องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยขีดเส้นตายให้ดีแทคจ่ายค่าเชื่อมสัญญาณค้างจ่ายกว่า
1.52 พันล้านบาทภายในสิ้น เม.ย. ก่อน ทศท.ตัดการเชื่อมสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
1800 MHz ฝ่ายบุญชัยร่อนจดหมายยันไม่จ่ายแน่ เตรียมเรียกหารือทุกฝ่ายหาข้อยุติสัปดาห์หน้า
ขณะที่ ทีเอ ออเร้นจ์ร่อนสารยันจ่ายค่าเชื่อม 1 ล้านเลขหมายแน่ ส่วนสหภาพ
ทศท.เคลื่อนไหวค้านรวมกับ กสท. เพราะเชื่อ ทศท.เสียประโยชน์ ขณะที่ศุภชัยยันควบรวม
ทศท.-กสท.เดินหน้าต่อแน่
นายศุภชัย พิศิษฐ์วานิช ประธานกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย กล่าวว่ากรณีดีแทคค้างจ่ายค่าสัมปทานค่าบริการกว่า
1.52 พันล้านบาทกับ ทศท. ขณะนี้ดีแทคยื่นเอกสารว่าจะไม่จ่ายค่าบริการจำนวนนี้แน่
ทศท.จะยกเลิกสัมปทาน โดยกำหนดระยะเวลาให้บริการถึงสิ้น เม.ย.เท่านั้น
ทางด้านนายสุธรรม มะลิลา ผู้อำนวยการ ทศท.กล่าวหลังประชุมบอร์ด ทศท.ว่า คณะกรรมการมีมติว่า
ภายในสัปดาห์หน้า จะเชิญนายบุญชัย เบญจรงคกุล ผู้บริการบริษัท โทเทิ่ล แอคเซส
คอมมูนิเกชั่น หรือดีแทค พร้อมนายธีรพงษ์ สุทธินนท์ ผู้ว่าการการสื่อสารแห่งประเทศไทย
(กสท.) หารือกับบอร์ด ทศท. เพื่อหาข้อสรุป ที่ดีแทคไม่จ่ายค่าสัมปทานกว่า
4 เดือนแล้ว ตั้งแต่ 17 พ.ย.2544
เสียหายเฉลี่ยเดือนละ 380 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อยุติเป็นทางการภายใน 28
เม.ย.นี้ หากดีแทคไม่จ่ายค่าสัมปทาน ผุ้ใช้บริการจะได้รับผลกระทบ ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายนี้
ติดต่อกับโทรศัพท์นอกระบบ 1800 MHz ได้ ขณะที่ฝ่ายกฎหมาย ทศท. ตีความแล้วให้ดีแทคต้องจ่ายค่าสัมปทานที่คิดค้างให้
ทศท.ทั้งหมด
ขณะที่ส่วนทีเอ ออเร้นจ์ 1 ล้านเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่มีปัญหา เพราะบริษัททำหนังสือถึงทศท.ยืนยันจะจ่ายค่าเชื่อมต่อเลขหมายให้
ทศท.แน่
ขณะเดียวกันนายพรชัย มีมาก รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ทศท.ยื่นเอกสารเรียกร้องให้ยืดเวลารวม
ทศท.-กสท. โดยรวบรวมรายชื่อพนักงาน ทศท.ตั้งแต่ระดับผู้บริหารถึงระดับล่าง
ให้นายศุภชัย ให้เหตุผลว่า สหภาพฯ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายควบรวมกิจการ
เพราะจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทศท.เตรียมพร้อมแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเกือบสมบูรณ์แล้ว
รอเพียงวันจดทะเบียน ขณะนี้ ทศท.ยังเป็นรัฐวิสาหกิจ สมควรให้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน
และระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ก่อน
ทศท.สูญเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลกว่า 1 พันล้านบาทเตรียมการตั้งบริษัท และนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งพร้อมเข้าเดือนนี้
การรวม ทศท.และ กสท.ขณะนี้ ทำให้ต้องเริ่มกระบวนการทำงานใหม่หมด สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายมาก
จะส่งผลให้มูลค่าหุ้น ทศท.ลดลง เพราะ กสท.มูลค่าต่ำกว่า อีกทั้งการตั้งบริษัทกลาง
บริหารสัญญาสัมปทาน ทศท.และ กสท. ยังมีประเด็นปัญหาในรายละเอียดอีกมาก หากไม่ดำเนินการรอบคอบ
อาจเกิดปัญหาเสียเปรียบภาคเอกชนที่เกียวข้อง
บริษัทคู่สัญญาอาจถือเป็นข้ออ้างไม่จ่ายผลประโยชน์ หรือยกเลิกสัญญา เกิดความสูยเสียมหาศาล
เช่นที่เกิดกับองค์กรหลายแห่งขณะนี้
นายศุภชัยกล่าวว่าจะนำเรื่องการคัดค้านนี้ เสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป
การทำงานทุกอย่างต้องมีขั้นตอน ต้องหาบทสรุปการรวม ทศท.-กสท.ต่อไป เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อองค์การมากที่สุด
แต่ในที่สุดต้องมีการรวมกันระหว่าง ทศท-กสท.แน่นอน