Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 ธันวาคม 2547
สยามแก๊สฮุบยูนิคแก๊สจ่อคิวเข้าตลาดฯปีหน้า             
 


   
search resources

ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิกัล - UGP
Energy
อุตสาหกรรมแก๊สสยาม, บจก.




กลุ่มสยามแก๊สทุ่มเงิน 2,170 ล้านบาท เทกโอเวอร์ยูนิคแก๊สฯ ก้าวสู่ผู้นำการจัดจำหน่ายแก๊สหุงต้มรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เบียดแซงปิคนิคแก๊สฯ ตกไปอันดับ 3 ประกาศปีหน้า จะทุ่มเงินอีก 1,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจแก๊สและแอมโมเนียในไทย รวมทั้งบุกตลาดแก๊สในจีนและเวียดนามเพิ่มเติม พร้อมทั้งจ่อคิวเข้าตลาดหุ้นในไตรมาส 2-3 ของปี 48 โดยจะขายหุ้นไอพีโอ 25 ล้านหุ้น

วานนี้ (21 ธ.ค.) บริษัทอุตสาหกรรมแก๊สสยาม จำกัด ได้ลงนามสัญญาซื้อกิจการบริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายแก๊สหุงต้มรายใหญ่ของไทย คิดเป็นเงิน 2,170 ล้านบาท โดยได้มีการชำระเงินค่าหุ้นเต็มวงเงินแล้ว ซึ่งแหล่งเงินมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่เหลือมาจากเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ

นายวรวิทย์ วีรบวรพงษ์ ประธานกรรมการกลุ่มสยามแก๊ส เปิดเผยว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ส่งผลให้กลุ่มสยามแก๊ส ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายแก๊สหุงต้มรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากบมจ.ปตท. ด้วยยอดขายประมาณ 5.7 หมื่นตัน/เดือน จากตลาดรวมแก๊สหุงต้มอยู่ที่ 2.2 แสนตัน/เดือน ซึ่งเบียดแซงปิคนิคแก๊สฯอย่างเฉียดฉิว โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% ขณะที่ปตท.และปิคนิคแก๊สมีส่วนแบ่งตลาด 45% และ 21% ตามลำดับ

"เราเล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจนี้ โดยมีเป้าหมายความเป็นหนึ่งในธุรกิจแก๊สของไทย จึงได้รับความไว้วางใจจากยูนิคแก๊สฯ ให้เข้ารับช่วงกิจการ ทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งบริษัทได้มีการเจรจาซื้อกิจการยูนิคแก๊สฯประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา"

ภายหลังการเข้าซื้อกิจการยูนิคแก๊สฯ จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาทในปีนี้ และปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 11,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ขณะที่กำไรจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยปีนี้จะมีกำไรประมาณ 300-400 ล้านบาท และปีถัดไปคาดว่าจะมีกำไรสูงถึง 600 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากธุรกิจแอมโมเนียเข้ามา ซึ่งเป็นธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ยูนิคแก๊สฯดำเนินการอยู่ โดยธุรกิจนี้จะมีมาร์จิ้นสูงถึง 25% ขณะที่แก๊สหุงต้มมีมาร์จิ้นเพียง 10% เท่านั้น

"ปีนี้คาดว่ายอดขายแก๊สหุงต้มอยู่ที่ 6 แสนกว่าตัน และคาดว่าปีหน้าจะโตขึ้นอีก 10% แตะที่ 7 แสนกว่าตัน ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมแก๊สที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 3-5% เท่านั้น"

นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯยังมีแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯประมาณไตรมาส 2-3 ของปี 2548 โดยจะมีการเพิ่มทุนจากเดิมที่มีทุนจดทะเบียนอยู่ 600 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะเพิ่มทุนอีก 250 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 25 ล้านหุ้น เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) โดยเงินที่ได้จากการเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้จะนำไปใช้ในการขยายกิจการทั้งแก๊สและแอมโมเนีย รวมทั้งบริษัทมีแผนจะเข้าไปลงทุนในจีนและเวียดนามเพิ่มเติมด้วย

ในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งสยามแก๊สจะเข้าไปซื้อโรงบรรจุแก๊ส และท่าเทียบเรือที่ซัวเถา และกวางเจา ประเทศจีน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10-12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 400-500 ล้านบาท รวมทั้งจะเข้าไปขยายธุรกิจแก๊สหุงต้มในเวียดนาม หลังจากยูนิคแก๊สฯได้เข้าไปร่วมทุนกับเอ็กซอนโมบิล ทำธุรกิจแก๊สหุงต้มในเวียดนาม หลังจากปีที่ผ่านมาได้ชะลอการดำเนินงานไปชั่วคราว

นอกจากนี้ บริษัทจะขยายโรงบรรจุแก๊สเพิ่มเติมในบางจังหวัด และขยายธุรกิจแอมโมเนีย ซึ่งอาจจะมีการซื้อเรือเพิ่มเติม โดยขณะนี้บริษัทมีเรืออยู่ 10 กว่าลำ และรถขนส่งแก๊สอีก 500 คัน

ปัจจุบันธุรกิจแก๊สหุงต้มในไทยมีการแข่งขันเพียงไม่กี่ราย คือ ปตท. สยามแก๊ส ปิคนิคแก๊ส และแสงทอง ในขณะที่เอสโซ่และคาลเท็กซ์ ได้หวนคืนตลาดก๊าซหุงต้มเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมและถังก๊าซขนาดใหญ่เท่านั้น ภายหลังจากบริษัทฯเข้าไปบริหารงานในยูนิคแก๊สฯ การทำตลาดยังคงจำหน่ายแก๊ส 2 แบรนด์เช่นเดิมทั้งสยามแก๊สและยูนิคแก๊ส โดยบริษัทมีคลังแก๊สอยู่ที่ลำปาง นครสวรรค์ ขอนแก่น กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี และฉะเชิงเทรา

"แม้รัฐบาลจะลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มในปีหน้า แต่เชื่อว่าต่างชาติคงจะเข้ามาแข่งขันในตลาดเมืองไทยลำบากเพราะรายเดิมที่อยู่ล้วนเป็นรายใหญ่ และการขยายตลาดต้องลงทุนเรื่องถังก๊าซอีกมาก ซึ่งหากเปิดเสรีจริง ๆ บริษัทจะแข่งขันได้อย่างไร้ปัญหา เพราะมีทั้งกองเรือ และรถขนส่งก๊าซ ซึ่งบริษัทก็พร้อมจะนำเข้าก๊าซหุงต้มจากต่างประเทศด้วย" นายวรวิทย์ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us