CPN เตรียมตั้งกองทุนกองทุน "พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ฟอร์พลับบลิค ออฟเฟอร์ริ่ง" ปี 48 คาดได้เงินประมาณ 5 พันล้านบาท โดยเงินส่วนหนึ่งเพื่อนำไปสร้างสาขาอีก 2 แห่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 48 โกยอีก 7 พันล้านบาท หรือโตขึ้นจากปี 47 กว่า 10% พร้อมปรับปรุงระยะเวลาการเช่าใหม่หวังโกยรายได้ค่าเช่าที่เพิ่ม
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN) เปิดเผยว่า ในปี 48 CPN จะใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท บริษัทคาดว่าจะระดมทุนผ่านการตั้งกองทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ฟอร์พลับบลิค ออฟเฟอร์ริ่ง (PFPO) ซึ่งการระดมทุนครั้งแรกจะมีขนาดของกองทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และ CPN จะเข้าถือหุ้นในกองทุนดังกล่าวสัดส่วน 1 ใน 3 ซึ่งคาดว่าจะได้เงินจากการระดมทุนดังกล่าวประมาณ 4-5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะใช้เงิน 3,300 ล้านบาทเข้าไปถือหุ้น ส่วนเงินที่จะใช้ลงทุนอีก 2 พันล้านบาทนั้นจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท
สำหรับกองทุนกองทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ฟอร์พลับบลิก ออฟเฟอร์ริ่ง จะนำออกขายสู่ประชาชน 40% ส่วนอีก 60% จะถือหุ้นโดย CPN สถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในหมวดอสังหาริมทรัพย์ ส่วนหน่วยลงทุนที่จะขายนั้นขณะนี้ยังไม่ทราบราคาแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่าง 1-10 บาท
ซึ่งการดำเนินการจัดตั้งกองทุนนี้ คาดว่าจะสรุปผลได้เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 48 ในอนาคตหากมีความต้องการใช้เงินเพื่อขยายธุรกิจ CPN ก็จะเพิ่มขนาดของกองทุนดังกล่าวเพื่อเพิ่มจำนวนเงินให้ได้ตามความต้องการ
สำหรับรายได้ปี 48 คาดว่าจะมีรายได้กว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 47 ที่ CPN คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยปกติของบริษัทกว่า 10%
โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการเปิดศูนย์การค้าที่รัตนาธิเบศร์ และค่าเช่าพื้นที่ที่จะมีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5-10% ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง โดยขณะนี้อัตราการให้เช่าพื้นที่ 30-35% เป็นแบบเช่าระยะยาว 20 ปี ส่วน 70% เป็นสัญญาเช่าระยะสั้น 3 ปี ซึ่งในอนาคต CPN พยายามที่จะปรับเปลี่ยนให้มีสัดส่วนการเช่าระยะยาว 20 ปี สัดส่วนน้อยลงที่ 20% ซึ่งเชื่อว่าช่วยเพิ่มรายได้ทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ในปี 48 บริษัทคาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 6,455 ล้านบาท โดย CPN จะขายสินทรัพย์ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 และห้างเซ็นทรัลพระราม 3 ซึ่งจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงทั้ง 2 แห่ง
เนื่องจากบริษัทต้องการเงินทุนเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการก่อสร้างศูนย์การค้าสาขาที่ 14 และ 15 จำนวน 1,700 ล้านบาท
|