป็นบริษัทลูก ประกาศขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมส่งสินค้าใหม่ลงตลาด และรุกงานประมูลภาครัฐ ตั้งเป้ารายได้รอบปี 48 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนรายได้รอบปีนี้โต 72%
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์รายใหญ่ในไทย เปิดเผยถึงนโยบายและทิศทางการดำเนินธุรกิจรอบปี 2548 ว่า อินเตอร์ลิ้งค์จะเน้นใน 5 เรื่องหลักคือ 1. รุกตลาดอย่างต่อเนื่องและรักษาความเป็นผู้นำตลาด 2. โฟกัสตลาดสายไฟเบอร์ออปติก เพราะแนวโน้มมีการจะนำเทคโนโลยีตัวนี้เข้ามาใช้แทนสายเคเบิลที่เป็นสายทองแดงเดิม และเป็นตลาดที่มีแนวโน้มโตสูง เนื่องจากเป็นตลาดใหม่
3. มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างองค์กร โดยเพิ่มธุรกิจวิศวกรรม เพื่อรับติดตั้งระบบสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และการสื่อสารทั้งในอาคารและนอกอาคาร, ออกแบบและให้คำปรึกษาระบบสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสารครบวงจร และจัดสาย เข้าสาย ทดสอบ ระบบสายสัญญาณของ ยูทีพีและไฟเบอร์ออปติก ซึ่งขณะนี้เริ่มได้งานเข้ามาแล้วคือ การรับเหมาติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกและสื่อสารในสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 136 ล้านบาท อีกหน่วยธุรกิจคือ การเป็นโซลูชัน โพรวายเดอร์ ซึ่งอินเตอร์เชื่อว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคต เพื่อให้บริการแบบครบวงจรใน 4 รูปแบบคือ บริการแบบครบวงจรด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร, บริการแบบครบจรด้านเครือข่ายและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, บริการครบวงจรด้านระบบงาน อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารและคอมพิวเตอร์ และบริการเอาต์ซอร์สซิ่ง สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีที
ทั้ง 2 หน่วยธุรกิจนี้มีการแยกทีมบริหารงานอย่างชัดเจน และหากผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ อินเตอร์ลิ้งค์มีแผนจะจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด ในเครืออินเตอร์ลิ้งค์ต่อไป
4. มุ่งเน้นขยายตลาดในต่างจังหวัดและต่างประเทศภูมิภาคอินโดจีน โดยมีแผนจะจัดทำโครงการโรดโชว์ 7 จังหวัด 4 ภาค 2 ประเทศ และขณะนี้เริ่มรุกเข้าไปในเวียดนามและลาวแล้ว ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนจะรุกเข้าไปในประเทศพม่าและกัมพูชาด้วย
5. จะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดคือ เดอะ เบสต์ ควอลิตี้ แรกค์ ตู้ใส่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาด 19 นิ้ว เพื่อรับรองความต้องการในตลาดระดับล่าง และสายอัจฉริยะ ที่จะเข้ามาแทนที่สายโทรศัพท์ หรือสายคอมพิวเตอร์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งเป็นสายโทรศัพท์ สายคอมพิวเตอร์ และสายทีวีได้ด้วย ซึ่งอินเตอร์ลิ้งค์ตั้งเป้าไว้ว่าจะเข้ากินส่วนแบ่งตลาดได้ ประมาณ 10% จากมูลค่ารวมที่ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท
เป้าหมายของอินเตอร์ลิ้งค์รอบปี 2548 คือ 1. ต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจข่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสารโทรคมนาคม 2. เป็นผู้นำในตลาดสายไฟเบอร์ออปติก 3. เป็นบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ในธุรกิจไอซีที และ มีแผนจะเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐ เนื่องจากรัฐบาลมีหลายโครงการเกี่ยวกับไอซีที
ส่วนเป้าหมายด้านยอดขายอินเตอร์ลิ้งค์คาดหวังไว้ว่า จะมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และทำให้ธุรกิจจัดจำหน่ายโตขึ้น 45% ธุรกิจวิศวกรรมโต 200% และธุรกิจโซลูชัน โพรวายเดอร์โต 285% ที่ 2 หน่วยธุรกิจที่มีแนวโน้มโตสูงเพราะเป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่ม
สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2547 อินเตอร์ลิ้งค์มียอดขายเพิ่มขึ้น จากปี 2546 จำนวน 72.60% คิดเป็นกำไร 587.60%
นายสมบัติกล่าวว่า จุดแข็งที่ทำให้อินเตอร์ลิ้งค์มีผลประกอบการที่ดีคือ 1. เป็นผู้นำในธุรกิจสายสัญญาณคอมพิวเตอร์เตอร์และสื่อสารในไทย 2. เป็นเอเยนต์สินค้าที่มีชื่อเสียงของโลก 3. มีความหลากหลายของสินค้า และ 4. มีบุคลากรและทีมงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ 5. ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 15 ปี และเป็นที่ยอมรับของตลาด 6. มีธุรกิจเสริมที่กำลังมีโอกาสขยายตัว
พร้อมกันนี้ อินเตอร์ลิ้งค์ได้โชว์ถึงส่วนแบ่งรายได้ของตลาดขายส่งสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบปี 2547 ให้ได้เห็น ว่า อินเตอร์ลิ้งค์มีส่วนแบ่งสูงสุดคือ 44% คิดเป็นมูลค่า 376.80 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 864.24 ล้านบาท อันดับสองคือซินเน็ค 12% คิดเป็น มูลค่า 103.20 ล้านบาท การที่ทำให้ อินเตอร์ลิ้งค์เป็นผู้นำตลาดได้ในช่วง ที่ผ่านมาคือการเน้นสินค้าคุณภาพ ราคาถูกกว่า บริการที่ดีกว่า และเน้นการขายผ่านคู่ค้าที่มีอยู่ประมาณ 2,000 ราย เป็นหลัก
|