Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 ธันวาคม 2547
"ฟินันซ่า"ออกตั๋วบีอีระดม2พันล้านยัน"N-PARK"ไม่ถือหุ้นไม่มีปัญหา             
 


   
www resources

โฮมเพจ แนเชอรัล พาร์ค
โฮมเพจ ฟินันซ่า

   
search resources

แนเชอรัล พาร์ค, บมจ.
ฟินันซ่า, บมจ.
ชาลี โสภณพนิช
Bond




ฟินันซ่าระดมทุนออกตั๋ว B/E 2 พันล้าน ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าพันธบัตรรัฐ 1.5-1.75% ก่อนระดมอีกระลอก 4 พันล้านบาท มี FMO การันตี 25% เผยแผนปีหน้าขยายธุรกิจบล.-กองทุนต่างชาติ เตรียมปรับสัดส่วนลงทุนสินทรัพย์ในไทยเพิ่มต่างประเทศ 50:50 คาดบล.โกยกำไรปีนี้ 200-250 ล้านบาท ส่วนวาณิชฯดัน 10 บริษัทเข้าตลท. ด้าน บง.ฟินันซ่าไม่ได้แบงก์ก็ไม่เป็นไรเพราะที่ผ่าน มาลงทุนไปมากแต่กำไรน้อย พร้อมยืนยันหาก N-PARK ยุคใหม่ขายทิ้งหุ้นที่ไม่เกี่ยวกับอสังหาฯก็ไม่มีปัญหา

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS กล่าวว่า ในช่วงต้นปีหน้าบริษัทวางแผนระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้ระยะสั้น โดยเตรียมออกตั๋ว B/E วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังแผนที่จะเตรียมออกตั๋ว B/E วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท หลังจากที่บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อที่ระดับ BBB โดยในส่วนของตั๋ว B/E วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท จะได้รับประกันตรา สารทางการเงินโดยบริษัท Nederlandse Financierungs-maatschappijvoor Ontiwikkelingsladen N.V. หรือ FMO ซึ่งเป็นหน่วยงานด้าน ธุรกรรมการเงินของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จำนวน 1,000 ล้านบาท หรือ 25% ของการออกตราสาร

ทั้งนี้ จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี แต่สามารถเจรจาต่อสัญญาเพิ่มได้อีก 2 ปี ซึ่งสัญญาดังกล่าว จะประกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับเงินต้นหรือดอกเบี้ยของตราสารทางการเงิน

B/E 2 พันล.ขายใน-ตปท.

สำหรับตั๋ว B/E ที่จะออกในช่วงต้นปี 2548 ซึ่งจะระดมทุนจากทั้งในและต่างประเทศนั้นจะยังไม่มีการการันตีเงินต้น โดยจะกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 1.50-1.75% ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จากการออกตั๋วประมาณ 500-600 ล้านบาท จะนำมาใช้ชำระหนี้ให้บริษัทในเครืออีกประมาณ 1,000 ล้านบาทและเป็นเงินทุนในบริษัทในเครือ

นายวรสิทธิ์ ยังกล่าวถึง B/E ที่จะออกโดยได้การรับประกันจาก FMO นั้นเงินที่ได้บริษัทจะนำไปรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม รวมถึงการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทที่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ที่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคาร โดยที่ผ่านมารายได้ในส่วนดังกล่าวสูงเกือบ 20% ทั้งนี้ระยะเวลาของตั๋ว B/E จะอยู่ในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฟินันซ่า FNS มีทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท ทรัพย์สินโดยประมาณ 10,000 ล้านบาทและหนี้สิน 7,000 ล้านบาท ด้านสินทรัพย์ปัจจุบันของบริษัทอยู่ในประมาณ 75% ของจำนวนสินทรัพย์ 10,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 25% เป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในต่างประเทศ โดยในอนาคตอีก 3-5 ปี บริษัทจะพยายามกระจายสินทรัพย์ในต่างประเทศและในประเทศให้มีสัดส่วนเท่ากันประมาณ 50 : 50

ส่วนหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากประเทศไทยความเสี่ยงมาจากทั้งด้านตลาดทุนรวมถึงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจในประเทศ

ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปร่วมลงทุนกับกองทุนเอเชีย เดฟ ฟันด์ ในประเทศสิงคโปร์ จากต้นปีที่ผ่านมามีเงินกองทุนดังกล่าวมีเงินทุนประมาณ 22 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะขึ้นไปที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และสิ้นปี 48 จะมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

"ปีหน้าบริษัทจะไปลงทุนในกองทุนของประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ทั้งนี้ในช่วงแรกบริษัทฟินันซ่าเข้าไปลงทุนในกองทุนดังกล่าวประมาณ 16 ล้านเหรียญแต่ปัจจุบัน เหลืออยู่ประมาณ 12 ล้านเหรียญ"

รายได้หลักโบรกฯพุ่ง 25%

นายวรสิทธิ์ ยังกล่าวว่า ในส่วนของบริษัทในเครือในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์มีกำไรประมาณ 200 ล้านบาท กลุ่มกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศมีกำไรประมาณ 176 ล้านบาท และกลุ่มบริษัทเงินทุนมีกำไรประมาณ 31 ล้านบาท โดยรายได้หลักของบริษัทจะอยู่ที่บริษัทหลักทรัพย์และกลุ่มกองทุนในต่างประเทศ

ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท กำไร 200-250 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่รายได้และกำไรปี 2547 ใกล้เคียงกับปี 2546 เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของบริษัทก็สามารถรักษาระดับมูลค่าการซื้อขายของบริษัทได้

นอกจากนี้มาร์เกตแชร์ของบริษัทที่ปรับขึ้นโดยต้นปีอยู่ที่ระดับประมาณ 1% ปรับขึ้นมาเป็นที่ระดับ 3% กว่าในปัจจุบัน โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาระดับมาร์เกตแชร์ให้คงระดับดังกล่าว ในส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจปีนี้ปรับลดลงไป 25% เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อกับการเข้าจดทะเบียน ทำให้บริษัทจดทะเบียนหลายๆ บริษัทเลื่อนการเข้าจดทะเบียนออกไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทจดทะเบียนที่บล.ฟินันซ่าเป็นที่ปรึกษารวมถึงเป็นแกนนำและร่วมจัดจำหน่าย 6 บริษัทราคาก็ปรับตัวขึ้นเหนือราคาจองได้ทั้งหมด

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบล.ฟินันซ่ามาจากธุรกิจหลักทรัพย์ประมาณ 65% และอีก 35% เป็นรายได้จากงานวาณิชธนกิจ สำหรับปี 2548 คาดว่าสัดส่วนรายได้จะใกล้เคียงกับปีนี้

ด้านแผนงานในส่วนของงานธุรกิจวาณิชธนกิจในปี 2548 บริษัทเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียน 4-5 บริษัท และอยู่ระหว่างการเจรจาอีก 4-5 บริษัท โดยคาดว่าในปีหน้าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนทั้งสิ้นประมาณ 10 บริษัท มูลค่าการระดมทุนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 400-2,000 ล้านบาท

N-PARK บริหารคงเดิม

ส่วน กรณีที่ นายชาลี โสภณพนิช กลุ่มซิตี้เรียลตี้ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ในด้านการบริหารงานมากนัก เพราะที่ผ่านมานายชาลี เคยเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทฟินันซ่าผ่านทางหลักทรัพย์ เอเซีย มาแล้ว

"กรณีการเข้าถือหุ้นดังกล่าวของกลุ่มซิตี้เรียลตี้ ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ส่งผลอะไรกับบริษัทฯเพราะก่อนหน้านี้นายชาลี เคยถือหุ้นของ FNS มาแล้ว และโดยส่วนตัวผมกับคุณชาลีก็รู้จักกันมาก่อน แต่เรื่องดีลครั้งนี้ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด" นายวรสิทธิ์ กล่าว

นายวรสิทธิ์กล่าวว่า ต่อไป N-PARK คงจะมีการเน้นขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ทั้งนี้หาก N-PARK กับกลุ่มใหม่จะมีการขายหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือขายหุ้น FNS ออกมาก็ไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทเตรียมแนวทางแก้ไขไว้แล้ว

เรื่องแบงก์ยังไม่ชัดเจน

ด้านความคืบหน้ายกระดับ บง.ฟินันซ่า ขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งยังไม่ได้คำตอบว่าสามารถดำเนินงานต่อไปได้หรือไม่ แต่ในส่วนของบง.บีฟิท จะควบรวมกิจการก็ต่อเมื่อได้รับการยกระดับขึ้นเป็นธนาคาร

"ปัจจุบันธุรกิจ บง.ตอนนี้ไม่ได้ทำรายได้ให้บริษัทมาก ถ้าแบงก์ชาติคิดว่า บง.ฟินันซ่า ไม่เหมาะสมที่จะเป็นแบงก์ ผู้บริหารคงจะเข้าไป เจรจากับ ธปท.และสอบถามว่า ธปท. มีนโยบายสำหรับธุรกิจ บง. อย่างไร ซึ่งบริษัทพร้อมจะดำเนินงานตามแผนแม่บทของสถาบันการ เงินของธปท.อยู่แล้ว" นายวรสิทธิ์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มการควบรวมกิจการในปีหน้าน่าจะมีมากขึ้น เนื่องจากหลายธุรกิจต้องการการขยายตัว และลดการแข่งขัน เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจรุ่นใหญ่เข้ามาได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากมีการควบรวมจะเป็นเรื่องของบุคลากรมากกว่า สำหรับข้อสังเกตว่าหากการยกระดับของบง.ฟินันซ่าเป็นแบงก์ไม่ผ่านเกณฑ์ของธปท.นั้น การควบรวมกิจการกับบง.สินเอเซีย ที่เป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ เรื่องดังกล่าวไม่มีความเป็นไปได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us