Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2548
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการใช้จ่าย             
โดย น้ำค้าง ไชยพุฒ
 


   
www resources

โฮมเพจ ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น
โฮมเพจ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด - SF Cinema City

   
search resources

เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้, บจก.
ไทยสมาร์ท คาร์ด, บจก.
เฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์




ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ ลูกค้าของร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั้ง 3,000 สาขา และโรงภาพยนตร์ทุกแห่งของ SF ไม่จำเป็นต้องพกพาเงินสดติดตัว ขอเพียงมีบัตร Smart Purse ใบเดียว ก็สามารถซื้อสินค้าและตัวหนังได้อย่างสะดวกสบาย และไม่ต้องต่อคิว

SF Cinema City ถือเป็นลูกค้ารายแรกของบริษัทไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ที่ยอมควักเงินลงทุนหลายสิบล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบซอฟต์แวร์หลังบ้าน ในการรองรับระบบการชำระเงินด้วยบัตร "Smart Purse" หลังไทยสมาร์ทคาร์ดประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในการใช้จ่ายเงินนับจากนี้ไป

บัตร Smart Purse ถือเป็นเทคโน โลยีล่าสุดที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมการชำระเงินค่าตั๋วภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ของ SF รวมถึงธุรกิจในเครืออย่าง Music City และ โบว์ลิ่ง จากเดิมที่เป็นการชำระด้วยเงินสดและบัตรเครดิต มาเป็นการชำระด้วยบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ contactless

ด้วยเทคโนโลยีของบัตรแบบใหม่นี้ ลูกค้าของ SF เพียงแต่ซื้อบัตร Smart Purse ในราคาบัตรละ 250 บาทจากร้านค้า เซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขา พร้อมเติมเงินสด เข้าไปในบัตรขั้นต่ำ 100 บาทไปจนถึง 10,000 บาท และสามารถนำมาเป็นบัตรที่จะชำระเงินได้ตลอดระยะเวลา 3 ปี ของอายุบัตร โดยผ่านการสัมผัสกับเครื่องอ่านโดยใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

จุดเด่นของการใช้บัตรแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสะดวกในการจ่ายเงิน ที่ผู้ใช้ไม่ต้องพกพาเงินสดไว้ในกระเป๋าเมื่อไปซื้อตั๋วหนัง แต่อยู่ที่การซื้อตั๋วได้เองผ่านทางตู้คีออสหน้าโรงภาพยนตร์ในเครือทั้งหมดที่รับเฉพาะบัตร Smart Purse โดยไม่ต้องไปยืนต่อแถวที่หน้าเคาน์เตอร์เหมือนที่ผ่านมา พร้อมๆ กับสามารถใช้บัตรนี้ในการซื้อสินค้าหรือจ่ายค่าบริการ อุปโภคและ บริโภคที่ร้านเซเว่นฯ ทุกสาขาในประเทศ

ไทยสมาร์ทคาร์ดเองยังอาศัยจุดเด่น ในความสะดวกของการใช้บัตรดังกล่าว ประกอบเข้ากับการใช้จ่ายเงินสดของคนทั่วประเทศในแต่ละปีที่คิดเป็นร้อยละ 80 ของระบบการใช้จ่ายเงินทั้งหมด เพื่อเตรียม ที่จะจับมือพันธมิตรอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งพันธมิตรประเภทร้านหนังสือ, ร้านอาหารจานด่วน, ร้านขนม, ร้านกาแฟ, สถานบันเทิง, ระบบขนส่ง และอื่นๆ เพื่อผนวกรวมการใช้บริการร่วมกัน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ในแง่ของการสะสมแต้ม ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จในการกระตุ้นให้คนหันมาใช้จ่ายกันมากขึ้น ที่หลายๆ ประเทศ ทั้งสิงคโปร์, ฮ่องกง, ไต้หวัน หรือมาเลเซีย ได้ยืนยันไปแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ไทยสมาร์ทคาร์ดคาดหวังว่า พันธมิตรทั้งหมดที่จะเข้ามาร่วมในการใช้ Smart Purse กับระบบการชำระค่าใช้จ่าย สินค้าและบริการของตนจะทำให้ปีนี้ บัตรแบบนี้มีมากถึง 2 ล้านใบทั่วประเทศ และรูปแบบของการใช้จ่ายเงินสดด้วยบัตรแบบนี้ยังจะขยายไปสู่บัตรเอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรของไทยสมาร์ทคาร์ดด้วย

นั่นหมายถึงว่าในอนาคตอันใกล้ บัตรเอทีเอ็มที่เคยเป็นแถบแม่เหล็ก เพิ่งเปลี่ยนมาเป็นแบบฝังชิปหรือสมาร์ทการ์ด ที่รวมความสามารถของการเป็นบัตรกดเงิน ตามตู้เอทีเอ็มและเป็นบัตรเดบิตในตัว จะถูกพ่วงเอาการผูกเงินสดที่เติมเงิน ได้ผ่านเคาน์เตอร์ของเซเว่นฯ ได้ด้วย

เฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์ Chief Commer-cial Officer ของไทยสมาร์ทคาร์ดไม่ปฏิเสธว่า ท้ายที่สุดแล้ว บัตรแบบนี้จะทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับค่าใช้จ่ายรายปีที่เพิ่มขึ้นจากการเลือกใช้บัตรแบบนี้ของธนาคาร เพราะปัญหาด้านต้นทุนในการผลิตบัตร ซึ่งรวมเอาทั้งแถบแม่เหล็กและชิปเอาไว้ด้วยกัน ในกรณีที่กดเอทีเอ็ม ซึ่งใช้แถบแม่เหล็กและใช้สัมผัสกับตัวเครื่องอ่าน Smart Purse ซึ่งเป็นเทคโนโลยี contactless ที่แพงกว่าบัตรสมาร์ทการ์ดปกติ หรือบัตรแถบแม่เหล็กธรรมดา

ไทยสมาร์ทคาร์ดยังมองเห็นลู่ทางในการสร้างรายได้จากการขยายฐานการเติมเงินจากเดิมที่เติมได้เฉพาะหน้าเคาน์เตอร์ของเซเว่นฯ ทุกสาขา มาเป็นการ เติมเงินได้จากตู้เอทีเอ็มทุกตู้ของธนาคารที่เป็นพันธมิตร ทุกร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Smart Purse ผ่านโทรศัพท์มือถือ และการ พัฒนาตัวเครื่องที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน ทางเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อวางขาย ทำให้ลูกค้าสามารถเติมเงินได้ทุกที่ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตเข้าถึง

แม้จะมีจุดเด่นในแง่ความสะดวกและการที่มีธนาคารเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ตลาด Smart Purse อาจจะเติบโตอย่าง มากในอนาคต แต่ประเด็นความปลอดภัยในการใช้บัตรก็กลายมาเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ ผู้บริโภคหลายรายลังเลอยู่ว่าจะใช้บริการเทคโนโลยีนี้หรือไม่ เพราะหากบัตรหาย ก็เหมือนกับเงินหายไปด้วยไม่ต่างอะไรกับเงินสดในกระเป๋าหาย

"อย่างไรเสียเทคโนโลยีแบบนี้ก็จะมาถึง จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ยิ่งกว่านั้นวิถีการใช้ชีวิตของคนก็เปลี่ยนไปทางไหนที่สร้างความสะดวก ผมเชื่อว่าผู้บริโภคก็จะมักจะเลือก หากว่าไม่ยากเกินไปที่จะหยิบมาใช้ ผมจึงเชื่อว่าในอนาคต Smart Purse จะ success แน่นอน" สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ President ของ SF Cinema City กล่าวไว้ในวันแถลงข่าวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us